ฝากขังชายคลั่ง หลังก่อเหตุมาตุฆาต

บุรีรัมย์ 5 ก.พ.- ตำรวจควบคุมตัวชายคลั่งฝากขัง หลังโมโหทำร้ายมารดาจนเสียชีวิต ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ด้านพี่ชายอโหสิกรรมอยากให้น้องเข้าสู่การบำบัดรักษายาเสพติดอย่างจริงจัง  


ความคืบหน้าเหตุสะเทือนใจที่นายประวิทย์ อายุ 32 ปี ลูกชายซึ่งเกิดอาการคุ้มคลั่งจากอาการทางจิต ผลพวงจากเคยติดยาเสพติดช่วงวัยรุ่น ก่อเหตุใช้ท่อนเหล็กและไม้เฌอรา กระหน่ำตีศีรษะ และใบหน้าของนางสำเนียง อายุ 55 ปี แม่บังเกิดเกล้าเสียชีวิต เมื่อช่วงสายวานนี้ (4 ก.พ.) เหตุเกิดที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 199 บ้านชุมทองพัฒนา ต.พระครู อ.เมือง จ.บุรีรัมย์    ซึ่งเป็นบ้านของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านน้องชายของผู้เสียชีวิต ก่อนที่ตำรวจ กำนัน และชาวบ้านจะช่วยกันล็อกตัวนายประวิทย์ ด้วยความชุลมุนวุ่นวาย จนทำให้มีคนโดนลูกหลงจากท่อนเหล็กตีบาดเจ็บ  

วันนี้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้แจ้งข้อหา “ฆ่าบุพการีโดยเจตนา” และส่งฝากขังศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ไปเมื่อช่วงก่อนเที่ยงที่ผ่านมา โดยท้ายคำร้องตำรวจขอคัดค้านการประกันตัว  ส่วนที่ผู้ต้องมีอาการทางจิตประสาทนั้น จากการตรวจสอบพบว่ามีประวัติการรักษาเป็นผู้ป่วยจิตเวชจริง แต่เมื่อก่อเหตุคดีอุกฉกรรจ์ และเป็นบุคคลอันตราย ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย       ล่าสุด ศาลไม่อนุญาตให้ประกัน เนื่องจากพิเคราะห์จากพฤติการณ์ เห็นว่าผู้ต้องหาเป็นบุคคลอันตราย ก่อนหน้าที่จะก่อเหตุทำร้ายแม่ยังเคยทำร้ายแพทย์ขณะเข้าไปรับยาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่บุรีรัมย์ หากให้ประกันอาจไปทำร้ายคนในครอบครัวและบุคคลอื่นในสังคมได้ 


ล่าสุดมีการเปิดภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าบ้านของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน น้องชายผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุพบว่าช่วงเวลา 10.10 น. เห็นภาพขณะที่ นายประวิทย์ พยายามจะแย่งรถจักรยานยนต์ของน้าที่จอดไว้หน้าบ้าน แต่น้าไม่ให้และแม่ก็พยายามเข้าห้ามไม่ให้ลูกชายเอารถไป เพราะกลัวจะเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากรู้ว่าลูกไม่ปกติแต่กลับทำให้ลูกชายโมโหผลักแม่ล้มใส่กระถางต้นไม้ แล้วผลักน้าแต่แม่ก็ยังพยายามห้ามไม่ให้ลูกเอารถไป จนเกิดการยื้อยุดฉุดกระชากกัน ก่อนที่ลูกจะใช้ท่อนเหล็กและไม้เฌอรากระหน่ำตีศีรษะและหน้าแม่จนเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม เวลาไล่เลี่ยกันก็มีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านมาเห็นศพนางสำเนียง นอนเสียชีวิตกับพื้นในสภาพหน้าเละเต็มไปด้วยเลือด ต่างกรีดร้องด้วยความตกใจ  

ด้านนายคาวี อายุ 33 ปี ลูกชายคนโตของผู้เสียชีวิต และเป็นพี่ชายของผู้ก่อเหตุ เดินทางมาเยี่ยมน้องชายที่ สภ. เมืองบุรีรัมย์ บอกว่ารู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะแม่ก็เสียชีวิตจากการกระทำของน้องชาย ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ยอมรับว่าที่ผ่านมาช่วงเป็นวัยรุ่นน้องเคยติดยาเสพติด แต่เลิกไปหลายปีแล้ว แต่ก็ผลพวงจากการเสพยาคือสมองไม่ปกติต้องเข้ารักษาต่อเนื่อง ที่ผ่านมาก็ไม่เคยก่อเหตุรุนแรงกับใคร แต่ระยะหลังน้องชายไม่ค่อยกินยา แม่ก็พยายามบังคับให้กินแต่ก็ไม่กิน ตนก็เคยเตือนแม่ว่าอย่าไปบังคับน้องเลย กระทั่งเกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น ส่วนตัวไม่ได้ติดใจอะไร เพราะรู้ว่าน้องมีอาการจิตไม่ปกติ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ฉายาสภาปี67

ฉายาสภาปี 67 สส. “เหลี่ยม(จน)ชิน” ด้าน วุฒิสภา “เนวิ(น)เกเตอร์”

สื่อสภาตั้งฉายาปี 67 สส. “เหลี่ยม(จน)ชิน” ด้านวุฒิสภา “เนวิ(น)เกเตอร์” ส่วน “วันนอร์” รูทีนตีนตุ๊กแก ประธานวุฒิฯ “ล็อกมง” ส่วนผู้นำฝ่ายค้านฯ “เท้งเต้ง”

มติกฤษฎีกา “กิตติรัตน์” คุณสมบัติไม่ผ่านนั่งประธานบอร์ด ธปท.

คณะกรรมการกฤษฎีกา 3 คณะ มีมติไม่ผ่านคุณสมบัติ “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” เป็นประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย