สตูล 10 ก.พ.- หนุ่มสตูลวัย 60 ผันตัวจากปลูกยางพารา มากลั่นน้ำมันกฤษณาส่งขายตะวันออกกลาง ทั้งซาอุฯ คูเวต กลายเป็นอาชีพหลักรายได้นับแสนบาทต่อเดือน
“ไม้กฤษณา” ไม้มีกลิ่นหอมและมูลค่าสูง เป็นกลิ่นหอมที่หรูหราบ่งบอกถึงความมีระดับ ต่างประเทศโดยเฉพาะโซนอาหรับและตะวันออกกลาง เช่น ซาอุฯ คูเวต มักนิยมนำไปทำเป็นน้ำหอม
นายจัด ขาวทอง อายุ 60 ปี ชาว อ.ควนกาหลง จ.สตูล ผันตัวจากอาชีพทำสวนยางพารา มากลั่นน้ำมันกฤษณาส่งขายตะวันออกกลาง กลายเป็นอาชีพหลักรายได้นับแสนบาทต่อเดือน นายจัดบอกว่า ตอนทำอาชีพทำสวนยางพารา เมื่อ 20 ปีก่อน มีนายทุนติดต่อมาให้ซื้อไม้กฤษณาในพื้นที่สตูล ตนทำอยู่หลายปีจนนายทุนชักชวนไปทำงานด้วยกันที่กรุงเทพฯ ได้เรียนรู้การสกัดน้ำมันกฤษณา และเรียนรู้การส่งออกน้ำมัน ทำได้ 6 ปี เมื่อเจ้าของเสียชีวิตโรงงานปิด เพราะไม่มีคนสืบต่อ ตัวเองจึงกลับมาอยู่สตูล แล้วมานั่งคิดว่า เมื่อเรารู้กระบวนการทำทั้งหมด แถมรู้จักกับตลาดต่างประเทศ ทำไมไม่ลองทำดูเองจากนั้นจึงลงมือรับซื้อไม้กฤษณา และบางส่วนก็ปลูกเอง นำสกัดเป็นน้ำมันส่งขายไปตะวันออกกลาง ย้ำว่านอกจากตัวเองมีรายได้ ชาวบ้านในละแวกยังมีรายได้จากการการรับจ้างสับไม้กฤษณา วันละ 300-400 บาทด้วย
นายจัดยังบอกด้วยว่า ขั้นตอนการทำเริ่มจากเลาะหรือถากไม้กฤษณาที่มีอายุ 8 ปีขึ้นไป เอาออกเป็นชิ้นๆ แล้วให้กลุ่มแม่บ้านสับ จากนั้นนำไปบดและหมักในถัง 8-9 วัน ก่อนจะนำลงต้มในหม้อควบคุมอุณหภูมิ เพื่อกลั่นเป็นน้ำมันกฤษณาออกมา โดยจะได้น้ำมันลอยอยู่ด้านบน จากนั้นเก็บใส่ขวด ตอนนี้ตนกลั่นไม้กฤษณาส่งต่างประเทศมา 15 ปีแล้ว โดยไม้กฤษณาที่สับแล้ว 200 กก. สามารถสกัดเป็นน้ำมันได้ 1 ขวดแบน ราคาประมาณ 98,000 บาท แต่ละเดือนสกัดส่งขายได้กำไรเดือนละ 100,000 บาท ถือเป็นอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจและสามารถทำได้ 40-50 ปี เนื่องจากไม้กฤษณาแต่ละต้นสามารถใช้งานได้นาน.-สำนักข่าวไทย