นครศรีธรรมราช 3 พ.ค.- “ยุทธนา แต่งวงศ์” นายกฯ สื่อเมืองคอนไม่ทน! เดินหน้าฟ้องสมีกาโตะ โต้ปมถูกกล่าวหารับเงิน 3 แสน แลกกับการปิดข่าวมีสัมพันธ์สาว
ประเด็นร้อนที่ต้องตามต่อกรณีสมีกาโตะหรือนายพงศกร จันทร์แก้ว โยนเผือกร้อนให้นักข่าวเมืองนครศรีธรรมราช อ้างผ่านรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งว่า ได้จ่ายเงินจำนวน 300,000 บาท ให้กับสื่อท้องถิ่น เพื่อแลกกับการไม่นำเสนอข่าวสมีกาโตะในครั้งยังครองผ้าเหลือง ไปเสพเมถุนกับสีกา ทำให้สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราชออกมาโต้กลับ ไม่เคยรับเงินจากสมีกาโตะตามที่ถูกกล่าวอ้าง พร้อมเข้าแจ้งความตำรวจ เริ่มจากนายยุทธนา แต่งวงศ์ นายกสมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช เมื่อวานนี้ (2 พ.ค.) เดินทางไปลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ไว้เป็นหลักฐาน ในฐานความผิดหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จนกว่าสมีกาโตะจะนำหลักฐานการโอนเงินที่อ้างว่าจ่ายให้นักข่าวมาเปิดเผยและขอให้ตำรวจ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงให้กระจ่าง ย้ำว่าหากไม่ได้รับความร่วมมือและไม่มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่ถูกต้องจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
และล่าสุดวันนี้ นายสุเชษฐ์ แรกรุ่น นายกสมาคมผู้สื่อข่าวนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนางนุชจรี แรกรุ่น, นายกฤษณะ ทิวัฒน์ศิริกุล และบรรดานักข่าวเมืองนครศรีธรรมราช เดินทางไปลงบันทึกประจำวัน ขอให้ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบพฤติการณ์ของสมีกาโตะที่กล่าวหานักข่าวท้องถิ่น เข้าข่ายความผิดหมิ่นประมาทกรณีอ้างว่าจ่ายเงินนักข่าว 300,000 เพื่อแลกกับการปิดข่าวฉาวกับสีกา ย้ำว่าแม้การกล่าวอ้างไม่ได้ระบุชื่อบุคคลใด แต่การสื่อสาร ที่ทำให้ผู้สื่อข่าวนครศรีธรรมราชโดยรวมถูกเข้าใจผิดว่าเรียกรับเงิน และถูกดูถูกและเกลียดชัง ซึ่งรองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับเรื่องไว้แล้ว
ประเด็นเผือกร้อน เกิดขึ้นเนื่องจากเมื่อวานนี้ รายการโทรทัศน์รายการหนึ่งได้เชิญ สาวในคลิปเสียงฉาวมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสมีกาโตะในครั้งยังครองผ้าเหลือง ซึ่งสาวคนดังกล่าวเปิดใจยอมรับเจอกับสมีกาโตะครั้งแรกที่วัด เมื่อวันที่ 31 มกราคม โดยครั้งนี้ไปทำบุญตามปกติ เพราะวัดอยู่ใกล้บ้าน แต่ก่อนหน้านั้นก็ติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ของสมีกาโตะผ่าน IG มาตลอด เพราะชื่นชอบคำคมธรรมะ / และจากวันนั้นก็ได้มีการแอดไลน์คุยกันเพื่อนัดเวลาที่จะมาบุญตลอด / ยอมรับว่า การได้ฟังธรรมะของสมีกาโตะ ทำให้รู้สึกดี พร้อมยืนยันว่าที่เคยพูดว่าป่วยไบโพลาร์นั้นป่วยจริง มีหลักฐานการรักษาด้วย
ส่วนที่ไปมีสัมพันธ์กับสมีกาโตะบนรถ เริ่มจากสมีกาโตะไลน์มาคุย และบ่นว่าปวดเมื่อยเอวมาก เพราะนั่งเทศน์นาน อยากให้คนมานวด ซึ่งตัวเองก็แคลงใจ ถามกลับไปว่า หากมีหมอนวดผู้หญิง (คนอื่น) มานวดจะบาปไหม แต่สมีกาโตะบอกว่า “ไม่บาป” เพราะมีเจตนาดีในการช่วยพระให้หายจากการปวดเมื่อย จากนั้นมีการนัดแนะให้มารับที่วัดช่วงกลางคืน และขับรถออกไปด้วยกัน ตองเองก็ถามย้ำว่า การมาอยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 แบบนี้บาปหรือไม่ สมีกาโตะก็ยังยืนยันว่า “ไม่บาป” และเมื่อไปถึงบริเวณสันเขื่อนกะทูน จุดที่สมีกาโตะบอกอยากไป ตองก็เริ่มนวด กระทั่งเกิดเรื่องขึ้น และการมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสมีกาโตะ ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งเดียว และตองยอมรับว่ามีส่วนผิดที่ทำเรื่องแบบนี้ ที่ก่อนหน้านี้กลับคำ ออกมาบอกสื่อว่า ป่วยไบโพลาร์ และยอมรับว่ากุเรื่องขึ้นเพราะเครียด รวมถึงถูกพระผู้ใหญ่รูปหนึ่งติดต่อมากดดัน อ้างเป็นตัวกลางช่วยแก้ปัญหา และให้คำแนะนำว่าให้ไปพูดกับสื่อแบบนี้จะทำให้เรื่องจบด้วยดี อีกทั้งพ่อของสมีกาโตะก็ติดต่อมาบอกว่าจะมอบเงินให้ 300,000 บาทแลกกับการจบเรื่อง ทำให้จำใจต้องพูดกลับคำที่เคยบอกมีสัมพันธ์กับสมีกาโตะออกไป
ด้านสมีกาโตะ โต้กลับว่าวันที่เกิดเรื่องในรถ แม้จะพาตองไปเขื่อนกะทูนตอนช่วง 4 ทุ่มจริง แต่ทำไปเพราะผู้หญิงเค้ายั่ว เค้าเย้า และถูกบังคับขู่เอาเงินตั้งแต่รอบแรก ผู้หญิงก็เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย บอกว่าต้องใช้เงิน ให้โอนเงินให้ตลอด ยอมรับตอนนั้นยังเด็ก ยับยั้งไม่อยู่ พลาดเพราะมีสิ่งยั่วยุ ครั้งที่ 2 ก็ปฏิเสธทุกอย่าง แต่รู้ว่าถูกแบล็คเมล์แล้ว มีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง ผู้หญิงบอกว่าขาดเงิน 30,000 บาท แต่ปรากฏไม่จบ ยังขออีก 40,000 บาท ตัวเองก็ยอมให้ ยืนยันยอมรับว่าพลาด แถมพอเรื่องรู้ถึงหมอปลา ผู้หญิงก็บอกว่า ถ้าอยากให้จบให้โอนเงินมาอีก 100,000 บาท ซึ่งสุดท้ายโอนไปให้เรื่องก็ยังไม่จบ สมีกาโตะยืนยันไม่ได้หลงรัก แต่คึกคะนอง และเงินที่ให้ผู้หญิงไม่ใช่เงินวัด แต่เป็นเงินส่วนตัวที่ได้มาจากการเทศน์ เรื่องสึกตั้งใจว่าจะสึกไว้นานแล้วเตรียมไว้คือปลายปีนี้ แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหว
ด้านตองพอได้ฟังประเด็นแบล็กเมล์ ยืนยันไม่ได้แบล็คเมล์สมีกาโตะ แต่เป็นการคบกันคุยกันของคน 2 คน ความสัมพันธ์เป็นเรื่องของสามีภรรยา ต้องพูดกันตรงๆ ไม่ได้ขู่
จากนั้นมีการพูดกันถึงประเด็นสื่อท้องถิ่นรับเงิน 300,000 บาท แลกกับการปิดข่าวฉาว แต่สุดท้ายเรื่องก็ยังแดงออกมา ทั้งนี้ หลากหลายประเด็นในข่าวที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับสมีกาโตะ และสีกาตอง ทำให้วงการผ้าเหลืองเสื่อมเสีย แต่ก่อนที่จะมาถึงวันนี้ อยากให้ไปย้อนฟังช่วงที่สมีกาโตะอายุ 21 ปี และเทศน์สอนสีกาที่ไปวัดให้แต่งตัวมิดชิดกันอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย