เปิดใจ “จิงโจ้” แต่งหน้าลบรอยแผล เนรมิตความงามให้เจ้าสาว

ชัยนาท 24 พ.ย. – เปิดใจ “จิงโจ้” ช่างแต่งหน้าลบรอยแผล เนรมิตให้เจ้าสาวที่ประสบอุบัติเหตุเสียโฉมเมื่อหลายปีก่อน สวยในวันพรีเวดดิ้ง เจ้าสาวปลื้มแต่งหน้าสวย เจ้าบ่าวอึ้ง ยอมรับสวยมาก


ผู้หญิงคนหนึ่งที่ในตอนเด็กเธอประสบอุบัติเหตุรถฝ่าไฟแดงพุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่เธอนั่งมากับเพื่อน ทำให้เพื่อนของเธอเสียชีวิต ส่วนตัวเธอเองเสียโฉม ตอนนี้เธออายุ 26 ปี เธอพบรักแท้ และปีหน้าจะแต่งงานแล้ว ซึ่งภาพที่จะเปิดให้ดูต่อไปนี้ต้องชื่นชมร้านพรีเวดดิ้งที่ทำความฝันของเธอให้เป็นจริง เพราะเธอบอกว่าครั้งหนึ่งในชีวิตอยากเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด

คลิปนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเพจเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า จิงโจ้ เรือนเจ้าสาว ซึ่งในคลิปนี้มีการเขียนข้อความไว้ด้วยว่า “เพราะคุณคือแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงทุกคน … เรายินดีและโชคดีมากๆ ที่ลูกค้าเลือกเรา”


ขณะที่ก่อนหน้าเพจนี้ได้โพสต์ภาพว่าที่เจ้าสาว พร้อมข้อความ “ของขวัญสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง คือ การได้แต่งงาน และเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดกับครั้งหนึ่งในชีวิต #ขอบพระคุณเจ้าสาวที่อนุญาตให้ถ่ายก่อนหลัง…เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ และเป็นกำลังใจให้กับผู้หญิงทุกคน”

แต่งหน้าเนรมิตเจ้าสาวประสบอุบัติเหตุให้สวยในวันพรีเวดดิ้ง
เห็นแบบนี้แล้วเราต้องตามไปถามว่าที่เจ้าสาวในภาพ ซึ่งชื่อของเธอก็คือ นางสาวอรธีรา รสหอม หรือส้ม อายุ 26 ปี ขณะนี้เธอทำงานอยู่ที่สำนักงานชลประทานที่ 12 จังหวัดชัยนาท เธอเล่าให้ฟังว่าตอนอายุ 13 ปี หรือวันที่ 11 ตุลาคม 2551 เธอประสบอุบัติเหตุถูกรถบรรทุกสิบล้อวิ่งฝ่าไฟแดงพุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่เธอซ้อนท้ายเพื่อนมา อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้เพื่อนของเธอเสียชีวิต ส่วนตัวเธอและรถจักรยานยนต์ถูกรถสิบล้อลากไปจนไฟลุกท่วมร่าง ผมของเธอถูกเผาจนเซลล์ตาย เธอต้องเสียขาข้างขวา เสียนิ้วมือข้างซ้าย ใบหูข้างขวา และศีรษะ รวมถึงตามร่างกายมีแผลไฟไหม้ ตอนนั้นเธอนอนสลบไป 9 วัน อยู่ในห้องไอซียู 19 วัน ผ่าตัดกว่า 20 ครั้ง

น้องส้มยอมรับด้วยว่าตอนนั้นไม่มีความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ แต่แม่ของเธอไม่ยอมแพ้ เขียนหนังสือขอพระราชทานความช่วยเหลือจากรัชกาลที่ 9 ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณรับเข้าเป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ ทำให้เธอรอดชีวิตมาได้ และมีความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อแม่ และเพื่อทำความดีตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณ


เจ้าสาวชี้เคยไม่มีหวังอยู่ต่อ แต่ตอนนี้พบรักแท้ คบ 4 ปี แต่งปีหน้า
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีเหตุการณ์ทำให้เธอเสียโฉม และขาต้องถูกตัดมาใส่ขาเทียม เธอก็สู้ชีวิตมาเรื่อย กระทั่งเมื่อปี 4 ปีก่อน เธอได้พบรักแท้กับว่าที่เจ้าบ่าว คือ นายชานนท์ อู่ทรัพย์ หรือเจมส์ อายุ 24 ปี ซึ่งเจมส์แม้จะรู้ว่าสภาพร่างกายเธอไม่สมบูรณ์ แต่ยังรักและยอมรับในสิ่งที่เธอเป็น

เจ้าสาวปลื้มแต่งหน้าสวย-เจ้าบ่าวอึ้งยอมรับสวยมาก
ส่วนเรื่องแต่งหน้าเจ้าสาวที่เป็นที่พูดถึงในโซเชียล เธอบอกว่าดีใจและยินดีมาก ไม่คิดว่าจะมีคนให้ความสนใจขนาดนี้ ตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา ไม่เคยเปิดบาดแผลให้คนภายนอกเห็น แต่มาถึงวันนี้เมื่อได้เลือกร้านแต่งหน้าเจ้าสาวร้านนี้ไปถ่ายพรีเวดดิ้ง ภาพออกมาสวย เพราะครั้งหนึ่งในชีวิตอยากเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด ตอนแรกไม่ได้บอกทางร้านว่าตนมีบาดแผลจากอุบัติเหตุที่ศีรษะและร่างกาย ทำให้ต้องใส่วิกผมตลอด พอไปถึงร้านช่างบอกว่าทำได้ รู้สึกดีใจ เมื่อแต่งหน้าทำผมเสร็จ ได้เห็นตัวเอง รู้สึกว่าเกินคาดมาก ไม่คิดว่าจะออกมาสวยขนาดนี้ ว่าที่เจ้าบ่าวถึงกับอึ้งและบอกว่าสวยมาก

วันนี้น้องส้มยิ้มได้อย่างเต็มที่ เพราะคนรอบตัวต่างให้กำลังใจ และตัวเธอเองก็ให้กำลังใจตัวเองด้วย จึงอยากฝากกำลังใจถึงผู้หญิงทุกคนที่มีปัญหาแบบเธอว่าขอให้ทุกคนสู้ๆ ไม่ว่าร่างกายจะเป็นอย่างไร เพราะทุกคนมีความสวยเป็นของตัวเอง ไม่อยากให้ท้อแท้ ความทุกข์อยู่กับเราไม่นาน ที่สำคัญเราต้องรู้จักให้กำลังใจตัวเอง และใช้ชีวิตของเราทุกวันให้มีความสุข ไม่ต้องไปแคร์สายตาของใคร เพราะชีวิตเป็นของเราเอง

เปิดใจ “จิงโจ้” แต่งหน้าลบรอยแผล เนรมิตความงามให้เจ้าสาว
ขณะที่นายวานิช หอมเขียว หรือจิงโจ้ ช่างที่เนรมิตความงามให้กับน้องส้ม ออกมาเปิดใจยอมรับทำงานในอาชีพช่างแต่งหน้ามา 7 ปี ตอนที่ได้รับการติดต่อให้มาแต่งหน้าและถ่ายพรีเวดดิ้งให้ว่าที่เจ้าสาวที่จังหวัดชัยนาท พร้อมบอกรายละเอียดว่า ว่าที่เจ้าสาวมีรอยแผลเป็นบนใบหน้า และศีรษะไม่มีผมครึ่งหนึ่ง ค่อนข้างตื่นเต้น แต่เมื่อได้พูดคุยกับส้ม เธอเป็นคนน่ารัก มีกำลังใจ และมีพลังบวกมาก ช่างจิงโจ้จึงตั้งใจแต่งหน้าทำผมให้ว่าที่เจ้าสาวอย่างสุดฝีมือ

โดยการแต่งหน้าของว่าที่เจ้าสาวในวันนั้น ได้ใช้เทคนิคการลงสี และเทคนิคการปกปิดรอยบกพร่องรอยแผลเป็น ผสมผสานการใช้สี และการตกแต่งบนใบหน้าเพื่อทำให้ใบหน้าออกมาให้สวยที่สุด ขณะที่ผมเจ้าสาวมีผมครึ่งศีรษะ ก็มีการใส่วิกผมและจัดทรงให้เข้ากับใบหน้า ซึ่งทั้งว่าที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวต่างชื่นชอบในผลงาน ร้านจึงขออนุญาตถ่ายรูปและคลิปในช่วงก่อนแต่งหน้าและหลังแต่งหน้า เพื่อนำไปโพสต์เฟซบุ๊ก ซึ่งเจ้าสาวก็อนุญาต เมื่อคลิปและภาพถูกโพสต์ไปก็มีคนเข้ามาให้กำลังใจเจ้าสาวและชื่นชมการแต่งหน้า ทำให้รู้สึกดีใจมาก

สำหรับส้ม และเจมส์ จะเข้าพิธีวิวาห์กันในวันที่ 12 มีนาคมปีหน้า และว่าที่เจ้าบ่าวยืนยันไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร จะรักและมั่นคงกับ ส้มเหมือนทุกวันนี้ตลอดไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย