วิจารณ์หนัก หมอพื้นบ้านอมเหล้าพ่นใส่ปากรักษาโรค

ขอนแก่น 17 ส.ค. – เกิดกระแสดราม่าหนัก หลังมีติ๊กต็อกหมอพื้นบ้านรักษาโรคฝีในปาก อมเหล้าขาวพ่นใส่ปากหญิงชรา จนหมอต้องปรับวิธีรักษา เลิกอมเหล้าพ่น หันมาใช้สเปรย์แทน แต่ยืนยันที่จะรักษาต่อไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่


ผู้ใช้ tiktok ชื่อ หมอสมุนไพรพื้นบ้าน ได้โพสต์คลิป ชายท่องคาถา อมเหล้าขาว แล้วพ่นใส่ปากหญิงชรา ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม จากนั้นก็ทำท่าบริกรรมคาถา ก่อนจะเป่าที่หญิงชราอีกครั้ง ก่อนที่หญิงชราจะก้มลงกราบ โดยได้ระบุในคลิปว่า “ที่พึ่งสุดท้าย ฝีภายในปาก #ที่พึ่งสุดท้าย #หมอสมุนไพรพื้นบ้าน” ทำให้คนเข้ามาเมนต์จำนวนมาก เช่น ไปหาหมอ จะมาที่พึ่งสุดท้ายอะไร, ติดเชื้อหนักกว่าเดิมไหม จนเป็นกระแสดราม่าหนักในสื่อออนไลน์

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่คลินิกโพธิ์งามการแพทย์ไทยที่บ้านเหล่าโนนคูณ ตำบลโนนศิลา อ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น ไปพบกับนายชิษณุพงศ์ โพธิ์งาม อายุ 30 ปี ชายที่ปรากฏในคลิปและเป็นหมอพื้นบ้านอีสาน มีลูกศิษย์ลูกหาทั้งคนไข้ และญาติคนไข้เดินทางมารักษากันอย่างต่อเนื่อง บางคนก็มารักษา บางคนรักษาหายก็มาทำพิธีขอบคุณ หรือชาวอีสานเรียกว่า พิธีปงคาย หรือพิธีไหว้ครู


นายชิษณุพงศ์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะรักษาคนไข้ด้วยวิธีการเป่า ตนเคยป่วยมาก่อน แต่หมอหาสาเหตุไม่เจอ จนกระทั่งไปเจอหมอพื้นบ้านอีสานดั้งเดิม จึงได้ไปรักษากับหมอพื้นบ้านจนหาย จากนั้นก็ได้เชื่อและศรัทธามาโดยตลอด และได้ศึกษาเรียนรู้วิธีการรักษาจากหมอพื้นบ้าน และได้เปิดให้คนไข้ที่ป่วยแล้วรักษาแบบแพทย์แผนปัจจุบันไม่หาย หรือป่วยระยะสุดท้ายมารักษากับตนเองแบบแพทย์แผนโบราณ

สำหรับขั้นตอนการรักษา ก็จะมีพิธีการขอขมาครูบาอาจารย์ ด้วยการยกขันธ์ 5 หรือ เครื่องพานบูชาครู ประกอบด้วย เหล้าขาว 1 ขวด ไข่ไก่ 1 ฟอง เทียน 1 เล่ม กรวยดอกไม้ 4 กรวย ผ้าขาวม้า 1 ผืน ผ้าซิ้นหรือผ้าถุง 1 ผืน และเงินอีก 12-16 บาท

ตนเองก็เปิดรับรักษามาแล้วกว่า 3 ปี มีคนไข้ไม่ต่ำกว่าวันละ 20-30 ราย ยอมรับว่าหลังมีกระแสดราม่าเกิดขึ้น หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าตนเองรักษาแบบนี้กับทุกคน แต่กรณียายภายในคลิปได้ป่วยเป็นฝีในปาก ตนจึงอมสมุนไพรกับเหล้าขาวพ่นที่ปาก ซึ่งก็เป็นการรักษาแบบดังเดิม ไม่คิดว่าจะมีกระแสตอบกลับที่รุนแรง ตอนนี้จึงได้ปรับปรุงวิธีการรักษา จากการรักษาแบบดั้งเดิมคือการเป่ารักษา ก็หันมาใช้สเปรย์พ่นรักษาแทน


ขณะเดียวกันคุณยายที่อยู่ในคลิปวันนี้ก็เดินทางมารักษาด้วย โดยคุณยาย เป็นชาว อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์บอกเพียงสั้นๆ ว่า เหมารถมาจากจังหวัดสุรินทร์ 2,500 บาท และมาเช่าบ้านอยู่ใกล้ ๆ กับบ้านหมอ โดยยายป่วยเป็นฝีในปาก สาเหตุมาจากฟันหลุด ทำให้บวมแดง จากนั้นก็เกิดเป็นฝีในปาก ลูกหลานพาไปหาหมอ หมอได้เอาชิ้นเนื้อในปากไปตรวจ แต่เนื่องด้วยยายแก่ชรามาก จึงไม่ได้รักษาด้วยคีโม เมื่อเห็นคลิปการรักษาแบบพื้นบ้าน จึงได้ให้ลูกหลาน เหมารถมา ตอนแรกทานข้าวไม่ได้ พอมารักษาที่นี่ อาการปวดเริ่มทุเลาลง กินข้าวได้มากขึ้น. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง