น้ำท่วมหลายจังหวัดยังน่าห่วง

ภูมิภาค 12 ต.ค.-สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดยังน่าห่วง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน มีน้ำท่วมสูงพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนในหลายพื้นที่ ขณะที่ชาวเมืองมหาสารคาม น้ำชีขึ้นสูงสุดพรุ่งนี้ (13 ต.ค.) ทางการเตือนให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด


อ.สบปราบ น้ำท่วมสูงรอบ 3

ที่ อ.สบปราบ จ.ลำปาง หลังจากฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่บ้านทุ่งพัฒนา ถนนทางเข้าหมู่บ้านระหว่างบ้านทุ่งพัฒนา เข้าตัว อ.สบปราบ ถูกตัดขาด ส่วนวัดบ้านทุ่ง โรงรียน รวมถึงบ้านเรือนชาวบ้าน ที่อยู่ติดกับลำห้วยห้วยสมัย ได้รับความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 หลังคาเรือน บางจุดน้ำท่วมสูงถึง 1 เมตร และขณะนี้น้ำก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปริมาณฝนที่ตกต่อเนื่องในพื้นที่ เบื้องต้นกู้ภัยลำปาง จุดสบปราบ และทีมนทีลำปาง ต้องนำเรือท้องแบน นำน้ำดื่มเข้าไปแจกชาวบ้านที่ออกมาไม่ได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ขณะเดียวกันทางเข้าออกหมู่บ้านจุดนี้ ก็ถูกปิดไม่สามารถสัญจรได้ ชาวบ้านทุ่งพัฒนาจึงยังไม่สามารถออกมาได้


จากภาพมุมสูง จะเห็นว่าในหมู่บ้านยังคงมีน้ำท่วมขังเต็มพื้นที่ และท่วมสูงในบางจุด บริเวณใกล้ลำห้วยมีน้ำไหลเชียวเข้าหมู่บ้าน สำหรับความเสียหาย ครั้งนี้ชาวบ้านบอกว่า ถือเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

มวลน้ำชีทะลักท่วมที่นากว่าพันไร่

มวลน้ำจากแม่น้ำชี ที่ไหลมาจากจ.มหาสารคาม ได้เอ่อล้นเข้าท่วมนาข้าวและพื้นที่เกษตร ใน ต.ม่วงลาด อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งประตูระบายน้ำกุดเชียงบัง ยังสามารถกันน้ำไว้ได้ หากน้ำไม่มามากกว่านี้ โดยปริมาณน้ำสองฝั่งของแม่น้ำชี เริ่มล้นตลิ่งแล้ว ส่งผลกระทบต่อพื้นที่สวนไร่นาของชาวบ้าน และจ่อเข้าท่วมหมู่บ้านหนองแค หมู่ 8 ต.ม่วงลาด อ.จังหาร ชาวบ้านต้องเร่งขนย้ายสัตว์เลี้ยง ไปไว้ในพื้นที่สูงเพื่อความปลอดภัย ขณะที่ทหารจากหน่วยพระราชทาน กองบัญชาการกองทัพไทย (จังหวัดสุรินทร์) นำกำลังพล และเรือท้องแบน มาเตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือ หากปริมาณน้ำมามากจนเข้าท่วมหมู่บ้านหนองแค


ฝนถล่มหนัก น้ำป่าล้นท่วมหมู่บ้านกว่า 50 หลัง

ที่ ต.เมือง อ.เมืองเลย จ.เลย น้ำป่าจากลำห้วยน้ำภู ไหลเชี่ยวกรากเข้าท่วมบ้านเรือนที่บ้านน้ำภู สูง 50 ซม.–1 เมตร ชาวบ้านต้องรีบขนย้ายข้าวของหนีน้ำขึ้นที่สูง โดยก่อนเกิดเหตุ มีฝนตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่ช่วงหัวค่ำวานนี้ (11 ต.ค.) ทำให้มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายแล้วอย่างน้อย 50 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่หมู่ 4 บ้านน้ำภู ต.เมือง นอกจากนี้ยังมีนาข้าวข้าวที่กำลังรอการเก็บเกี่ยวและตั้งท้อง ถูกน้ำท่วมเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่นายอำเภอเมืองเลย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และให้การช่วยเหลือชาวบ้านเป็นการด่วน

เตือนชาวเมืองมหาสารคามน้ำชีขึ้นสูงสุดพรุ่งนี้

สถานการณ์น้ำในพื้นที่ ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม ในหลายหมู่บ้านต่างมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ทั้งบ้านท่าประทาย โนนตูม และโขงกุดหวาย โดยเฉพาะโขงกุดหวายได้รับผลกระทบหนักที่สุด ในจำนวน 100 หลังคาเรือนถูกน้ำเข้าท่วมตัวบ้านแล้วราว 50 หลังคาเรือน ถนนกลางหมู่บ้าน ตามตรอกซอกซอยต่างๆ ถูกน้ำท่วมเกือบทั้งหมด โดยระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเช้าวันนี้ บางครอบครัวต้องไปเช่าห้องอยู่ด้านนอก บางส่วนย้ายไปอาศัยกับญาติที่มีบ้าน 2 ชั้น หรืออยู่พื้นที่สูงที่น้ำยังท่วมไม่ถึง สัตว์ใหญ่ถูกอพยพไปอยู่พื้นที่สูงหมดแล้ว เหลือเพียงสัตว์เล็กอย่างไก่ ที่จะอพยพในภายหลังตามสถานการณ์น้ำรายวัน

ผอ.โครงการชลประทานมหาสารคาม ให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ว่า ประเมินจากศูนย์อุทกวิทยา และมวลน้ำที่มาผ่านอำเภอโกสุมพิสัย คาดว่า แม่น้ำชีช่วงผ่านอำเภอเมือง จะขึ้นสูงสุดภายในวันพรุ่งนี้ (13 ต.ค.) โดยจะเพิ่มจากระดับปัจจุบันอีกราว 50–60 เซนติเมตร

ชุมชนวัดสนามไชย-โบราณสถาน ยังท่วมสูง

สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.พระนครศรีอยุธยา หลังเขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนป่าสักลดการระบายน้ำลง บ้านเรือนประชาชน วัดโรงเรียนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ ติดกับแม่น้ำเจ้าพรยา และคลองสาขา ส่วนใหญ่ระดับน้ำเริ่มทรงตัว แต่ในพื้นที่ของ ต.สนามไชย อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งรับมวลน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา และป่าสัก ไหลมารวมกัน ยังประสบปัญหาน้ำล้นตลิ่งท่วมสูง ประกอบกับมีน้ำทะเลหนุน ขึ้นมาอีก 30 เซนติเมตร ยังคงส่งผลกระทบให้กับบ้านเรือน วัดสนามไชย โรงเรียนวัดสนามไชย รวมถึงโบราณสถานเจดีย์วัดสนามไชย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ยังคงถูกน้ำท่วมสูง ทางการต้องนำถุงยังชีพ ขนใส่เรือพายเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนวัดสนามไชย พร้อมทั้งสอบถามความเดือดร้อน เพื่อการช่วยเหลือต่อไป

พายุกระโชกแรง ซัดฝูงช้างหน้าหลวงปู่ทวดล้ม 3 ตัว

ส่วนที่ จ.พังงา เกิดพายุลมกระโชกแรงในพื้นที่เทศบาลเมืองพังงา และมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย บางหลังกระเบื้องหลังคาบ้านปลิวหายไปหลายแผ่น ขณะที่บริเวณลานหลวงปู่ทวด สวนกาญจนาภิเษก เขตเทศบาลเมืองพังงา พบว่ารูปปั้นฝูงช้างจำนวน 12 ตัว ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าองค์หลวงปู่ทวด ถูกลมพายุซัดล้มลงเสียหายจำนวน 3 ตัว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% ไม่พอใจเข้มปราบแก๊งคอลฯ

กระทรวงวัฒนธรรม 26 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดใจ ขอคนไทยรักกัน หันไปทะเลาะกับคนนอกประเทศก่อน ชี้ขัดแย้งกันเองยังรอได้ แฉกัมพูชาไม่พอใจไทยร่วมมือลาว – เมียนมา ปราบคอลเซ็นเตอร์ เผยสื่อนอกยังตั้งข้อสังเกต “กพช.” สั่งปิด รร.ยิงวันแรก เหมือนรู้ล่วงหน้าจะมีการรบ ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมติดตามมาตรการการรับมือ และช่วยช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 4 จังหวัด ที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยนางสาวแพทองธารได้ยืนยันแถลงการณ์ของรัฐบาล ตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้แถลงไปเมื่อวานนี้ ที่ระบุว่ากัมพูชาถือว่าเป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง วิธีการต่าง ๆ ขัดต่อหลักสันติวิธีของกฎหมายระหว่างประเทศ และขัดหลักมนุษยธรรมที่ได้ปฏิบัติมาตลอด สถานการณ์ความรุนแรง เป็นสิ่งที่รัฐบาลได้ย้ำตลอดว่าไม่อยากให้เกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่สุด คือชีวิตของประชาชน เป็นสิ่งที่เรายึดถือ และพยายามไม่ให้เกิดการเสียเลือดเสียเนื้อ จนฝ่ายกัมพูชาได้ยิงก่อน ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา นางสาวแพทองธารยังกล่าวว่า มีสำนักข่าวต่างประเทศตั้งข้อสังเกตว่า จริงๆ แล้วเรามีหลักฐาน มีดิจิทัลฟุตปริ้นท์ที่สามารถทำให้เห็นว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน และมีการตั้งข้อสังเกตว่าในวันนั้นนักเรียนของเราที่อยู่ชายแดนไปโรงเรียนตามปกติ […]

“เสธ.เบิร์ด” ชี้เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” ถือเป็นภัยคุกคาม

26 ก.ค.- “เสธ.เบิร์ด” ชี้ เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” วิถีไกล 130 กม. ถือเป็นภัยคุกคาม มองไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากกรณีกองทัพภาคที่ 2 เตือนเฝ้าระวังกัมพูชายิงขีปนาวุธ PHL-03 วิถีไกล 130 กม. เพื่อพุ่งเป้าหมายพื้นที่ยุทธศาสตร์และที่ตั้งทหารนั้น ล่าสุด พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวว่า การขยับขีปนาวุธ PHL-03 เป็นการขู่ และถือเป็นภัยคุกคาม ดังนั้นถ้าไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากการที่กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยใช้ปฏิบัติการทางอากาศเกินกว่าเหตุนั้น เราไม่ทำเกินกว่าเหตุ แต่สิ่งที่เราทำนี้เป็นเหตุผล เพราะฝ่ายกัมพูชา เคลื่อนกำลังจำนวนมากมาประชิดชายแดน ใช้อาวุธยิงระยะไกลทำร้ายประชาชนของไทย ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ทำให้ประชาชนชาวไทยบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากการมีภาพข่าวการเคลื่อนอาวุธยิงระยะไกล ถือว่าเป็นการข่มขู่คุกคามความมั่นคงของไทยอย่างชัดเจน ดังนั้นการปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อลดการสูญเสีย สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้การปฏิบัติการทางอากาศของไทยทำลายเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และมีความแม่นยำ -สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านลดต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย

น่าน 26 ก.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองน่าน ลดลงต่อเนื่อง ส่วนอีกหลายจุดยังอ่วม ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย ย่านการค้าและเศรษฐกิจสำคัญของเมืองน่าน บริเวณถนนสุมณเทวราช ซึ่งเคยน้ำท่วมสูงเกือบถึงคอ แต่ตอนนี้น้ำลดลงเหลือประมาณหน้าขา เท่ากับลดไปราว 1 เมตร แต่บริเวณโดยรอบยังมีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำ ยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของโรงแรงแห่งหนึ่งกลางเมืองน่าน ซึ่งสภาพภายในเต็มไปด้วยคราบโคลน รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ที่จอดไว้เสียหายจำนวนมาก ขณะที่เจ้าของร้านค้าย่านนี้ เริ่มสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือที่โรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมสูงเต็มพื้นที่ 40 ไร่ บางจุดท่วมเกือบมิดหัว ตอนนี้น้ำลดแล้ว แต่ตามอาคารต่างๆ น้ำทะลักท่วมยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ได้รับความเสียหาย แต่ผู้ป่วยใน ราว 3 ร้อยคน ยังปลอดภัย คุณหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาด เพื่อให้โรงพยาบาลกลับมาเปิดบริการตามปกติให้เร็วที่สุด ช่วงสายที่ผ่านมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายใจกลางเขตเศรษฐกิจเมืองน่านด้วย -สำนักข่าวไทย