รวบสาวชิงทรัพย์หนีคดีนานกว่า 18 ปี

สมุทรสาคร 5 ม.ค. – ตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ป. รวบสาวชิงทรัพย์หลบหนีคดีนานกว่า 18 ปี


กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม
รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.สรร มั่นเมืองรยา รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น, พ.ต.ท.ปวิช ข่าทิพย์พาที, พ.ต.ท.หัตถพร ทองคำ, พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย รอง ผกก.5 บก.ป.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.วาทิต จิตรจันทึก สว.กก.5 บก.ป. พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจ ชป.1 กก.5 บก.ป. ร่วมกันจับกุม น.ส.ฤดีมาศ อายุ 34 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรสาครแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว ที่ จ.28/2550 ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2550 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันชิงทรัพย์ผู้อื่นในเวลากลางคืน เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บเป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นจากการจับกุม”


โดยจับกุมได้บริเวณหน้าบ้านพักอาศัย ม.8 ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร

พฤติการณ์เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2547 นายนิคม (ผู้เสียหาย) อายุ 28 ปี ได้เดินทางมา สภ.กระทุ่มแบน แจ้งว่าเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 10 เมษายน 2547 ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนเพชรเกษม จาก ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม เพื่อจะกลับรถที่บริเวณปากซอยอัครภัทร ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน เพื่อจะไปหาเพื่อน ระหว่างนั้นรถได้เกิดน้ำมันหมด นายนิคม (ผู้เสียหาย) จึงได้จอดรถและได้โทรศัพท์ไปหาเพื่อนให้นำน้ำมันมาเติมให้ ระหว่างที่โทรศัพท์อยู่นั้นได้มีนายนิวัตร และ น.ส.ฤดีมาศ ขับขี่รถจักยานยนต์มาจอดที่นายนิคม (ผู้เสียหาย) จากนั้นนายนิวัตร และ น.ส.ฤดีมาศ ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ลงจากรถจักรยานยนต์เข้ามาทำร้ายร่างกายและชิงโทรศัพท์มือถือไปจากนายนิคม (ผู้เสียหาย) จากนั้นจึงขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ระหว่างนั้นไม่นานมีรถยนต์เฉี่ยวชนคนร้ายที่ชิงทรัพย์ของนายนิคม (ผู้เสียหาย) ได้รับบาดเจ็บ และมีพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง สภ.กระทุ่มแบน ได้รับแจ้งเหตุ และได้รับคำร้องทุกข์กรณีมีการชิงทรัพย์เกิดขึ้น พร้อมอายัดตัวคนร้ายทั้ง 2 คน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมาผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวน และได้หลบหนีคดีในชั้นสอบสวน พนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน จึงได้ขออนุญาตศาลสมุทรสาคร ออกหมายจับบุคคลทั้ง 2

สืบเนื่องจากก่อนที่จะทำการจับกุมนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้รับการประสานจากเจ้าพนักงานตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน ให้ทำการสืบสวนจับกุมคนร้ายในคดีดังกล่าว ประจวบกับได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า น.ส.ฤดีมาศ (ผู้ต้องหา) ได้หลบหนีมาหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณสถานที่จับกุม จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงสถานที่จับกุม พบหญิงมีตำหนิรูปพรรณตรงตามหมายจับ จึงเข้าไปตรวจสอบ ทราบและยอมรับว่าเป็น น.ส.ฤดีมาศจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแสดงหมายจับศาลสมุทรสาครให้ดูและอ่านให้ฟังจนเป็นที่พอใจ ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามในหมายจับนั้นจริง และไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งว่าจะถูกจับกุม จากนั้นได้ทำบันทึกจับกุม และนำตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

เปิดวินาทีระเบิดรถกระเช้าเทศบาลรือเสาะ

เปิดนาทีระเบิดรถกระเช้าที่จอดอยู่ในที่จอดรถของเทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ช่วงเที่ยงวานนี้ (6 ก.พ.) จนพังเสียหาย

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด