ฉะเชิงเทรา 15 พ.ย.-สาว 15 ปี อยากกู้เงินออนไลน์มาลงทุนขายของ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ แต่สุดท้ายโดนหลอกสูญเงินมากกว่าที่จะกู้
ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวไทย ได้รับจากประสานงานจากนายบรินทร ฉุยฉาย อายุ 44 ปี พ่อของ “น.ส.เอ” (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี เพื่ออยากให้ช่วยตีแผ่เรื่องราว หลังลูกสาวได้กู้เงินออนไลน์จากแอปฯ เพื่อหวังนำมาลงทุน แต่ถูกหลอกสูญเงินไปมากกว่าเงินที่จะกู้
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 7 ตำบลคลองเปรง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา และได้พบกับ 2 พ่อลูกรอให้ข้อมูล โดย “น.ส.เอ” อายุ 15 ปี เปิดเผยว่า เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ตนเองได้เลื่อน Facebook ไปเจอข้อความใต้คอมเมนต์ในกระทู้ต่างๆ ว่า มีบริการด้านเงินกู้ อนุมัติไว รู้ผลเร็ว จึงกดลิงค์เข้าไป เพื่อหวังกู้เงิน 5,000 บาท มาลงทุนซื้อของมาขายออนไลน์ แต่เมื่อกดลิงค์เข้าไปแล้วจะพาไปยังแอปฯ หนึ่ง และมีเจ้าหน้าที่พิมพ์กลับมาสอบถามข้อมูลต่างๆ ทั้งชื่อ, อายุ และสถานที่ทำงาน พร้อมขอสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
จากนั้น “น.ส.เอ” ได้ตกลงกู้เงิน 5,000 บาท โดยมีกำหนดใช้หนี้เดือนละ 900 บาท จำนวน 6 เดือน แต่ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะต้องเสียค่ามัดจำ 400 บาท จึงหลงเชื่อและโอนไป จากนั้นได้มีการโอนสายไปยังเจ้าหน้าที่อีกคน อ้างว่าต้องโอนเงินอีก 900 บาท เป็นค่าเอกสาร จึงยอมโอนเงินไปอีก จากนั้นมีเจ้าหน้าที่คนที่ 3 อ้างว่าต้องการเก็บเงินงวดแรกก่อน 900 บาท จึงหลงเชื่อยอมโอนเงินไปอีก และมีเจ้าหน้าที่คนที่ 4 ได้พูดจาหว่านล้อมบอกว่า ขั้นตอนใกล้เสร็จสมบูรณ์ และต้องจ่ายค่าอนุมัติสัญญาอีก 1,500 บาท เท่านั้นยังไม่พอ เพราะมีเจ้าหน้าที่คนที่ 5 ติดต่อมาเพื่อให้โอนเงินค่าเซ็นสัญญา 2,000 บาท จึงไปหาหยิบยืมคนรู้จักเพื่อโอนไปอีก โดยเมื่อทำการโอนเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่คนที่ 5 ได้โอนสายกลับไปยังเจ้าหน้าที่คนที่ 4 และอ้างว่าจะต้องโอนเงินอีก 3,000 บาท เพื่อเป็นค่าภาษีรัฐบาลและค่าสมาชิก ทำให้รู้สึกแล้วว่าน่าจะถูกหลอก จึงปรึกษาพ่อเพื่อพูดคุยยกเลิกสัญญา แต่สุดท้ายไม่เป็นผล ต้องเสียเงินไปมากกว่า 5,700 บาท แต่ไม่ได้เงินที่ต้องการจะกู้แม้แต่บาทเดียว
ด้านนายบรินทร เปิดเผยว่า หลังได้เบอร์โทรศัพท์จากลูกสาว ตนเองได้โทรศัพท์กลับไปยังเบอร์ที่ได้มา โดยมีเสียงผู้ชายเป็นคนรับ ตนเองได้แจ้งกลับไปว่า ต้องการขอยกเลิกสัญญาเงินกู้ทั้งหมด เพราะจำนวนเงินที่โอนไป 5,700 บาท มากกว่าเงินที่ลูกสาวขอกู้จำนวน 5,000 บาทแล้ว แต่ปลายสายได้ข่มขู่ พร้อมตอบกลับมาว่า ไม่สามารถยกเลิกสัญญาเงินกู้ได้ และจะฟ้องกลับเพราะทำให้บริษัทเสียหาย จึงพาลูกสาวเดินทางเข้าแจ้งความตำรวจ
นายบรินทร บอกว่า ต้องการตีแผ่เรื่องราวดังกล่าวให้เป็นอุทาหรณ์ต่อสังคม เพราะหวั่นว่าเด็กและเยาวชนที่อยู่ใกล้กับโทรศัพท์มือถืออาจถูกหลอกเหมือนลูกสาวของตนเอง และต้องสูญเสียเงินจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย