ฝูงร็อตไวเลอร์ ระราน–รุมขย้ำชาวบ้านเจ็บเย็บ 7 เข็ม

สมุทรสาคร 1 พ.ย.- ฝูงสุนัขร็อตไวเลอร์ 4 ตัว รุมขย้ำชาวบ้านบาดเจ็บ ขณะที่เจ้าของยอมรับว่าดูแลสุนัขไม่ดีเพราะเมาเหล้า ถูกแจ้งข้อหาและฟ้องศาลสั่งย้ายสุนัขออกจากพื้นที่ไปอยู่ในที่เหมาะสม


กรณีโซเชียลแชร์คลิปเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา สุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ 3 ตัว เข้าไปป่วนในร้านโชว์ห่วย หมู่บ้านสุขถาวร อ.เมืองสมุทรสาคร ก่อนที่จะวิ่งออกไปจากร้านแล้วกัดเพื่อนบ้านจนบาดเจ็บ ต่อมาเย็นวันที่ 31 ตุลาคม 2564 ก็ปรากฏมีคลิปภาพสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ฝูงเดิม 4 ตัว วิ่งมาที่หน้าบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านสุขถาวร แล้วรุมกัดเจ้าของบ้านขณะยืนอยู่หน้าบ้าน ทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือ นายนิพล นวมโคกสูง อายุ 56 ปี บาดเจ็บสาหัสมีบาดแผลที่แขนซ้ายเย็บ 7 เข็ม และขาขวาหลายแห่ง มีรายงานว่า พ.ต.อ.ธนากร วงศ์สิริลักษณ์  ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร มอบหมายให้ พ.ต.ท.ชุมพร ฉัตร์สงวนชัย รอง.ผกก.ป.สภ.เมืองสมุทรสาคร นำกำลังเข้าควบคุมตัวนายณรงค์ ขวัญบุญ อายุ 41 ปี เจ้าของสุนัขไปสอบปากคำที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร นายณรงค์   ไม่มีเจตนาหรือเหตุบาดหมางกับผู้เสียหายมาก่อน พร้อมยอมรับเป็นความประมาทเลินเล่อของตน ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาเนื่องจาดื่มเบียร์ไป 7 ขวด แต่ในตอนนี้อยู่ในอาการปกติและรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า กระทำประมาทและการกระทำเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและปล่อยปละละเลยให้สัตว์นั้นเที่ยวไปโดยลำพังในประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์และจะได้นำตัวส่งฟ้องศาลต่อไป

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่หมู่บ้านสุขถาวร พบกับนายนิพล นวมโคกสูง ผู้เสียหายเล่าว่า วันเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาฝนตก ตนยืนอยู่หน้าบ้าน ขณะนั้นมีฝูงสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ 4 ตัว วิ่งออกมาจากซอยใกล้เคียงแล้วพุ่งเข้ามารุมขย้ำตนเองทันที ซึ่งตนได้แต่ร้องให้คนช่วย และทำได้แค่ยืนเฉยๆ เพราะสุนัขยิ่งไปสู้มันยิ่งรุมหนักขึ้น จึงต้องยืนนิ่งๆ ให้มันแน่ใจว่าเหยื่อยอมแพ้แล้ว มันจึงยอมปล่อยแล้วก็วิ่งกลับไปยังบ้านเจ้าของในซอย 9  ซึ่งหลังเกิดเหตุตนเองก็ไปเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร โดยเบื้องต้นแพทย์ลงความเห็นให้พัก 15 วัน แล้วดูอาการของบาดแผลต่อไปเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร โดยจะต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะทุกวันนี้หลังจากที่เคยเกิดเหตุมาแล้วเมื่อเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้นเลย คนในหมู่บ้านยังคงอยู่กับความหวาดกลัวเรื่อยมา หากเมื่อวานนี้ไม่ใช่ตนเองที่ถูกกัดแต่เป็นเด็กเล็กๆ จะทำอย่างไร อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว


ด้านนายสมนึก เนตรแก้ว อายุ 54 ปี เจ้าของร้านโชว์ห่วย ที่เคยเป็นผู้นำภาพสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์วิ่งเข้าร้าน ก็บอกว่านับตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ที่สุนัขวิ่งเข้ามาในร้านก่อนออกไปกัดเพื่อนบ้านนั้น ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นเลย เคยมีการนำสุนัขออกไป 1 ตัว แล้วก็เอากลับเข้ามาใหม่ ทางเจ้าของบ้านก็บอกว่า ใครอยากฟ้องก็ไปฟ้องร้องเอาเลย เขาเองไม่มีเงินทำกรงให้หมาก็ต้องปล่อยไว้แบบนี้ ซึ่งทุกวันนี้ทุกคนในหมู่บ้านก็ยังอยู่กับความหวาดกลัวเพราะไม่รู้ว่าสุนัขจะหลุดออกมากัดคนอีกเมื่อไหร่ แล้วก็มีวันนั้นจริงๆ เมื่อวานนี้ที่มันออกมารุมกัดคนอยู่ซอยติดกันจนได้รับบาดเจ็บหนักกว่ารายแรกอีก ทั้งนี้จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่มาจับสุนัขทั้ง 6 ตัว ออกไปจากหมู่บ้านนี้ก่อน พร้อมกับดำเนินคดีเจ้าของสุนัขด้วย 

ด้าน พ.ต.อ.ธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ปศุสัตว์จังหวัดสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ อบต.บ้านเกาะปศุสัตว์อำเภอ เจ้าหน้าที่กรมการปกครอง เดินทางไปที่บ้านเจ้าของสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ทั้ง 6 ตัว พบว่าบ้านถูกปิดเงียบ มีการนำแม่กุญแจสภาพใหม่เอี่ยมมาคล้องปิดล็อกไว้ เมื่อตะโกนเรียกก็ไม่มีคนออกมาได้ยินแค่เสียงสุนัขเห่าออกมา เนื่องจากนายณรงค์ ขวัญบุญ เจ้าของสุนัขที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไปสอบปากคำตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำวานนี้ ยังอยู่ในการควบคุมของตำรวจเพื่อเตรียมส่งฟ้อง เพื่อให้ศาลมีคำสั่งให้เคลื่อนย้ายสุนัขทั้งหมดออกจากพื้นที่ภายในวันนี้

โดยตำรวจจะเสนอสำนวนคดีต่ออัยการ เพื่อขอให้ดำเนินการยึดสุนัขทั้งหมดไว้เนื่องจากเป็นการก่อเหตุซ้ำซ้อนหลายครั้ง ก่อให้เกิดความทุกข์ร้อนต่อชาวบ้าน ในการนี้ยังได้มีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งปศุสัตว์จังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อร่วมกันเคลื่อนย้ายสุนัขออกจากพื้นที่ ไปไว้ยังจุดรับเลี้ยงที่มีความเหมาะสม ขณะที่ทางด้านของเจ้าของสุนัข จะต้องถูกดำเนินคดีในฐานะเป็นผู้ควบคุมสัตว์ดุร้ายแล้วปล่อยให้ไปเกิดเหตุอันตรายต่อผู้อื่น ส่วนผลการสอบปากคำเบื้องต้นทางเจ้าของสุนัขก็ให้การยอมรับโดยอ้างว่า สุนัขทั้งหมดเป็นของตนจริงแต่ไม่ได้เจตนาปล่อย สุนัขหลุดออกไปก่อเหตุเอง.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

ส่องความเสียหายน้ำท่วมหล่มสัก ชาวบ้านหวั่นท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 21 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จะลดลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง บ้านเรือนร้านค้าหลายร้อยหลังเจอน้ำท่วมซ้ำเป็นรอบที่ 2 ในช่วง 3 สัปดาห์ ทำให้ชาวบ้านกังวลหล่มสักจะกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก.-สำนักข่าวไทย

ไรเดอร์ร้องถูกชายอ้างเป็นตำรวจ ขี่รถประกบ-ข่มขู่

กทม. 21 ก.ย. – ไรเดอร์หนุ่ม สุดงง ถูกชายอ้างเป็นตำรวจสายสืบขี่รถตามประกบ ข่มขู่ดำเนินคดีเป็นไรเดอร์เถื่อน ขณะ สน.หนองแขม ยันไม่ใช่ตำรวจในสังกัด “ต๊ะ” ไรเดอร์วัย 27 ปี โพสต์คลิปบนเฟซบุ๊ก และนำมาร้องสื่อ โดยบอกว่า ชายคนนี้อ้างตัวเป็นตำรวจ ขี่รถมาประกบ และจอดขวางขณะกำลังขี่รถมาถึงปากซอยเพชรเกษม 81/5 เพื่อไปรับงานส่งลูกค้า ส่วนตอนคนที่อ้างเป็นตำรวจ เดินลงจากรถจักรยานยนต์ ก็อ้างว่าที่เรียกตรวจ เพราะเห็นว่าเป็นไรเดอร์ แต่ไม่มีกล่องใส่อาหารอยู่ท้ายรถ ซึ่งชายคนนี้ตามตัวมีครบทั้งวิทยุสื่อสาร ไฟฉาย และเสื้อที่ปักว่า “สืบ” มีอย่างเดียวที่ไม่เหมือนคือนิสัยที่ไม่เหมือนตำรวจ ทำให้ “ต๊ะ” ตัดสินใจถ่ายคลิปไว้ป้องกันตัวเอง เพราะเหตุเกิดขึ้นช่วงเที่ยงคืน หลังเกิดการโต้เถียงกัน สุดท้ายชายคนที่แอบอ้างเป็นตำรวจก็ไล่ “ต๊ะ” บอกจะไปไหนก็ไป เดี๋ยวโดนร้องเรียนเอง “ต๊ะ” จึงขี่รถกลับบ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ เพราะที่จะไปรับลูกค้าก็ไปไม่ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อขี่รถออกมา ชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจยังขี่รถตามมา “ด่า” จนถึงปากซอยทางเข้าบ้าน แล้วก็ขี่รถฉีกออกไปมุ่งหน้าไปทางอ้อมใหญ่ ทำให้ “ต๊ะ” ค่อนข้างมั่นใจว่า ชายคนนี้ไม่ใช่ตำรวจ […]

“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์

ศรีสะเกษ 21 ก.ย.-“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ประเทศ มั่นใจชนะแน่ ไม่ต้องรบกวนให้ท่านช่วย ด้าน “จ๋า ธนนนท์” ภรรยา ขอสานฝันวัยเด็ก อยากเป็นนางงามขึ้นรถแห่ช่วยหาเสียง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ภายหลังจากเสร็จสิ้นการปราศรัยช่วยหาเสียงให้ นางสาวจินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล หรือครูอีฟ ผู้สมัคร สส.ภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 ได้ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำอำเภอภูสิงห์ อาทิ เทพารักษ์ ศาลหลักเมืองประจำอำเภอ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ขอพรอะไรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นายอนุทิน เผยว่า ได้ขอพรให้ประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุข เข้มแข็ง มีแต่ชัยชนะ ประชาชนอยู่ดีกินดี จริงๆ ก็ขอแค่นี้ เมื่อถามว่าได้ขอพรให้ชนะเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ นายอนุทิน เผยด้วยความมั่นใจว่า ภูมิใจไทยชนะ ไม่รบกวนท่าน ไม่รบกวนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าจะขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ขอให้ประเทศไทยเข้มแข็ง ขอให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขแค่นี้ ต่อมานายอนุทิน ได้เดินหาเสียงที่ตลาดภูสิงห์ ช่วยนางสาวจินณ์ตวรรณ […]

ทบ.ชี้ข้อมูลหลักเขตแดนที่ 42-43 เป็นไปตามกรอบ JBC

กทม. 21 ก.ย.-กองทัพบก ชี้ข้อมูลหลักเขตแดนที่ 42-43 เป็นไปตามกรอบ JBC พร้อมเรียกร้องกัมพูชาหยุดบิดเบือนความจริง และให้ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเขตไทยย้ายออกนอกพื้นที่ กรณีสำนักงานเลขาธิการว่าด้วยกิจการชายแดนกัมพูชา แถลงการณ์เมื่อ 21 ก.ย. 68 ว่า “พบการเผยแพร่ข้อมูลผ่านบัญชี Facebook Page ชื่อ “Royal Thai Army: Update” เมื่อ 19 กันยายน 2568 โดยใช้แผนผังที่แสดงลักษณะภูมิศาสตร์และตำแหน่งหลักเขตแดน ซึ่งเป็นบันทึกการประชุมลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2017 (พ.ศ. 2560) และภาคผนวกของบันทึกการประชุมลงวันที่ 28 ธันวาคม 2016 (พ.ศ. 2559) ของคณะกรรมการรังวัดร่วมกัมพูชา–ไทย ซึ่งเป็นผลจากการสำรวจหาตำแหน่งที่แท้จริงของหลักเขตแดนหมายเลข 42 และหมายเลข 43 ในพื้นที่หมู่บ้านไปรจัน โดยมีการบิดเบือนให้เข้าใจผิดไปว่า คณะผู้บริหารของสำนักงานเลขาธิการว่าด้วยกิจการพรมแดน (ฯพณฯ ลาย เซียงลี) ได้ลงนามยอมรับเส้นเขตแดนอย่างเป็นทางการในพื้นที่หมู่บ้านไปรจัน ซึ่งอยู่ระหว่างหลักเขตแดนหมายเลข 42 และหมายเลข […]