มท.1 มอบนโยบายขับเคลื่อนศูนย์อำนวยการขจัดความยากจน

เชียงใหม่ 28 ก.พ. – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย Kick off การประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง เริ่มที่ภาคเหนือ เน้นหน่วยงานบูรณาการทำงานแก้ปัญหายากจน ทั้ง 4 ภาค ตั้งเป้าดำเนินการถึงกันยายนนี้


พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดและมอบนโยบาย ในการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อซักซ้อมแนวทางการขับเคลื่อนศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หรือ ศจพ. ในระดับพื้นที่ ปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ที่โรงแรมเลอ เมอริเดียน เชียงใหม่

รมว.มหาดไทย กล่าวถึงโครงการนี้ว่าเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการแก้ปัญหาคนยากจน ทางสภาพัฒน์ฯ ก็ได้สำรวจเป้าหมาย จนพบว่ามีคนจนในประเทศมีจำนวนหนึ่งที่ต้องได้รับการดูแลแก้ปัญหาขจัดความยากจนออกไป วันนี้มาในฐานะคนขับเคลื่อนความเข้าใจ ทั้ง 4 ภาค โดยวันนี้เริ่มที่ภาคเหนือก่อน ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดไปยังผู้บริหารทั่วประเทศ เพื่อให้รับทราบและดูเป็นแนวทางปฎิบัติในอนาคตต่อไป โดยจะเน้นแก้ปัญหาที่เริ่มจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบที่จะบูรณาการการช่วยเหลือประชาชนที่ยากจนทุกพื้นที่ในทุกมิติ โดยรัฐบาลตั้งเป้าดำเนินการจนถึงเดือน ก.ย.นี้ โดยให้แต่ละหน่วยงานใช้งบประมาณปี 2565 ของตนเองมาดำเนินการให้บรรลุผล


สำหรับปัญหาหมอกควัน ทางกระทรวงมหาดไทย มีนโยบายมานานแล้ว ที่จะดำเนินการลดปัจจัยการเกิดปัญหาฯ ทั้งการเผาในที่โล่ง ยานพาหนะและการก่อสร้าง รวมถึงได้หาแนวทางนำเชื้อเพลิงไปใช้ประโยชน์ และการบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดการเผา ลดจุดฮอตสปอต หรือจุดความร้อนให้ได้มากที่สุด ซึ่งทุกจังหวัดมีแผนดำเนินการชัดเจน พบว่าที่ผ่านมาดีขึ้นและคาดว่าปีนี้จะเข้มงวดต่อไปเชื่อว่าปัญหาหมอกควันก็จะดีขึ้น ส่วนปัญหาหมอกควันจากประเทศเพื่อนบ้าน มีช่องทางของกระทรวงต่างประเทศพูดคุยอยู่แล้ว แต่ทุกประเทศก็พยายามลดปัญหาอยู่ ซึ่งจะมากน้อยเพียงใดก็อยู่ที่สถานะของแต่ละประเทศ

จากนั้น พล.อ.อนุพงษ์ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการซ่อมสร้างบ้าน สร้างรอยยิ้ม ให้ครัวเรือนยากจน คนเชียงใหม่ และศูนย์เรียนรู้ทฤษฎีใหม่ โคก หนอง นา โมเดล พร้อมพบปะผู้นำชุมชนและส่วนราชการในพื้นที่อำเภอแม่ออน และอำเภอสันกำแพง ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในช่วงเย็นวันนี้. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]