หนุ่มทาสยาหลอนไล่แม่ออกจากบ้าน-จุดไฟเผา

ขอนแก่น 29 ต.ค. – หนุ่มวัย 34 ปี มีอาการหลอน หลังจากเสพยาบ้าเข้าไป ก่อนจะไล่แม่ออกจากบ้าน แล้วจุดไฟเผาบ้านตัวเองวอด


เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ช่วยกันดับไฟที่ลุกไหม้ภายในบ้านเลขที่ 66 หมู่ 8 บ้านท่ามะเดื่อ ต.ท่ากระเสริม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น หลังจากที่นายยุทธศักดิ์ ห้วยกุด อายุ 34 ปี จุดไฟเผาบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ หลังจากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวนายยุทธศักดิ์ ไปที่ สภ.น้ำพอง เพื่อสงบสติอารมณ์ หลังเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ก่อเหตุเผาบ้านตัวเองได้รับความเสียหายเกือบทั้งหลัง

นางหนูเลื่อน อายุ 67 ปี มารดาของนายยุทธศักดิ์ เล่าว่า เมื่อคืนก่อน (27 ต.ค.) ลูกชายของตนเองได้ไปเสพยาบ้ามา หลังจากนั้นเริ่มมีอาการหงุดหงิดมาโดยตลอด จนกระทั่งตอนเช้าลูกชายได้เดินทางไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และกลับมาถึงบ้านประมาณ 15.00 น. ตนเองจึงตำมะขาม เพื่อให้ลูกชายรับประทาน ป้องกันอาการข้างเคียงหลังจากการฉีดวัคซีน แต่ถูกลูกชายตนเอง ซึ่งมีอาการหงุดหงิด ต่อว่าพร้อมกับจะนำเก้าอี้มาฟาดใส่ ตนเองจึงรีบวิ่งหนีไปบ้านพี่สาว โดยไม่ได้สวมใส่รองเท้า จากนั้นไม่นานก็มีชาวบ้านมาบอกว่า บ้านขอนางหนูเลื่อน อายุ 67 ปี มารดาของนายยุทธศักดิ์ เล่าว่า เมื่อคืนก่อน (27 ต.ค.) ลูกชายของตนเองได้ไปเสพยาบ้า หลังจากนั้นเริ่มมีอาการหงุดหงิดมาโดยตลอด จนกระทั่งตอนเช้าลูกชายได้เดินทางไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และกลับมาถึงบ้านประมาณ 15.00 น. ตนเองจึงตำมะขาม เพื่อให้ลูกชายรับประทาน ป้องกันอาการข้างเคียงหลังจากการฉีดวัคซีน แต่ถูกลูกชายตนเอง ซึ่งมีอาการหงุดหงิด ต่อว่าพร้อมกับจะนำเก้าอี้มาฟาดใส่ ตนเองจึงรีบวิ่งหนีไปบ้านพี่สาว โดยไม่ได้สวมใส่รองเท้า จากนั้นไม่นานก็มีชาวบ้านมาบอกว่า บ้านของตนเองถูกไฟไหม้ และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาดับไฟ จนกระทั่งทราบภายหลังว่า ลูกชายของตนเองเป็นคนลงมือก่อเหตุในครั้งนี้


นางหนูเลื่อน เล่าต่อไปว่า ลูกชายของตนเองเสพยาบ้ามานานหลายปี หลังจากไปทำงานต่างจังหวัด จนกระทั่งได้ทำร้ายคน จึงถูกไล่ออกจากงาน แล้วกลับมาอาศัยอยู่ที่บ้าน ตนเองได้นำตัวลูกชายไปรักษาอาการทางประสาท ซึ่งก็รักษาได้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ไม่เป็นผล เพราะลูกชายไม่ยอมกินยา และได้กลับมาเสพยาบ้าอีก ซึ่งก่อนหน้านี้เคยก่อเหตุเผาบ้านมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่สามารถดับไฟไว้ได้ กระทั่งมาคลุ้มคลั่งก่อเหตุเผาบ้านตัวเองอีกครั้ง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง