“ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” ชวนทุกคนเป็นเจ้าภาพที่ดีต่อมิตรผู้มาเยือนการประชุม APEC 2022

กรุงเทพฯ 9 พ.ย. – “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” ชวนทุกคนเป็นเจ้าภาพที่ดีต่อมิตรผู้มาเยือนในการประชุม APEC 2022


(9 พ.ย. 65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “APEC 2022 Thailand : Showcase at ICONSIAM” ซึ่งมีนายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมเป็นประธานเปิดงาน ณ เจริญนคร ฮอลล์ ชั้น M ไอคอนสยาม เขตคลองสาน

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ทาง กทม. รู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดประชุมระดับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค “APEC 2022 Thailand” โดยเฉพาะงาน Showcase ที่ไอคอนสยามแห่งนี้ งานประชุมเอเปคเป็นงานสำคัญระดับโลกที่ห่างจากเมืองไทยไปเกือบ 20 ปี โดยไทยเคยเป็นเจ้าภาพเมื่อปี ค.ศ. 2003 ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้เป็นการเปิดเมืองหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดได้คลี่คลายลง มีมิติสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและประชาคมโลกเห็นว่าเราพร้อมแล้ว


นอกจากนี้ยังมีความสำคัญใน 2 ส่วน ส่วนแรก ทำให้เราเห็นและเข้าใจว่าเอเปคคืออะไร ถือเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้หาข้อมูลให้พร้อม ได้ทำความเข้าใจประโยชน์ของการประชุม ซึ่งมีมากมายหลายประการ อาทิ การที่มี 21 เขตเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมารวมตัวกัน ทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างมหาศาล

ส่วนที่สอง ความรู้เกี่ยวกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ซึ่งเป็นเทรนด์ของโลกที่ไม่ว่าจะมีการประชุมเอเปคหรือไม่ก็ยังเป็นเทรนด์ที่สำคัญ โดยนิทรรศการที่นำมาแสดงในวันนี้ก็เป็นนวัตกรรมที่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของการประชุมเอเปค ซึ่ง กทม. ก็มีนวัตกรรมทางสุขภาพจากโรงพยาบาลตากสิน มาร่วมแสดงด้วย โดยเป็นการสะท้อนถึงความพร้อมในการดูแลสุขภาพให้กับพี่น้องประชาชน

“กทม. พร้อมที่จะร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการเป็นเจ้าภาพและแสดงไมตรีจิตที่ดีต่อมิตรผู้มาเยือน อยากจะฝากให้ทุกคนร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดีต่อผู้ที่จะมาเยือนด้วย ต้องขอขอบคุณผู้จัดงานนี้ และหวังว่างานนี้จะประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ทุกประการ” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว


สำหรับผู้ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดงานวันนี้ ได้แก่ นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด นางสาวนราทิพย์ รัตตประดิษฐ์ ประธานบริหารสายงานปฏิบัติการ (Chief Operating Officer) บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และเลขาธิการองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ว่าที่ร้อยตรีสรวุฒิ วิเศษสงวน ผู้อำนวยการเขตคลองสาน ดร.เขมนิจ จามิกรณ์ ศิลปิน นักแสดง ผู้ทำงานด้านสิ่งแวดล้อม นพ.ขจร อินทรบุหรั่น ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตากสิน คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สื่อมวลชน และประชาชน

ความพร้อมของ กทม. ในการจัดประชุมเอเปค
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม. รับผิดชอบในเรื่องความสะอาดเรียบร้อยในการเตรียมต้อนรับ ซึ่งเราได้ดำเนินการเต็มที่ตามแผนปฏิบัติการ โดยได้มีการมอบหมายงานชัดเจน เช่น การปรับปรุงผิวถนนในบริเวณที่ผู้เข้าประชุมจะใช้ การตกแต่งพื้นที่บริเวณศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์และพื้นที่โดยรอบ มีการซ้อมร่วมกับฝ่ายความมั่นคงในการเตรียมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยต่างๆ รวมไปถึงมีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ยังได้มีการซักซ้อมและฝึกอบรมพนักงานเก็บขยะ พนักงานกวาด ที่ดูแลความสะอาดในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้ช่วยเป็นหูเป็นตาร่วมกับฝ่ายความมั่นคง คิดว่าทุกอย่างพร้อมเดินหน้าไป ส่วนเรื่องการปิดถนนหรือสถานีรถไฟฟ้าศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ คงต้องรอวันที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่งว่าจะต้องปิดช่วงเวลาไหนถึงช่วงเวลาไหน ในส่วนของสวนเบญจกิติ จะปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 14-20 พ.ย. 65 สำหรับภาพรวม กทม. เป็นฝ่ายสนับสนุน และมีความพร้อมตามข้อสั่งการที่ได้รับมอบหมายมา

เชิญชมงานแสดงนวัตกรรมความรู้สู่ความยั่งยืน “APEC 2022 Thailand : Showcase at ICONSIAM” บัดนี้ถึงวันที่ 20 พ.ย. 65

ในโอกาสที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Asia Pacific Economic Cooperation : APEC) หรือเอเปค ปี 2565 กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหาร สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ในฐานะพันธมิตรด้านการสื่อสารและประชาสัมพันธ์การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคปี 2565 ของไทย จึงได้ร่วมกับกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ จัดงาน “APEC 2022 Thailand : Showcase at ICONSIAM” ระหว่างวันที่ 9-20 พ.ย. 65 ณ เจริญนคร ฮอลล์ ชั้น M ไอคอนสยาม งานแสดงนวัตกรรมความรู้สู่ความยั่งยืน APEC 2022 Thailand เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับการประชุมเอเปค ภายใต้แนวคิด Open. Connect. Balance. หรือ “เปิดกว้าง สร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” พร้อมสร้างการรับรู้ให้คนไทยภาคภูมิใจและมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคในครั้งนี้ โดยนำเสนอในรูปแบบจำลองเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตยั่งยืน

ภายในงานพบกับการจัดแสดงนวัตกรรมและองค์ความรู้ต่างๆ ตามแนวทางการสร้างสมดุลในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ภายใต้โมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy Model หรือ BCG Economy Model) ในรูปแบบจำลองเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตยั่งยืน โดยแบ่งพื้นที่จัดแสดงออกเป็น 4 โซน ประกอบด้วย

1.นิทรรศการประวัติความเป็นมาและความสำคัญของเอเปค นำเสนอเรื่องราวตลอด 33 ปี แห่งความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แหล่งบ่มเพาะทางความคิดของภูมิภาคที่ไม่เคยหยุดพัฒนา และในครั้งนี้ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพ APEC 2022 พร้อมเปิดกว้างสู่ทุกโอกาส เชื่อมโยงในทุกมิติ และสร้างสมดุลในทุกด้าน สู่การพัฒนาเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของทุกคน

2.จัดแสดงนวัตกรรมและองค์ความรู้เกี่ยวกับ Bio-Circular-Green Economy Model หรือ BCG นำเสนอเนื้อหาของโมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งประกอบด้วย 3 ด้าน ได้แก่ Bio Economy การส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมด้วยนวัตกรรม ระบบเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรชีวภาพอย่างคุ้มค่า Circular Economy การจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ (360˚ Waste Journey) และ Green Economy ลดภาวะโลกร้อน ระบบเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสมและคุ้มค่า กระจายความมั่นคงอย่างทั่วถึง พร้อมยกระดับคุณภาพความเป็นอยู่และลดความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม

3.โมเดลธุรกิจที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศไทยด้วยแนวคิด Bio-Circular-Green Economy Model หรือ BCG จัดแสดงข้อมูลและนวัตกรรมของ 4 ประเภทธุรกิจ ที่สอดคล้องกับวาระแห่งชาติของรัฐบาลที่ได้กำหนดนโยบายการขับเคลื่อน ได้แก่ “เกษตรและอาหาร” โดยบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ และบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (โออาร์) “สุขภาพและการแพทย์” โดยโรงพยาบาลตากสิน “พลังงาน วัสดุ และเคมีชีวภาพ” โดยบริษัท ไทยสมายล์บัส จำกัด เอสซีจี หรือบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด และ “การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์” โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

4.เวทีกิจกรรมเสวนาให้ความรู้เกี่ยวกับ Bio-Circular-Green Economy Model หรือ BCG โดยผู้ประกอบการ SME ที่ประสบความสำเร็จจากการนำโมเดลเศรษฐกิจ BCG ไปปรับใช้ในธุรกิจ สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าก้าวสู่ตลาดโลกได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

“อ.เฉลิมชัย” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ

9 มิ.ย. – “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ ให้เหตุผลเป็นความตั้งใจว่าครบ 70 ปี จะลาออกทุกตำแหน่ง เพื่อเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังพร้อมช่วยกระทรวงและวงการศิลปะ จากกรณี อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม ประกาศระหว่างบรรยายในงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 สู่ Thailand Biennale, Phuket 2025 ที่ จ.ภูเก็ต ว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 พฤษาคมที่ผ่านมา เพื่อใช้ชีวิตอย่างอิสระ เนื้อหาในจดหมายที่ถูกเผยแพร่ออกมาซึ่งเขียนด้วยลายมือของ อ.เฉลิมชัย ถึงกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ลงวันที่ 30 พฤษภาคม มีใจความสำคัญว่า “เหตุผลของการลาออก เนื่องด้วยข้าพเจ้ามีอายุมากแล้ว จึงได้ประกาศหยุดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพราะปรารถนาที่จะพักผ่อน ท่องเที่ยว หาความสุขในบั้นปลายของชีวิต ข้าพเจ้ารู้สึกส่วนตัวว่า เมื่อศิลปินแห่งชาติได้หยุดสร้างสรรค์ผลงานแล้วก็ไม่ควรที่จะมีตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้อีกต่อไป ข้าพเจ้าจึงขอให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมโปรดพิจารณาตัดชื่อข้าพเจ้าออกจากทำเนียบศิลปินแห่งชาติด้วย” ภายหลัง อ.เฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติว่า […]

“อนุทิน” สั่งเร่งตรวจสอบหลุมหลบภัยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 9 มิ.ย. – “อนุทิน” สั่งการผู้ว่าฯ 7 จังหวัดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อตรวจติดตามความพร้อมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ติดต่อกับชายแดนประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา และได้รับทราบข้อมูลต่างๆในพื้นที่ ล่าสุด ได้มีข้อสั่งการให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และจังหวัดตราด เร่งดำเนินการตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ทั้งหมด โดยสำรวจว่ามีหลุมหลบภัยที่สามารถใช้งานได้ในสภาพดีจำนวนกี่แห่ง จำนวนหลุมหลบภัยที่ชำรุดและต้องการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมกี่แห่ง รวมทั้งสำรวจความต้องการในการก่อสร้างหลุมหลบภัยในพื้นที่เพิ่มเติม พร้อมระบุสถานที่และประมาณการงบประมาณที่ต้องการขอรับการสนับสนุน รายงานมายังกระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป .319.-สำนักข่าวไทย

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

The Ministry of National Defence claims Cambodia has not withdrawn troops from its sovereign territory

กห.กัมพูชายืนยันไม่ได้ถอนทหารจากดินแดนอธิปไตย

พนมเปญ 9 มิ.ย. – กระทรวงกลาโหมแห่งชาติ เน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่ได้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชายึดครองมายาวนาน เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชาวันนี้ มีเนื้อหาดังนี้ “ตามแถลงข่าวจากกระทรวงกลาโหมแห่งชาติในวันนี้ กระทรวงฯ ขอชี้แจงต่อสาธารณชนและสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ดังต่อไปนี้: 1.ไม่มีการถอนกำลังทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชาได้ประจำการมาเป็นเวลานาน 2.การดำเนินการทั้งหมดของกองทัพกัมพูชาประกอบด้วยการประจำการ การจัดวางกำลัง การปรับเปลี่ยน และการเคลื่อนย้าย อยู่ภายในอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาและมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา 3.กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางออกอย่างสันติสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการรุกรานทุกรูปแบบ 4.กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะสนับสนุนกลไกการเจรจาเขตแดนกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการเขตแดนร่วมหรือเจบีซี (JBC) เพื่อดำเนินการวัดแนวเขตแดนและจัดทำเส้นเขตแดนในส่วนที่เหลือระหว่างสองประเทศ รวมถึงจุดที่กัมพูชาจะยื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือไอซีเจ (ICJ) กระทรวงกลาโหมแห่งชาติขอให้เพื่อนร่วมชาติและสื่อมวลชนใช้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น โดยเฉพาะแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากรัฐบาลกัมพูชาและกระทรวงกลาโหมแห่งชาติ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แท้จริง และเชื่อถือได้” .-814.-สำนักข่าวไทย