นครราชสีมา 15 เม.ย. – ตำรวจ เผยแพร่ภาพโจรชิงทอง 153 บาท ในห้างกลางเมืองนครราชสีมา ตรวจสอบพบประวัติพัวพันยาเสพติด และเคยถูกตำรวจกองปราบจับกุมมาแล้ว เมื่อปี 59 เร่งไล่ล่าคนร้าย คาดได้ตัวเร็วๆนี้
ความคืบหน้าคดีคนร้ายบุกเดี่ยว ใช้อาวุธปืนชิงทองร้านทองเยาวราช กรุงเทพ ในห้างโลตัส กลางเมืองนครราชสีมา เมื่อบ่ายวันที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมา โดยคนร้ายได้สร้อยคอทองคำไป 1 ถาด น้ำหนัก 153 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท โดยมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพไว้ได้ขณะก่อเหตุ
หลังเกิดเหตุ ชุดสืบสวนภูธร จ.นครราชสีมา สนธิกำลังร่วมกับ สภ.เมืองนครราชสีมา ไล่ติดตามหาเบาะแสคนร้าย จนทราบตัวคนร้ายตามตำหนิรูปพรรณสัณฐาน พบว่าเป็นชายรูปร่างผอมสูง เป็นชายอดีตทหารเกณฑ์ อายุ 28 ปี จนสามารถนำหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดนครราชสีมา อนุมัติหมายจับคนร้าย ในข้อหาชิงทองโดยใช้ยานพาหนะ ส่วนอาวุธปืนยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นปืนจริงหรือปลอม
และมีรายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 3 ได้สนธิกำลังตำรวจสืบสวนภูธรนครราชสีมา รวบรวมพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดและพยานแวดล้อมต่าง ทำให้ทราบชื่อแล้ว คือ นายกิตติพงษ์ แพไธสง หรือเบส อายุ 28 ปี ภูมิลำเนาอยู่ ต.บ้านใหม่ อ.เมือง นครราชสีมา และติดตามเจอพาหนะ ที่ใช้ก่อเหตุ คือ รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีส้ม ขาว ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งคนร้ายยืมมาจากคนรู้จัก ซึ่งตอนนี้ยึดรถไว้ตรวจสอบแล้ว พร้อมสอบปากคำเจ้าของรถจักรยานยนต์ ให้การเป็นประโยชน์ต่อคดี รวมทั้งติดตามเจอผู้ใกล้ชิดกับนายเบส จนทราบเบาะแสมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุแล้วว่า นายเบส อยู่ในช่วงตกงานไม่มีรายได้ อยากได้เงินสักก้อนเพื่อเดินทางไปทำงานต่างประเทศ และมีประวัติพัวพันยาเสพติด ตอนนี้หลบหนีในเขตปริมณฑล กำลังไล่ติดตามคนร้ายกระชั้นชิด คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้
ล่าสุด ชุดสืบสวน ได้เผยแพร่ภาพ โฉมหน้า นายกิตติพงษ์ หรือเบส อายุ 28 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดนครราชสีมา ในข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ โดยมีรายงานว่า นายเบส เคยเป็นอดีตทหารเกณฑ์ และพบประวัติอาชญากรรรม เคยถูกตำรวจปราบปรามยาเสพติด จับกุมตามหมายจับที่ 125/2559 พร้อมพวกรวม 7 คน เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2559 เหตุเกิด ถ.วิภาวดีรังสิต ต.ตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ พฤติการณ์ มีการส่งมอบไอซ์ 11 กิโลกรัม และยาบ้า 6,000 เม็ด ตำรวจพบเห็นนายกิตติพงษ์ ขับรถยนต์นิสสัน มาวางยาเสพติดส่งให้กับพวก ตำรวจแสดงตัวเข้าจับกุม ยึดของกลาง และขยายผลจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คน โดยขณะนั้น นายกิตติพงษ์ ถูกแจ้งข้อหาครอบครองยาเสพติด เพื่อจำหน่าย ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ถูกจำคุกก่อนพ้นโทษออกมา กระทั่งมาก่อเหตุจี้ชิงทองดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย