หนุ่มใหญ่ลมชักกำเริบ พุ่งกระบะชนศูนย์ดูแลโควิด-19

ภูเก็ต 19 ก.ย.- หนุ่มใหญ่โรคลมชักกำเริบขับรถพุ่งชนศูนย์ดูแลโควิด-19 ของชุมชนจังหวัดภูเก็ตมีผู้บาดเจ็บหลายราย 


ร.ต.ท.สิทธิพงศ์ เครือหงส์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ตรับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ดูแลโควิด-19 ชุมชนจังหวัดภูเก็ต (เรือนจำเก่าจังหวัดภูเก็ต) ถ.ดำรง ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองว่า เกิดอุบัติเหตุรถกระบะชนประตูรั้วพังเสียหายแล้วพุ่งเข้ามาบริเวณด้านในอาคารศูนย์ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงไปตรวจสอบความเสียหายและดูอาการผู้บาดเจ็บ 

ที่เกิดเหตุเป็นเรือนจำจังหวัดเก่าที่ปรับปรุงมาเป็นศูนย์โควิด-19 ชุมชน เพื่อเป็นสถานที่กักตัวผู้ป่วย พบรถกระบะ ทะเบียน สุราษฏร์ธานี ด้านหน้ารถชนอัดติดอยู่กับประตูรั้วพังเสียหาย รวมไปถึงประตูรั้วชั้นในได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน และยังไปชนกับด้านหน้ารถเอกซ์เรย์เคลื่อนที่ที่จอดอยู่ด้านในได้รับความเสียหาย โดยมีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย ถูกแรงชนจากรถกระบะนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น ทราบชื่อคือ น.ส.โม วา อายุ 30 ปี สัญชาติเมียนมา ล่ามแปลภาษาที่มาช่วยงานที่ศูนย์ดังกล่าว ขณะเดียวกันมีเจ้าหน้าที่ รพ.วชิระภูเก็ตที่มาประจำศูนย์โควิด-19 ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 รายและเจ็บตามร่างกายอีก 1 ราย หน่วยกู้ชีพนำส่ง รพ.วชิระภูเก็ต โดยเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายอำพล อายุ 51 ปี คนขับรถกระบะคันดังกล่าวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยและอยู่ในอาการมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองภูเก็ต


เจ้าหน้าที่ทหารเรือที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่บริเวณดังกล่าวเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตอนแรกทางเจ้าหน้าที่เปิดประตูให้รถเอกซ์เรย์เข้าไปหลังจากนั้นประมาณ 3 – 5 นาทีต่อมารถกระบะคันดังกล่าววิ่งเข้ามาชนประตูด้านหน้า ลากประตูไปชนประตูด้านใน โดยคนที่บาดเจ็บทั้ง 3 คน ซึ่งคนแรกอยู่ด้านหน้าอีกสองคนยืนอยู่ด้านข้างประตูด้านในทำให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ที่ขับขี่รถคันก่อเหตุทราบว่า ขับรถกระบะคันเกิดเหตุมาตามถนนมนตรี งหน้ากลับบ้านพักที่ชุมชนโกมารภัจน์ ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 1.5 กิโลเมตร และเมื่อขับถึงบริเวณสามแยกเรือนจำ เกิดอาการชักเกร็งจากโรคลมบ้าหมูขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทำให้รถเสียหลักพุ่งเข้ามายังศูนย์โควิด-19 

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนปากคำนายอำพลอย่างละเอียดอีกครั้ง และจะมีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อสรุปหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้


หนุ่มใหญ่จมน้ำแค่ 30 ซม.เสียชีวิต เหตุจากโรคประจำตัว

อีกกรณีหนึ่ง ตำรวจสภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุพบศพคนจมน้ำเสียชีวิตที่คลองวังมะพร้าว ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพอยู่ในลำน้ำหน้าฝายน้ำล้นทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นายวิชิต เทพบรรทม อายุ 58 ปี สภาพศพนอนหงายจมอยู่ในน้ำลึกประมาณ 1 ฟุตเศษ ใบหน้ายังสวมแมสก์ อยู่ในชุดทำสวน สวมรองเท้าบู๊ท ไม่พบบาดแผลใดๆ

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ช่วงเช้ามืดมีชาวบ้านพบเห็นนายวิชิต เดินออกจากกระท่อมที่พักในสวนที่อยู่ติดกับลำคลองไปบนถนนคอนกรีตริมคลองดังกล่าว เพื่อไปทำสวนซึ่งอยู่ห่างจากจุดพบศพประมาณ 500 เมตร ต่อมามีชาวบ้านขี่รถจักรยานยนต์ข้ามสะพานเหลือบไปเห็นร่างนายวิชิต อยู่ในน้ำจึงจอดรถและลงไปพยายามเรียกเพื่อช่วยเหลือ แต่พบว่านายวิชิตเสียชีวิตแล้ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ

ต่อมาแพทย์ชันสูตรได้เข้าชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ สันนิษฐานเบื้องต้นว่า นายวิชิตอาจมีโรคประจำตัว ก่อนเกิดเหตุคาดว่าขณะที่เดินบนสะพานเกิดอาการหน้ามืดหมดสติแล้วพลัดตกลงไปในลำคลองที่มีระดับน้ำเพียง 1 ฟุตแต่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้จึงเป็นเหตุให้จมน้ำเสียชีวิต จากนั้นนำศพไปทำการชันสูตรยังศูนย์นิติเวช รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เพื่อระบุสาเหตุการตายที่ชัดเจนต่อไป.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

เน้นเครื่องจักรหนักเข้าถึงโซน B, C คาดมีผู้ติดค้างจำนวนมาก

ฝนตกหนักช่วงเช้า เพิ่มอุปสรรคค้นหาผู้ประสบภัย และการรื้อซากอาคาร สตง.ถล่ม เจ้าหน้าที่ทุกส่วนต้องหยุดปฏิบัติภารกิจชั่วคราว วันนี้ยังเน้นใช้เครื่องจักรหนักเข้าถึงโซน B และโซน C ที่มีลักษณะคล้ายร่างกายมนุษย์ติดอยู่ในซาก ด้านทีม K9 ประกาศยุติภารกิจค้นหาผู้สูญหาย

K9 หยุดปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม

K9 หยุดปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม เพราะปฏิบัติหน้าที่ครบ 10 วันแล้ว เป็นปกติของการทำงาน หากปฏิบัติภารกิจต่ออาจจะทำให้บาดเจ็บได้ และการกู้ภัยที่เหลือตอนนี้จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรใหญ่เท่านั้น