นครราชสีมา 22 มี.ค.- คืบหน้าคดีรับน้องโหดที่โคราช ช่วงบ่ายวันนี้ (22 มี.ค.) ทางมหาวิทยาลัยพิจารณาบทลงโทษนักศึกษารุ่นพี่ที่ก่อเหตุ โดยคาดลงโทษขั้นสูงสุดคือ ไล่ออก ด้านพ่อของเหยื่อยืนยันไม่รับเงินเยียวยา 5 เเสนบาท ขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
หลังจากที่เมื่อวานนี้ (21 มี.ค.) ที่วัดสีคิ้วคณาราม อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา มีพิธีฌาปนกิจศพ นายพัสยศ หรือน้องเปรม นักศึกษา ปวส.ปี 1 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา ที่เสียชีวิตเพราะถูกรุ่นพี่ทำร้ายในกิจกรรมรับน้องที่แอบจัดนอกสถานที่กลางดึกวันที่ 13 มีนาคม โดยบรรยากาศในพิธีเต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีเพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกัน และอาจารย์เดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก แต่ไร้เงากลุ่มรุ่นพี่ ปวส.ปี 2 เนื่องจากครอบครัวน้องเปรมขอไม่ให้เดินทางมา เนื่องจากกลัวเกิดเหตุไม่คาดคิด เพราะกลุ่มญาติๆ ที่มาร่วมงานศพ ยังทำใจรับการสูญเสียในครั้งนี้ไม่ได้
ขณะที่ก่อนประกอบพิธีฌาปนกิจศพ แฟนของน้องเปรม ได้ขึ้นอ่านประวัติ และกล่าวคำไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้ายด้วยอาการสะอื้นไห้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนโลงศพน้องเปรมขึ้นสู่เมรุชั่วคราว และเปิดฝาโลงให้ญาติได้ดูหน้าน้องเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งจังหวะนั้น พ่อ แม่ และแฟน ของน้องเปรมถึงกับร้องไห้แทบขาดใจจนเป็นลมล้มพับ ญาติต้องเข้าไปประคองออกไปนั่ง สร้างความสลดหดหู่ให้กับผู้มาร่วมงานเป็นอย่างมาก
นายเอกชัย พ่อของน้องเปรม บอกขอให้ดวงวิญญาณของลูกไปสู่สุขคติ อยู่ในภูมิภพที่ดีงาม ความสูญเสียนี้นับว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของครอบครัว ขณะที่อัฐิของน้อง พ่อจะนำกลับไปไว้ที่บ้านเกิดจังหวัดนครศรีธรรมราช ส่วนเรื่องเงินเยียวยาที่ผู้ปกครองของกลุ่มรุ่นพี่ได้มาเสนอเงิน 5 แสนบาท พ่อยืนยันไม่รับเด็ดขาด ขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด
ทีมข่าวตรวจสอบความคืบหน้าไปที่ พันตำรวจเอก คณัสนันท์ สุวรรณทรัพย์ ผู้กำกับการ สภ.มะเริง ทราบว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนสอบปากคำพยาน และผู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมรับน้องไปแล้วกว่า 60 ปาก ส่วนรุ่นพี่ 7 คน ถูกแจ้งข้อหาหนัก คือ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และฐานความผิดร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่น ขณะที่รุ่นพี่ 25 คนถูกแจ้งข้อหาร่วมกันทำให้ผู้อื่นขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล และความผิดฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ขณะที่ล่าสุดได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดสรุปสำนวนคดีส่งอัยการเพื่อฟ้องศาลให้ได้ตามกรอบเวลา 30 วัน
ส่วนความเคลื่อนไหวของมหาวิทยาลัย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุรพจน์ วัชโรภากุล รองอธิการบดี ฝ่ายกิจการนักศึกษา เผยว่า บ่ายวันนี้คณะกรรมการฝ่ายปกครองนักศึกษา ซึ่งมีรองอธิการบดี ผู้ช่วยอธิการบดี และคณาจารย์จากคณะต่างๆ ของมหาวิทยาลัย จะเรียกกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ทั้งชั้นเรียน 25 คน มาสอบปากคำอย่างละเอียด เพื่อประมวลเหตุการณ์แอบจัดกิจกรรมรับน้องจนทำให้รุ่นน้องเสียชีวิต เพื่อพิจารณาบทลงโทษตามชั้นความผิดของรุ่นพี่แต่ละคน ซึ่งตามระเบียบจะมีโทษตั้งแต่ตัดคะแนนความประพฤติ พักการเรียน ให้ออก และโทษสูงสุดคือไล่ออก โดยจะอ้างอิงตามฐานความผิดในสำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
ทั้งนี้ ย้ำว่ามหาวิทยาลัยบอกว่าตลอดตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นว่า นักศึกษารุ่นพี่กลุ่มนี้ละเมิดกฎระเบียบของมหาวิทยาลัย ที่สั่งห้ามจัดกิจกรรมไม่พึงประสงค์ ทั้งในและนอกสถานที่ แต่ยังมีการฝ่าฝืน หนำซ้ำยังมีรุ่นน้องเสียชีวิต บทลงโทษถึงขั้นสูงสุด มีแน่ๆ คือ ไล่ออก แต่จะทั้งหมด 25 คน หรือแค่ 7 คนขอดูในรายละเอียดอีกครั้ง และข้อการสอบถามได้ข้อสรุป จะเสนออธิการบดีดำเนินการตามขั้นตอนของมหาวิทยาลัย ซึ่งบทลงโทษในวันนี้ จะชี้ชะตาว่า นักศึกษารุ่นพี่ทั้ง 25 คน ที่กำลังจะจบ ปวส.จะได้รับวุฒิการศึกษา ปวส.จากทางมหาวิทยาลัยหรือไม่.-สำนักข่าวไทย