fbpx

หนุ่มใหญ่อ้างตัวเป็นรองอธิบดีฯ ชนแล้วหนี เข้าพบตำรวจ

เชียงใหม่ 31 ธ.ค.-หนุ่มใหญ่อ้างตัวเป็นรองอธิบดีผู้พิพากษาฯ ชนแล้วหนี เข้าพบตำรวจที่ สภ.เมืองเชียงใหม่แล้ว หลังตำรวจนัดทั้งสองฝ่ายเจรจา ด้านกู้ภัยหนุ่ม ลั่นไม่หนักใจ แม้คู่กรณีมียศใหญ่โต

ความคืบหน้าล่าสุดกรณีโซเชียลแชร์คลิปเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ (28 ธันวาคม) หนุ่มใหญ่ อายุ 59 ปี ที่อ้างตัวเป็นรองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 ขับรถอีซูซุมิวเอ็กซ์ สีเทาหมายเลขทะเบียน 9 กค 2596 กทม ชนรถเก๋งซูซูกิสวิฟสีขาวทะเบียน งว 2905 เชียงใหม่ ของนายไพโรจน์ พรหมธารา อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยเทศบาลตำบลเจดีย์แม่ครัว หลังจากเข้าไประงับเหตุที่รถของรองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 ขับไปชนกับรถตุ๊กตุ๊กจนได้รับบาดเจ็บบริเวณแยกแสงตะวัน ก่อนจะลงมาเจรจาแต่แล้วก็ขับรถหนีไป โดยมุ่งหน้าไปตามถนนศรีดอนชัย หน้าโรงแรมอนันตรา ตำบลช้างคลาน ทำให้นายไพโรจน์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยตัดสินใจขับรถเก๋งส่วนตัวไล่ติดตามและบีบแตรจนรถนายชาญศักดิ์ต้องหยุดรถ กระทั่งมีตำรวจสายตรวจมาระงับเหตุ ก่อนที่นายชาญศักดิ์ จะขับรถพยามหนีจนเฉี่ยวชนรถของนายไพโรจน์ บริเวณด้านข้างซ้ายทำให้ประตูเสียหายเป็นรอยขูด


ทั้งนี้หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ ที่คู่กรณีทั้งสองฝ่ายกล่าวอ้าง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดแล้ว ได้เชิญคู่กรณีมาให้ปากคำและเจรจากันในช่วงบ่ายวันนี้ โดยในเวลา 13.20 น. นายไพโรจน์ เจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้เดินทางมาที่ สภ.เมือง เพื่อเจรจากับคู่กรณีเกี่ยวกับเรื่องนี้ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่าตนไม่รู้สึกหนักใจที่รู้ว่าคู่กรณีมียศใหญ่โต แต่ก็ยอมรับว่ารู้สึกกลัวนิดหน่อย แต่ก็พร้อมยืนยันความถูกต้อง โดยขอให้คู่กรณีมารับผิดชอบต่อความผิดที่ได้กระทำลงไป พร้อมยืนยันว่ามีความมั่นใจเต็มร้อยว่าคู่กรณีอยู่ในอาการมึนเมาขณะขับขี่รถยนต์จนขับรถไปชนคนอื่น ทั้งนี้ตนยังได้กลิ่นแอลกอฮอล์ซึ่งหากดูจากในคลิปก็จะทราบดี แต่ในวันเกิดเหตุคู่กรณีไม่ยอมให้ตรวจวัดแอลกอฮอล์ โดยอ้างว่าเป็นผู้เสียหาย และเป็นผู้ถือกฎหมายทำอะไรก็ได้ และยังอ้างตัวตลอดเวลาในช่วงที่มีการเจรจากันว่าเป็นรองอธิบดี จึงทำให้มีแค่ตนที่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจวัดแอลกอฮอล์ และเมื่อไกล่เกลี่ยไม่ได้เจ้าหน้าที่จึงให้แยกย้ายและนัดเจรจาอีกที แต่เรื่องก็เงียบหาย ตนจึงนำเรื่องนี้มาโพสต์ในโซเชียลเพื่อขอความเป็นธรรม

เมื่อถามว่ามีความมั่นใจหรือไม่ว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากกรณีนี้ นายไพโรจน์ กล่าวว่าขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปตามกฎหมาย


จากนั้น ในเวลา 13.40 น. คู่กรณีที่อ้างว่าเป็นรองอธิบดี ได้เดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวน ที่ สภ.เมือง และเตรียมเจรจากับหนุ่มกู้ภัยต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้

แบงก์ชาติ​ส่งหนังสือให้ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำสะดุด

ปลัดคลัง ระบุแบงก์ชาติ​ส่งหนังสือถึง ครม.ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำให้สะดุด ชี้เป็นข้อเสนอเก่า​​ เดินหน้าตามแผนเดิม​