กรมควบคุมโรคเผยฉีดวัคซีนโควิดเด็กพร้อมวัคซีนอื่นได้

กรุงเทพฯ 13 ต.ค. – กรมควบคุมโรค เผยการฉีดวัคซีนโควิด-19 กระตุ้นในกลุ่มเด็กปฐมวัย อายุ 6 เดือน – 4 ปี เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน โดยสามารถฉีดพร้อมกับวัคซีนอื่นๆ ในวันเดียวกันได้


วันที่ (13 ตุลาคม 2565) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากมติการประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค แนะนำให้เด็กอายุ 6 เดือน – 4 ปี เข้ารับวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) ฝาสีแดง เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน โดยจากข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 พบว่า ในเด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี พบอัตราป่วยสูงเป็น 1.5 เท่าของเด็กอายุ 5-9 ปี และพบอัตราการเสียชีวิตสูงเป็น 3 เท่าของเด็กอายุ 5-9 ปี เพื่อป้องกันอาการรุนแรงและเสียชีวิต ผู้ปกครองจึงควรพาบุตรหลานเข้ารับวัคซีนตามกำหนด

สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไฟเซอร์ (Pfizer) ฝาสีแดง จะฉีดให้เด็กตั้งแต่อายุ 6 เดือน – 4 ปี ซึ่งกำหนดให้ฉีดวัคซีน 0.2 ซีซี (3 ไมโครกรัม) จำนวน 3 เข็ม เข็มสองห่างจากเข็มแรก 1 เดือน และเข็มสามห่างเข็มสอง 2 เดือน หลังฉีดให้สังเกตอาการ 30 นาที และติดตามต่อจนครบ 1 เดือน โดยให้จัดจุดบริการแยกจากกลุ่มวัยอื่น เพื่อป้องกันความสับสนในการใช้วัคซีน


“เด็กทุกคนควรเข้ารับวัคซีน โดยเฉพาะเด็กที่มีโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรครุนแรงหรือเสียชีวิต พร้อมทั้งได้มีการสื่อสารถึงเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และสาธารณสุขในเรื่องการบริหารจัดการวัคซีนไฟเซอร์สีแดง โดยให้ผ่านระบบสถานพยาบาล หรืออาจพิจารณาให้วัคซีนในศูนย์เด็กเล็ก ภายใต้กำกับของแพทย์ หรือตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร เห็นสมควร เริ่มฉีดวัคซีนได้เมื่อมีความพร้อม โดยให้เป็นไปตามความสมัครใจของผู้ปกครองและเด็ก ไม่เสียค่าใช้จ่าย และการรับวัคซีนไม่เป็นเงื่อนไขในการไปโรงเรียน” นพ.ธเรศ กล่าว

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า วัคซีนดังกล่าวสามารถให้พร้อมกับวัคซีนอื่นๆ ในวันเดียวกันได้ หรือห่างกันเท่าใดก็ได้ สำหรับข้อกังวลเรื่องผลข้างเคียง สหรัฐอเมริกามีการฉีดและติดตามล้านกว่าโดส พบว่ามีผลข้างเคียงน้อยกว่าเด็กโต ไม่มีอาการแทรกซ้อนรุนแรงถึงเสียชีวิต ถือว่าปลอดภัยสำหรับเด็กเล็ก และยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะ MIS-C จากการติดเชื้อด้วย โดยขณะนี้กรมควบคุมโรคได้จัดส่งวัคซีนไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่ง เพื่อให้กระจายต่อในพื้นที่ตามจำนวนที่มีการแจ้งความประสงค์ ขอเชิญผู้ปกครองที่สนใจพาบุตรหลานเข้ารับวัคซีนสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ ณ สถานพยาบาลทั่วประเทศ ตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือกรุงเทพมหานครกำหนด. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก