โรงเรียน 4 แห่งแนวชายแดนเปิดการเรียนตามปกติ

ตาก 4 ก.ค. – โรงเรียน 4 แห่งแนวชายแดน อ.พบพระ จ.ตาก เปิดทำการเรียนการสอนตามปกติหลังปิดเรียนรวมวันหยุดไป 4 วัน แต่ยังมีการซ้อมแผนหนีภัยหลังได้รับผลกระทบการสู้รบในเมียนมา


สถานการณ์ความตึงเครียดที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา จากการสู้รบระหว่างทหารทหารเคเอ็นยูกับทหารเมียนมา ที่ยิงปะทะกันอย่างหนักด้วยอาวุธหนักนานกว่า 7 วัน ซึ่งตลอดวันเสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมาสถานการณ์เริ่มคลี่คลายดีขึ้น หลังทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยูถอนกำลังออกจากการปิดล้อมฐานบ้านอูเกรทะ ซึ่งจุดปะทะอยู่ตรงข้ามกับพื้นที่บ้านวาเล่ย์ใต้ ตำบลพบพระ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ทำให้โรงเรียนในพื้นที่ชายแดนใกล้กับจุดปะทะจำนวน 4 แห่ง ปิดโรงเรียนชั่วคราวนาน 4 วัน

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาโรงเรียนทั้ง 4 แห่งได้เปิดทำการเรียนการสอนแล้ว หลังตลอดสองวันที่ผ่านมาไม่มีเสียงปืนและเสียงระเบิดในฝั่งเมียนมา ส่วนที่โรงเรียนบ้านวาเล่ย์ ซึ่งอยู่ติดแนวชายแดนมากที่สุด ช่วงเช้าที่ผ่านมาครูและนักเรียนยังเตรียมซ้อมแผนการหนีภัยโดยซ้อมความเข้าใจกับนักเรียนถ้าหากเกิดสถานการณ์การสู้รบขึ้นมาอีกในระหว่างเรียนหนังสือ


ด้านนางอมรรัตน์ พรหมขัติแก้ว ผอ.โรงเรียนบ้านวาเล่ย์ กล่าวว่าวันนี้โรงเรียนได้เปิดทำการเรียนการสอนแล้ว แต่ยังเฝ้าติดตามสถานการณ์ในเมียนมาอย่างใกล้ชิดและใช้ความปลอดภัยของนักเรียนเป็นหลัก หากมีสถานการณ์เกิดขึ้นอีกโรงเรียนจะประกาศให้นักเรียนเข้าไปหลบในหลุมหลบภัยของโรงเรียนซึ่งเป็นหลุมหลบภัยขนาดใหญ่มั่นคงและแข็งแรงซึ่งมีการซักซ้อมอยู่เป็นประจำ

ขณะเดียวกันแม้ว่าเสียงปืนการยิงปะทะจะสงบลงชั่วคราว แต่สถานการณ์ล่าสุดมีรายงานว่าทหารเมียนมาจำนวนมากกำลังเข้าไปเสริมในพื้นที่จุดยุทธศาสตร์ใกล้กับฐานทหารอูเกรทะ ทำให้ชาวกะเหรี่ยงหลายหมู่บ้านซึ่งมีบ้านเรือนอยู่ฝั่งตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ชาวเดินทางข้ามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ขอหลบภัยการสู้รบชั่วคราวในพื้นที่ปลอดภัยในฝั่งประเทศไทย จำนวนสามแห่ง คือ 1.บ้านมอเกอร์ไทย 2.บ้านวาเล่ย์เหนือ 3.บ้านหมื่นฤาชัย ซึ่งทั้งสามแห่งเป็นพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวที่ทางฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ จัดไว้รองรับผู้หนีภัยการสู้รบชาวเมียนมา ซึ่งยอดผู้หนีภัยชาวเมียนมาล่าสุดมีจำนวน 785 คน คาดว่าถ้าสถานการณ์กลับมาตึงเครียดขึ้นอีกผู้หนีภัยชาวเมียนมาก็อาจจะข้ามแนวชายแดนมามากยิ่งขึ้น

ส่วนการส่งกลับผู้หนีภัยจากการสู้รบทั้งสามแห่งจะขึ้นอยู่กับความสมัครใจในการเดินทางกลับ ซึ่งขณะนี้ผู้หนีภัยซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิงยังคงไม่มั่นใจในสถานการณ์จึงยังขอดูสถานการณ์ในประเทศไทยต่อไป


เครื่องบินเอฟ-16 ของกองทัพอากาศไทย จำนวน 2 ลำ ยังคงบินลาดตระเวนบนน่านฟ้าไทยชายแดนไทย-เมียนมา ด้านอำเภอพบพระ จังหวัดตาก อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันเครื่องบินรบของเมียนมาบินรุกล้ำน่านฟ้าไทยเพื่อโจมตีทหารกะเหรี่ยง เหมือนเมื่อ 4 วันก่อน ขณะที่กำลัง ตชด. และทหารภาคพื้นดินใช้รถหุ้มเกราะวี 150 ตระเวนตามพื้นที่ชายแดนไทยตลอดแนวจากพบพระถึงแม่สอด เพื่อรักษาความปลอดภัยให้ชาวบ้านและป้องกันทั้งฝ่ายกองกำลังกะเหรี่ยงและทหารเมียนมา รุกล้ำเข้ามาในผืนแผ่นดินไทย แม้ว่าการสู้รบของทั้ง 2 ฝ่าย ที่ยิงสู้รบกันมาตลอด 7 วัน จะหยุดลงชั่วคราว มา 2 วันแล้ว หลังทหารเมียนมาสามารถยึดฐานทหารที่ถูกกะเหรี่ยงตีแตกคืนมาได้แล้ว แต่ยังมีเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงเสบียงและยุทโธปกรณ์เสริมเข้ามาในพื้นที่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์ของไทยอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่กองกำลังกะเหรี่ยงและพันธมิตร มีรายงานว่าถอยร่นลงไปตามแนวชายแดนตรงข้ามกับอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ซึ่งหลายฝ่ายยังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพราะเชื่อว่าการสู้รบระลอกใหม่จะเกิดขึ้นอีก เพราะมีสัญญาณจากชาวกะเหรี่ยงในฝั่งเมียนมาที่ยังทะลักเข้ามาฝั่งไทยอย่างต่อเนื่องรวมกว่า 700 คน ไม่รวมที่หลบหนีอยู่ตามป่าและพักตามบ้านญาติในฝั่งไทยซึ่งรวมแล้วน่าจะมีนับพันคน

ขณะที่วันนี้ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร เดินทางไปที่อำเภอพบพระ จังหวัดตาก เพื่อรับทราบข้อมูลผลกระทบจากการสู้รบของทหารกะเหรี่ยงและเมียนมา โดย ส.ส.เต้ เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีออกมาขอโทษชาวไทยตามแนวชายแดนจังหวัดตากที่ทำให้รู้สึกหวาดกลัวและไม่ปลอดภัย เพราะการรักษาอธิปไตยของประเทศเป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่เรื่องเล็ก โดยกรรมาธิการการทหาร จะเชิญผู้บัญชาการทหารอากาศ มาให้ข้อมูลถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่อนุกรรมาธิการเสริมสร้างกองทัพ เตรียมเชิญผู้บัญชาการทหารบกและแม่ทัพภาคที่ 3 มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการปกป้องอธิปไตยตามแนวชายแดนด้วย เพื่อดูว่ามีความบกพร่องหรือไม่ โดยเฉพาะช่วงที่เครื่องบินรบของเมียนมาบินเข้ามากองกำลังภาคพื้นดินมีการตรวจจับเรดาห์เครื่องบินของเมียนมาและบันทึกไว้หรือไม่ ประสานกับกองทัพอากาศอย่างไร และมีการสั่งการอย่างไร ตอบโต้ทันการหรือไม่ หลังได้ข้อเท็จจริงแล้ว จะใช้มติกรรมาธิการการทหารเชิญนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม มาชี้แจงด้วยเพราะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ

ขณะที่นายสมพงษ์ ฟุ้งทวีวงศ์ นายอำเภอพบพระ ยืนยันว่า ได้เตรียมพื้นที่ปลอดภัยไว้ที่ อบต.วาเล่ย์ ให้สำหรับราษฎรไทยตามตะเข็บชายแดน ที่รู้สึกไม่ปลอดภัยให้สามารถมาอาศัยชั่วคราวได้ พร้อมให้การช่วยเหลือชาวกะเหรี่ยงที่หนีภัยจากการสู้รบเข้ามา ตามหลักมนุษยธรรม .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย