อุดรธานี 5 พ.ย.-หนุ่มวัย 35 ปี เมายาบ้า จับป้าแท้ๆ เป็นตัวประกัน ก่อนปาดคอเสียชีวิต ก้มกราบขอขมาลูกสาวผู้ตาย เผยขอชดใช้กรรมในสิ่งที่ทำลงไป เพราะฤทธิ์ยาบ้า
กรณี นายบิ๊ก อายุ 35 ปี ชาว ต.หนองบัวบาน อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ที่มีอาการทางจิตประสาท และขาดยารักษาอาการอย่างต่อเนื่อง เสพยาบ้าและเหล้าขาวจนเกิดอาการหลอนและคลุ้มคลั่งอาละวาดในมือมีอาวุธมีดทำครัว ตำรวจและชาวบ้านได้เข้าระงับเหตุ และช่วยกันวิ่งไล่จับ ก่อนหนุ่มคลั่งจะวิ่งเข้าไปในบ้านของ นางจิตต์ นามกระโทก อายุ 74 ปี ป้าแท้ๆ และใช้มีดจี้ป้าเป็นตัวประกันอยู่ในบ้าน ตำรวจเกลี้ยกล่อมอยู่นานเกือบ 1 ชั่วโมง ก่อนตัดสินใจพังประตูเข้าไปช่วยเหลือ หลังจากหลานชายของป้าอีกคนเห็นหนุ่มคลั่งใช้มีดแทงและปากคอป้าบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหนองวัวซอ ส่วนหนุ่มคลั่งหลังถูกควบคุมตัว ชาวบ้านและญาติที่โกรธแค้น ระงับอารมณ์ไม่อยู่ได้รุมประชาทัณฑ์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ ชุดสอบสวนคลี่คลายคดี สภ.หนองวัวซอ ร่วมกันสอบสวนปากคำ ผู้ก่อเหตุ ต่อหน้านางอัมพร ไชยจินดา อายุ 47 ปี ลูกสาวผู้ตาย และเป็นญาติของผู้ก่อเหตุ ก่อนไปก้มกราบเพื่อขออโหสิกรรมในสิ่งที่กระทำลงไป โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุดรธานี มาให้คำแนะนำกับญาติเรื่องสิทธิประโยชน์การเยียวยาเหยื่ออาชญากรรม ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ขอชดใช้กรรมในสิ่งที่ตัวเองได้กระทำ เพราะฤทธิ์ของยาบ้า และน้ำยาเร่งรากมันสำปะหลังที่เอามาดื่ม ทำให้ขาดสติและเกิดอาการหลอนคลุ้มคลั่งอาละวาดกลัวคนจะมาฆ่าและทำร้ายประกอบกับผู้ต้องหาเคยมีอาการทางจิตประสาท เมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมา และไม่กินยารักษาอาการอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้หลังจากประเมินอาการของผู้ต้องหาและสถานการณ์ ซึ่งทางตำรวจจะไม่ควบคุมผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ เนื่องจากผู้ต้องหามีอาการทางจิตประสาท พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง และเกรงว่าจะถูกรุมประชาทัณฑ์ ซึ่งสอบปากคำแล้วเสร็จ ตำรวจได้มอบเงินทำบุญช่วยงานศพให้กับญาติผู้ตายจำนวนหนึ่งด้วย
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พร้อมคณะ วันนี้เดินทางไปบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน เพื่อจุดธูปเคารพศพผู้ตาย และพูดคุยกับนางสะมาตร ไวยศักดิ์ อายุ 58 ปี น้องสาวผู้ตาย และเป็นอาของผู้ต้องหา เพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสอบถามเรื่องราวพฤติกรรมและอาการทางจิตประสาทของผู้ต้องหา ก่อนที่จะก่อเหตุสลดครั้งนี้
นายพนมศักดิ์ ขันทองคำ อายุ 45 ปี สท.ตำบลหนองบัวบาน ผู้อยู่ในเหตุการณ์และช่วยระงับเหตุ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (4 พ.ย.) ช่วงเที่ยง นายบิ๊กคุล้มคลั่งเหมือนขาดยาถือมีดวิ่งรอบหมู่บ้าน ลูกสาวผู้ตายวิ่งไปบอกตนโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาช่วยควบคุมตัวไปรักษาอาการ พอรถกู้ชีพฯ และตำรวจมาถึงนายบิ๊กก็วิ่งหลบหนีก่อนจะวิ่งหลบหนีเข้าไปในบ้านของผู้ตาย ตนและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เกลี้ยกล่อมอยู่เกือบ 1 ชม. ก็ไม่ยอมออกมาจากบ้าน จึงงัดหน้าต่างบ้านเข้าไปในบ้านพบว่าในมือนายบิ๊กมีมีด จึงพากันถอยออกมา และนายบิ๊กก็ยังคงอยู่ในอาการหวาดระแวง เพราะมีตำรวจล้อมบ้านทั้งสองฝั่ง ก่อนที่นายบิ๊กจะใช้มีดปาดคอและใบหน้าของป้า เมื่อรู้ว่าผู้ตายถูกหลานชายทำร้าย จึงพากันตัดสินใจบุกเข้าไปควบคุมตัวนายบิ๊ก และนำตัวผู้ตายรีบส่ง รพ.หนองวัวซอ เพื่อช่วยเหลือชีวิตและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
นายบิ๊ก มีอาชีพรับจ้างทั่วไป เคยมีประวัติเรื่องยาเสพติดและจิตประสาทระยะหลังคงขาดยารักษาอาการต่อเนื่อง ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ก็เคยเกิดขึ้นแต่ไม่รุนแรงขนาดนี้ในส่วนของเรื่องยาเร่งรากที่ใช้แช่มันสำปะหลัง คาดว่า ขณะที่นายบิ๊ก คลุ้มคลั่งแล้ววิ่งหยิบมาดื่มโดยไม่รู้ตัว เพราะอยู่ในอาการหลอนยาบ้า ก่อนก่อเหตุสลดฆ่าปาดคอป้าแท้ๆ ของตัวเอง
น.ส.วิไล จำปีหอม อายุ 39 ปี เพื่อนบ้านผู้ตาย เล่าว่า วันเกิดเหตุตนก็ยืนอยู่ใกล้บ้านของผู้ตาย เห็นตำรวจและชาวบ้านวิ่งไล่จับนายบิ๊กไปรอบหมู่บ้าน แล้วก็วิ่งเข้าไปหลบในบ้านผู้ตาย ซึ่งตนรู้สึกกลัวและตกใจมาก โดยเห็นนายบิ๊กผลักยายเข้าไปในบ้าน จนยายล้มแล้วก็ปิดล็อกประตูหน้าต่างไว้ และกลัวว่านายบิ๊กจะมาทำร้ายตน จึงวิ่งหลบหนีไปที่อื่น เพราะในมือนายบิ๊กมีมีด ตนมารู้อีกทีว่านายบิ๊กฆ่าปาดคอป้าแท้ๆ ก็รู้สึกสลดหดหู่ใจ และเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่คิดว่าหลานจะฆ่าผู้ตายได้ลงคอ คิดเพียงแค่ว่าจะขังยายไว้เป็นตัวประกันเฉยๆ.-สำนักข่าวไทย