เปิดเวทีเสวนาทุกสัปดาห์ สร้างความเข้าใจใช้ “กัญชา”

กทม. 3 ธ.ค.-กรมการแพทย์แผนไทยฯ เร่งขับเคลื่อนความเข้าใจในการใช้ “กัญชา” ล่าสุดเผย ไตรมาสแรกเปิดเวทีเสวนาทุกสัปดาห์ หวังสร้างความเข้าใจทุกภาคส่วน เห็นคุณค่ากัญชา และใช้อย่างถูกต้อง

นายแพทย์ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จัดประชุมวิชาการ “กัญชา” ของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก หรือ DTAM Forum กำหนดจัดทุกอาทิตย์ซึ่งเป็นวันจันทร์ หรือ วันอังคารในแต่ละสัปดาห์ เวลา 13.00-16.00 น.ของทุกสัปดาห์ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2565 – เดือนธันวาคม 2565 ในรูปแบบไฮบริด คือ ออนไซด์และออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์ ให้ความรู้เกี่ยวกับกัญชาในแง่มุมต่างๆที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้ป่วย ประชาชน และ ผู้ประกอบการมีข้อมูลที่มากพอในการที่จะนำไปใช้ประโยชน์ การจัดประชุมและเสวนาในหัวข้อที่น่าสนใจ ได้แก่ วันจันทร์ที่ 21 พ.ย.65 เรื่อง “การใช้กัญชาไทยในการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง กรณีศึกษา มะเร็งต่อมลูกหมาก ระยะที่ 4”, วันจันทร์ที่ 28 พ.ย.65 เรื่อง “การใช้และส่งเสริมกัญชาเพื่อเศรษฐกิจ ในประเทศและต่างประเทศ, วันอังคารที่ 6 ธ.ค.65 เรื่อง “กัญชา ภูมิปัญญาไทย ในการดูแลสุขภาพ”, วันอังคารที่ 13 ธ.ค.65 เรื่อง “งานวิจัยกับการใช้กัญชาในการดูแล สุขภาพ”, วันจันทร์ที่ 19 ธ.ค.65 เรื่อง “เส้นทางกัญชาไทยสู่มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของโลก และวันจันทร์ที่ 26 ธ.ค.65 เรื่อง“การใช้ศาสตร์การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกร่วมรักษา เพื่อลดความรุนแรงของผู้ติดยาเสพติด” สำหรับท่านใดที่สนใจ สามารถเข้าร่วมรับฟังการเสวนาได้ที่ ห้องประชุม สุวรรณพฤกษ์ อาคาร 1 ชั้น 1 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จ.นนทบุรี และสามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ทาง facebook Live กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก


ในส่วนการผลักดันกัญชาให้เป็นพืชเศรษฐกิจ ทางกรมก็เร่งหาแนวทางดำเนินการให้ไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2565 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้จัดเสวนาในหัวข้อ “การใช้และส่งเสริมกัญชาเพื่อเศรษฐกิจ ในประเทศและต่างประเทศ (สาธารณรัฐมอลตาและสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี)” ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าสนใจ โดยเป็นการเล่าประสบการณ์ จากนักวิชาการ ผู้ประกอบการและ ผู้เกี่ยวข้อง เช่น ดร.ภญ.มณฑกา ธีรชัยสกุล ผอ.กองสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจ เล่าประสบการณ์การใช้ประโยชน์กัญชาทางการแพทย์ซึ่งเป็นประสบการณ์จากการประชุมวิชาการ MED-Can 2022 (สาธารณรัฐมอลตา) โดยกล่าวว่า มูลค่าตลาดกัญชาในยุโรป อยู่ที่ 12,000 ล้านดอลล่าร์ อยู่ตลาดสหรัฐอเมริกาสูงถึง 10,000 ล้านดอลล่าร์ และมีประเทศที่มีกฎหมายกัญชารองรับอยู่ประมาณ 10% สถานภาพผลิตภัณฑ์กัญชาในตลาดโลก แบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเฉพาะ CBD (THC 0%) เป็นผลิตภัณฑ์ในประเทศที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของกฎหมาย (กัญชายังเป็นยาเสพติด) กลุ่มที่ 2 เป็นผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้ทางการแพทย์ พบในประเทศ ที่อนุญาตให้ใช้ได้ภายใต้การควบคุม พบมากกว่า 40 ประเทศ (ประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่มนี้) กลุ่มที่ 3 สามารถใช้กัญชาเพื่อสันทนาการได้ พบในประเทศที่เปิดกัญชาเสรีแบบเต็มตัว ได้แก่ อุรุกวัย จอร์เจียร์ แคนาดา แอฟริกาใต้ สหรัฐอเมริกาใน 17 มลรัฐ นอกจากนี้ยังเล่าถึง หัวข้อสำคัญที่มีการพูดถึงใน MED-Can 2022 ดังนี้ 1) การใช้กัญชาทางการแพทย์ในประเทศอังกฤษ จะต้องเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นที่สั่งจ่าย จึงเกิดการเข้าถึงยากัญชาน้อย ทำให้เกิดการเรียกร้องให้แก้กฎหมายในอังกฤษ 2) การพัฒนาอุตสาหกรรมกัญชาให้เดินหน้าได้ ต้องทำความเข้าใจ ให้ความรู้ เพราะคนยังมีความรู้สึกว่ากัญชาเป็นยาเสพติด ต้องพัฒนากฎหมายเกี่ยวกับการส่งออก ต้องมีระบบบริการจัดการไม่ให้คนใช้ในทางที่ผิด 3) ในอนาคตจะไม่มีเฉพาะผลิตภัณฑ์กัญชา แต่จะมียากัญชาที่มีกระบวนการผลิต มีการระบุหลักการใช้ การออกฤทธิ์ มีงานวิจัยที่บ่งชี้ชัดเจน ขณะนี้มีทั้งรูปแบบยาพ่น ยาอม ยานอนหลับ 4) กัญชาถูกนำมาใช้ทางการแพทย์เป็นอย่างมากเพื่อการลดปวด ในยุโรปและอเมริกา และ 5) การลงทุนต้องรอตลาดให้โตทัน

ล่าสุด หลายประเทศในแถบเอเชียกำลังตื่นตัวในการส่งเสริมธุรกิจกัญชา กัญชง แต่ประเทศไทยได้เปรียบเพราะมีองค์ความรู้ที่แน่น มีตำรับยาแผนไทยเกี่ยวกับกัญชา เป็นประเทศแรกที่มีกฎหมายเกี่ยวกับกัญชา ซึ่งเหล่านี้เป็นโอกาสที่สร้างเศรษฐกิจจากต่างประเทศ โดยเน้น Medical well-being นอกจากนี้ ข้อมูลจาก Asian Cannabis Report กล่าวว่ากัญชามีโอกาสพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายทั้งสำหรับคนและสัตว์ในรูปแบบผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน หากสินค้ามีคุณภาพและมีการวิจัยทางคลินิกรับรองจะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อสูงมาก


นายแพทย์ธงชัย กล่าวในตอนท้ายว่า จะเห็นว่าการจัดประชุมวิชาการดังกล่าวที่เกิดขึ้นเป็นเวทีที่เปิดกว้างเพื่อให้สามารถนำประสบการณ์ องค์ความรู้ด้านกัญชาที่หลากหลายมาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ในการต่อยอดทางภูมิปัญญา แต่ต้องเข้าใจว่า ปัจจุบันในประเทศไทยยังไม่อนุญาตการใช้เพื่อสันทนาการ ส่วนการนำเข้ากัญชาจะยอมรับเพียงบางประเทศ เฉพาะที่มีมาตรฐาน EU GMP ซึ่งในประเทศไทย/ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังไม่รับนำเข้า ดังนั้น ผู้ประกอบการในประเทศไทยต้องศึกษาข้อมูลและกฎหมายของประเทศที่จะส่งออกด้วย และทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเองจะเร่งขับเคลื่อนนโยบายกัญชาทางการแพทย์และเร่งสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการ และประชาชน อย่างต่อเนื่องต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]