สธ. 18 ส.ค.- กรมอนามัย ปรับเกณฑ์วัดรอบเอวใหม่ เน้นเข้าใจง่าย ใช้ส่วนสูงหารสอง ทำให้ทราบว่ารอบเอวที่เหมาะสมกับสมดุลร่างกายตัวเองไม่ควรเกินเท่าไร ห่วงพฤติกรรมช่วงโควิดที่สั่งสมมา ทั้งเนือยนิ่ง บริโภคแบบรวดเร็วเดลิเวอรี ทำให้ไม่ขยับร่างกาย ก่อโรคเรื้อรัง
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงการปรับเกณฑ์การประเมินภาวะโภชนาการวัยทำงานและผู้สูงอายุ โดยใช้ดัชนีมวลกาย ร่วมกับรอบเอวปกติต้องไม่เกินส่วนสูงหารสอง ว่า การปรับการประเมินดังกล่าว เนื่องจากเพื่อให้ทราบค่าไขมันส่วนเกินของร่างกายอย่างชัดเจน เนื่องจากหากกำหนดค่า BMI ที่เป็นการนำน้ำหนักหารด้วยส่วนสูงยกกำลังสองเพียงอย่างเดียว อาจทำให้ได้ข้อมูลที่ไม่สะท้อนกับความเป็นจริง เนื่องจากพบว่าคนส่วนใหญ่เมื่อวัดค่า BMI มักไม่เกินค่าเฉลี่ย แต่หากนำส่วนสูงหารสอง จะทำให้ได้รู้สมดุลของรอบเอวที่ควรมี เช่น สูง 150 เซนติเมตร รอบเอวก็ไม่ควรเกิน 75 เซนติเมตร ช่วยลดและควบคุมไขมันในช่องท้องได้ เพราะเกิดการตระหนัก และวัดได้ง่าย ช่วยป้องกันการเกิดโรค NCD หรือโรคติดต่อเรื้อรัง
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า สำหรับโรค NCD หรือโรคติดต่อเรื้อรัง ในช่วงโควิด-19 แม้ไม่ได้วัดจำนานผู้ป่วยว่ามากขึ้นหรือไม่ แต่หากคาดการณ์ก็คาดว่าน่าจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น สาเหตุมาจากพฤติกรรมและกิจกรรม ทั้งการเนือยนิ่ง ไม่ขยับร่างกาย จากการ WFH หรือจากการสั่งอาหารผ่านระบบเดลิเวอรี ที่ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ได้ขยับ และมีความสะดวกในการซื้อหาสิ่งของที่ง่าย สะดวกขึ้น เกิดภาวะน้ำหนักเกินในเด็กและวัยรุ่น ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง ทั้งเบาหวาน ความดันโลหิต และหลอดเลือด.-สำนักข่าวไทย