ภูมิภาค 12 ต.ค.-สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดยังน่าห่วง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน มีน้ำท่วมสูงพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนในหลายพื้นที่ ขณะที่ชาวเมืองมหาสารคาม น้ำชีขึ้นสูงสุดพรุ่งนี้ (13 ต.ค.) ทางการเตือนให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
อ.สบปราบ น้ำท่วมสูงรอบ 3
ที่ อ.สบปราบ จ.ลำปาง หลังจากฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่บ้านทุ่งพัฒนา ถนนทางเข้าหมู่บ้านระหว่างบ้านทุ่งพัฒนา เข้าตัว อ.สบปราบ ถูกตัดขาด ส่วนวัดบ้านทุ่ง โรงรียน รวมถึงบ้านเรือนชาวบ้าน ที่อยู่ติดกับลำห้วยห้วยสมัย ได้รับความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 หลังคาเรือน บางจุดน้ำท่วมสูงถึง 1 เมตร และขณะนี้น้ำก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปริมาณฝนที่ตกต่อเนื่องในพื้นที่ เบื้องต้นกู้ภัยลำปาง จุดสบปราบ และทีมนทีลำปาง ต้องนำเรือท้องแบน นำน้ำดื่มเข้าไปแจกชาวบ้านที่ออกมาไม่ได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ขณะเดียวกันทางเข้าออกหมู่บ้านจุดนี้ ก็ถูกปิดไม่สามารถสัญจรได้ ชาวบ้านทุ่งพัฒนาจึงยังไม่สามารถออกมาได้
จากภาพมุมสูง จะเห็นว่าในหมู่บ้านยังคงมีน้ำท่วมขังเต็มพื้นที่ และท่วมสูงในบางจุด บริเวณใกล้ลำห้วยมีน้ำไหลเชียวเข้าหมู่บ้าน สำหรับความเสียหาย ครั้งนี้ชาวบ้านบอกว่า ถือเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
มวลน้ำชีทะลักท่วมที่นากว่าพันไร่
มวลน้ำจากแม่น้ำชี ที่ไหลมาจากจ.มหาสารคาม ได้เอ่อล้นเข้าท่วมนาข้าวและพื้นที่เกษตร ใน ต.ม่วงลาด อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งประตูระบายน้ำกุดเชียงบัง ยังสามารถกันน้ำไว้ได้ หากน้ำไม่มามากกว่านี้ โดยปริมาณน้ำสองฝั่งของแม่น้ำชี เริ่มล้นตลิ่งแล้ว ส่งผลกระทบต่อพื้นที่สวนไร่นาของชาวบ้าน และจ่อเข้าท่วมหมู่บ้านหนองแค หมู่ 8 ต.ม่วงลาด อ.จังหาร ชาวบ้านต้องเร่งขนย้ายสัตว์เลี้ยง ไปไว้ในพื้นที่สูงเพื่อความปลอดภัย ขณะที่ทหารจากหน่วยพระราชทาน กองบัญชาการกองทัพไทย (จังหวัดสุรินทร์) นำกำลังพล และเรือท้องแบน มาเตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือ หากปริมาณน้ำมามากจนเข้าท่วมหมู่บ้านหนองแค
ฝนถล่มหนัก น้ำป่าล้นท่วมหมู่บ้านกว่า 50 หลัง
ที่ ต.เมือง อ.เมืองเลย จ.เลย น้ำป่าจากลำห้วยน้ำภู ไหลเชี่ยวกรากเข้าท่วมบ้านเรือนที่บ้านน้ำภู สูง 50 ซม.–1 เมตร ชาวบ้านต้องรีบขนย้ายข้าวของหนีน้ำขึ้นที่สูง โดยก่อนเกิดเหตุ มีฝนตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่ช่วงหัวค่ำวานนี้ (11 ต.ค.) ทำให้มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายแล้วอย่างน้อย 50 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่หมู่ 4 บ้านน้ำภู ต.เมือง นอกจากนี้ยังมีนาข้าวข้าวที่กำลังรอการเก็บเกี่ยวและตั้งท้อง ถูกน้ำท่วมเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่นายอำเภอเมืองเลย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และให้การช่วยเหลือชาวบ้านเป็นการด่วน
เตือนชาวเมืองมหาสารคามน้ำชีขึ้นสูงสุดพรุ่งนี้
สถานการณ์น้ำในพื้นที่ ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม ในหลายหมู่บ้านต่างมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ทั้งบ้านท่าประทาย โนนตูม และโขงกุดหวาย โดยเฉพาะโขงกุดหวายได้รับผลกระทบหนักที่สุด ในจำนวน 100 หลังคาเรือนถูกน้ำเข้าท่วมตัวบ้านแล้วราว 50 หลังคาเรือน ถนนกลางหมู่บ้าน ตามตรอกซอกซอยต่างๆ ถูกน้ำท่วมเกือบทั้งหมด โดยระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเช้าวันนี้ บางครอบครัวต้องไปเช่าห้องอยู่ด้านนอก บางส่วนย้ายไปอาศัยกับญาติที่มีบ้าน 2 ชั้น หรืออยู่พื้นที่สูงที่น้ำยังท่วมไม่ถึง สัตว์ใหญ่ถูกอพยพไปอยู่พื้นที่สูงหมดแล้ว เหลือเพียงสัตว์เล็กอย่างไก่ ที่จะอพยพในภายหลังตามสถานการณ์น้ำรายวัน
ผอ.โครงการชลประทานมหาสารคาม ให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ว่า ประเมินจากศูนย์อุทกวิทยา และมวลน้ำที่มาผ่านอำเภอโกสุมพิสัย คาดว่า แม่น้ำชีช่วงผ่านอำเภอเมือง จะขึ้นสูงสุดภายในวันพรุ่งนี้ (13 ต.ค.) โดยจะเพิ่มจากระดับปัจจุบันอีกราว 50–60 เซนติเมตร
ชุมชนวัดสนามไชย-โบราณสถาน ยังท่วมสูง
สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.พระนครศรีอยุธยา หลังเขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนป่าสักลดการระบายน้ำลง บ้านเรือนประชาชน วัดโรงเรียนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ ติดกับแม่น้ำเจ้าพรยา และคลองสาขา ส่วนใหญ่ระดับน้ำเริ่มทรงตัว แต่ในพื้นที่ของ ต.สนามไชย อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งรับมวลน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา และป่าสัก ไหลมารวมกัน ยังประสบปัญหาน้ำล้นตลิ่งท่วมสูง ประกอบกับมีน้ำทะเลหนุน ขึ้นมาอีก 30 เซนติเมตร ยังคงส่งผลกระทบให้กับบ้านเรือน วัดสนามไชย โรงเรียนวัดสนามไชย รวมถึงโบราณสถานเจดีย์วัดสนามไชย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ยังคงถูกน้ำท่วมสูง ทางการต้องนำถุงยังชีพ ขนใส่เรือพายเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนวัดสนามไชย พร้อมทั้งสอบถามความเดือดร้อน เพื่อการช่วยเหลือต่อไป
พายุกระโชกแรง ซัดฝูงช้างหน้าหลวงปู่ทวดล้ม 3 ตัว
ส่วนที่ จ.พังงา เกิดพายุลมกระโชกแรงในพื้นที่เทศบาลเมืองพังงา และมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย บางหลังกระเบื้องหลังคาบ้านปลิวหายไปหลายแผ่น ขณะที่บริเวณลานหลวงปู่ทวด สวนกาญจนาภิเษก เขตเทศบาลเมืองพังงา พบว่ารูปปั้นฝูงช้างจำนวน 12 ตัว ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าองค์หลวงปู่ทวด ถูกลมพายุซัดล้มลงเสียหายจำนวน 3 ตัว.-สำนักข่าวไทย