เปิดใจ “จิงโจ้” แต่งหน้าลบรอยแผล เนรมิตความงามให้เจ้าสาว

ชัยนาท 24 พ.ย. – เปิดใจ “จิงโจ้” ช่างแต่งหน้าลบรอยแผล เนรมิตให้เจ้าสาวที่ประสบอุบัติเหตุเสียโฉมเมื่อหลายปีก่อน สวยในวันพรีเวดดิ้ง เจ้าสาวปลื้มแต่งหน้าสวย เจ้าบ่าวอึ้ง ยอมรับสวยมาก


ผู้หญิงคนหนึ่งที่ในตอนเด็กเธอประสบอุบัติเหตุรถฝ่าไฟแดงพุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่เธอนั่งมากับเพื่อน ทำให้เพื่อนของเธอเสียชีวิต ส่วนตัวเธอเองเสียโฉม ตอนนี้เธออายุ 26 ปี เธอพบรักแท้ และปีหน้าจะแต่งงานแล้ว ซึ่งภาพที่จะเปิดให้ดูต่อไปนี้ต้องชื่นชมร้านพรีเวดดิ้งที่ทำความฝันของเธอให้เป็นจริง เพราะเธอบอกว่าครั้งหนึ่งในชีวิตอยากเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด

คลิปนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเพจเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า จิงโจ้ เรือนเจ้าสาว ซึ่งในคลิปนี้มีการเขียนข้อความไว้ด้วยว่า “เพราะคุณคือแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงทุกคน … เรายินดีและโชคดีมากๆ ที่ลูกค้าเลือกเรา”


ขณะที่ก่อนหน้าเพจนี้ได้โพสต์ภาพว่าที่เจ้าสาว พร้อมข้อความ “ของขวัญสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง คือ การได้แต่งงาน และเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดกับครั้งหนึ่งในชีวิต #ขอบพระคุณเจ้าสาวที่อนุญาตให้ถ่ายก่อนหลัง…เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ และเป็นกำลังใจให้กับผู้หญิงทุกคน”

แต่งหน้าเนรมิตเจ้าสาวประสบอุบัติเหตุให้สวยในวันพรีเวดดิ้ง
เห็นแบบนี้แล้วเราต้องตามไปถามว่าที่เจ้าสาวในภาพ ซึ่งชื่อของเธอก็คือ นางสาวอรธีรา รสหอม หรือส้ม อายุ 26 ปี ขณะนี้เธอทำงานอยู่ที่สำนักงานชลประทานที่ 12 จังหวัดชัยนาท เธอเล่าให้ฟังว่าตอนอายุ 13 ปี หรือวันที่ 11 ตุลาคม 2551 เธอประสบอุบัติเหตุถูกรถบรรทุกสิบล้อวิ่งฝ่าไฟแดงพุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่เธอซ้อนท้ายเพื่อนมา อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้เพื่อนของเธอเสียชีวิต ส่วนตัวเธอและรถจักรยานยนต์ถูกรถสิบล้อลากไปจนไฟลุกท่วมร่าง ผมของเธอถูกเผาจนเซลล์ตาย เธอต้องเสียขาข้างขวา เสียนิ้วมือข้างซ้าย ใบหูข้างขวา และศีรษะ รวมถึงตามร่างกายมีแผลไฟไหม้ ตอนนั้นเธอนอนสลบไป 9 วัน อยู่ในห้องไอซียู 19 วัน ผ่าตัดกว่า 20 ครั้ง

น้องส้มยอมรับด้วยว่าตอนนั้นไม่มีความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ แต่แม่ของเธอไม่ยอมแพ้ เขียนหนังสือขอพระราชทานความช่วยเหลือจากรัชกาลที่ 9 ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณรับเข้าเป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ ทำให้เธอรอดชีวิตมาได้ และมีความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อแม่ และเพื่อทำความดีตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณ


เจ้าสาวชี้เคยไม่มีหวังอยู่ต่อ แต่ตอนนี้พบรักแท้ คบ 4 ปี แต่งปีหน้า
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีเหตุการณ์ทำให้เธอเสียโฉม และขาต้องถูกตัดมาใส่ขาเทียม เธอก็สู้ชีวิตมาเรื่อย กระทั่งเมื่อปี 4 ปีก่อน เธอได้พบรักแท้กับว่าที่เจ้าบ่าว คือ นายชานนท์ อู่ทรัพย์ หรือเจมส์ อายุ 24 ปี ซึ่งเจมส์แม้จะรู้ว่าสภาพร่างกายเธอไม่สมบูรณ์ แต่ยังรักและยอมรับในสิ่งที่เธอเป็น

เจ้าสาวปลื้มแต่งหน้าสวย-เจ้าบ่าวอึ้งยอมรับสวยมาก
ส่วนเรื่องแต่งหน้าเจ้าสาวที่เป็นที่พูดถึงในโซเชียล เธอบอกว่าดีใจและยินดีมาก ไม่คิดว่าจะมีคนให้ความสนใจขนาดนี้ ตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา ไม่เคยเปิดบาดแผลให้คนภายนอกเห็น แต่มาถึงวันนี้เมื่อได้เลือกร้านแต่งหน้าเจ้าสาวร้านนี้ไปถ่ายพรีเวดดิ้ง ภาพออกมาสวย เพราะครั้งหนึ่งในชีวิตอยากเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด ตอนแรกไม่ได้บอกทางร้านว่าตนมีบาดแผลจากอุบัติเหตุที่ศีรษะและร่างกาย ทำให้ต้องใส่วิกผมตลอด พอไปถึงร้านช่างบอกว่าทำได้ รู้สึกดีใจ เมื่อแต่งหน้าทำผมเสร็จ ได้เห็นตัวเอง รู้สึกว่าเกินคาดมาก ไม่คิดว่าจะออกมาสวยขนาดนี้ ว่าที่เจ้าบ่าวถึงกับอึ้งและบอกว่าสวยมาก

วันนี้น้องส้มยิ้มได้อย่างเต็มที่ เพราะคนรอบตัวต่างให้กำลังใจ และตัวเธอเองก็ให้กำลังใจตัวเองด้วย จึงอยากฝากกำลังใจถึงผู้หญิงทุกคนที่มีปัญหาแบบเธอว่าขอให้ทุกคนสู้ๆ ไม่ว่าร่างกายจะเป็นอย่างไร เพราะทุกคนมีความสวยเป็นของตัวเอง ไม่อยากให้ท้อแท้ ความทุกข์อยู่กับเราไม่นาน ที่สำคัญเราต้องรู้จักให้กำลังใจตัวเอง และใช้ชีวิตของเราทุกวันให้มีความสุข ไม่ต้องไปแคร์สายตาของใคร เพราะชีวิตเป็นของเราเอง

เปิดใจ “จิงโจ้” แต่งหน้าลบรอยแผล เนรมิตความงามให้เจ้าสาว
ขณะที่นายวานิช หอมเขียว หรือจิงโจ้ ช่างที่เนรมิตความงามให้กับน้องส้ม ออกมาเปิดใจยอมรับทำงานในอาชีพช่างแต่งหน้ามา 7 ปี ตอนที่ได้รับการติดต่อให้มาแต่งหน้าและถ่ายพรีเวดดิ้งให้ว่าที่เจ้าสาวที่จังหวัดชัยนาท พร้อมบอกรายละเอียดว่า ว่าที่เจ้าสาวมีรอยแผลเป็นบนใบหน้า และศีรษะไม่มีผมครึ่งหนึ่ง ค่อนข้างตื่นเต้น แต่เมื่อได้พูดคุยกับส้ม เธอเป็นคนน่ารัก มีกำลังใจ และมีพลังบวกมาก ช่างจิงโจ้จึงตั้งใจแต่งหน้าทำผมให้ว่าที่เจ้าสาวอย่างสุดฝีมือ

โดยการแต่งหน้าของว่าที่เจ้าสาวในวันนั้น ได้ใช้เทคนิคการลงสี และเทคนิคการปกปิดรอยบกพร่องรอยแผลเป็น ผสมผสานการใช้สี และการตกแต่งบนใบหน้าเพื่อทำให้ใบหน้าออกมาให้สวยที่สุด ขณะที่ผมเจ้าสาวมีผมครึ่งศีรษะ ก็มีการใส่วิกผมและจัดทรงให้เข้ากับใบหน้า ซึ่งทั้งว่าที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวต่างชื่นชอบในผลงาน ร้านจึงขออนุญาตถ่ายรูปและคลิปในช่วงก่อนแต่งหน้าและหลังแต่งหน้า เพื่อนำไปโพสต์เฟซบุ๊ก ซึ่งเจ้าสาวก็อนุญาต เมื่อคลิปและภาพถูกโพสต์ไปก็มีคนเข้ามาให้กำลังใจเจ้าสาวและชื่นชมการแต่งหน้า ทำให้รู้สึกดีใจมาก

สำหรับส้ม และเจมส์ จะเข้าพิธีวิวาห์กันในวันที่ 12 มีนาคมปีหน้า และว่าที่เจ้าบ่าวยืนยันไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร จะรักและมั่นคงกับ ส้มเหมือนทุกวันนี้ตลอดไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบกสดุดีทหารกล้า จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ ขอพระราชทานยศทหารเลื่อนขั้นอย่างสมเกียรติ วันที่ 30 ก.ค. 68 กองทัพบกร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและส่วนราชราชการพื้นที่ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพทหารกล้าที่สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จากเหตุการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยใน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบให้คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ร่วมเป็นเกียรติในพิธีพระราชทานเพลิงศพของทหารหาญ จำนวน 4 นาย ดังนี้ 1.ส.อ.จิรายุ สิงห์อ้น ตำแหน่งพลลาดตระเวน กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 (ร้อย ลว.ไกล 6) กองพลทหารราบที่ 6 ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ (25 ก.ค.68) ณ วัดตลาดราชมงคล อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พล.อ. ณัฐวุฒิ นาคะนคร รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีพระราชเพลิงศพ โดยกองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ขั้น ขอพระราชทานยศทหารเป็นร้อยโท […]

ทบ.ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบก ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน ประชาคมโลกต้องเห็นความเสียหาย ทั้งบ้านเรือน-โรงเรียน-โรงพยาบาล เร็วๆ นี้ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ เข้าดูพื้นที่บริเวณจุดปะทะ บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานีว่า จุดที่ฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงไปดูพื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร บริเวณจุดที่เคยมีการปะทะกันนั้น เป็นบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี จึงเห็นมีภาพปรากฏถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้อาวุธจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของพื้นที่ทางยุทธการ และบริเวณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายทางทหาร สำหรับฝ่ายไทยมีแผนจะจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน โดยฝ่ายไทยจะไม่เน้นการสร้างภาพลวงแบบฉาบฉวย แต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ สิ่งที่จำเป็นจะต้องสื่อถึงประชาคมโลกคือ ความเสียหายต่อบ้านเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ฝ่ายทหารกัมพูชาจงใจพุ่งเป้าโจมตีไปยังเป้าหมายเหล่านั้น จนมีพลเรือน ประชาชน เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ลึกไกลเข้ามาภายในประเทศไทย และห่างจากพื้นที่สู้รบเข้ามาในไทยไกลมากถึง 10-30 กิโลเมตร พล.ต.วินธัย กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย รวมถึงขัดต่อหลักปฏิบัติทางทหารตามกฎหมายสากล และหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจตนาละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ ที่ห้ามการโจมตีพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ กองทัพบกไทยขอยืนยันอีกครั้งว่า เราปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเป็นหลักเท่านั้น และยึดมั่นในกติกาสากล โดยขอย้ำว่า ฝ่ายไทยไม่ได้รุกรานใคร แต่เรามีสิทธิชอบธรรมในการปกป้องประชาชนและผืนแผ่นดินของเรา.-313.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก

ทำเนียบ 30 ก.ค.-โฆษกรัฐบาล เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก พร้อมประณามกัมพูชาละเมิดมนุษยธรรมร้ายแรง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ประณามการกระทำของรัฐบาลและกองทัพกัมพูชาอย่างรุนแรง กรณีการใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายที่เป็นสถานพยาบาลของไทยในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานและเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้นายจิรายุ ยังเปิดภาพโรงพยาบาลบางส่วนที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) คำโปรย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โคก, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซำเม็ง “ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกจับตามองและประณามการกระทำดังกล่าว ซึ่งต่างจากประเทศไทยที่ยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่พลเรือ” โฆษกรัฐบาล ระบุ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. พบว่า จากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชา ได้ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 15 ราย ในพื้นที่จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ บาดเจ็บสาหัส 12 […]

เหตุพลุระเบิด เสียชีวิตเพิ่มเป็น 10 คน

สุพรรณบุรี 30 ก.ค. – เหตุพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ที่โรงพยาบาล รวมเสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย คืบหน้าเหตุพลุระเบิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ล่าสุด พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผู้บังคับการภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิต จำนวน 10 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 9 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ขณะนี้ได้สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงประสานชุด EOD เข้าเก็บกู้ดินปืน เนื่องจากตรวจสอบพบหลุมขนาดใหญ่สีดำจำนวน 2 หลุม และดินปืนจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังพบร่างผู้เสียชีวิต ชิ้นส่วนจำนวนหนึ่งบริเวณที่เกิดเหตุ ส่วนข้อมูลการตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังนี้มีการลักลอบผลิตพลุไล่นก.-สำนักข่าวไทย