บิ๊กไบค์ตำรวจชนจยย. ชาวบ้าน ตาย 1 เจ็บหนัก 2

ชลบุรี 12 ก.ย.- ส.ต.อ.ซิ่งบิ๊กไบค์พุ่งชนรถจยย. 2 สามี-ภรรยา ที่เเวะซื้อหมูกระทะกลับไปกินที่บ้าน เหตุการณ์นี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ซึ่งหนึ่งในนี้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 


ภาพจากกล้องวงจรปิดริมถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ฝั่ง สภ.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี เห็นจักรยานยนต์คันหนึ่งวิ่งมาแล้วชะลอเหมือนจะเลี้ยว สักพักมีรถจักรยานยนต์อีกคันพุ่งชนท้ายคันที่ชะลอ ทำให้ต่างฝ่ายต่างบาดเจ็บ และจักรยานยนต์เสียหายทั้ง 2 ฝ่าย 

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่างผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน มี ส.ต.อ.ชนะสาร อนุสน ผบ.หมู่ ป.สภ.ดอนหัวฬ่อ สภาพศีรษะแตกมีอาการทางกระดูกซี่โครง อาการสาหัส นายเนติพงษ์ ธรรมวงศ์ พนักงานบริษัทแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ชลบุรี มีบาดแผลแตกขนาดใหญ่ที่ศีรษะอาการสาหัส และ น.ส.กันดา ไชยแพงศรี ภรรยา นายเนติพงษ์  สภาพศีรษะแตก แขนขวาหัก อาการสาหัส กู้ภัยฯช่วยกันปั๊มหัวใจและปฐมพยาบาลบาดแผลเบื้องต้น แต่ น.ส.กันดา ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ที่ข้างทางพบรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ของ ส.ต.อ.ชนะสาร ล้มอยู่ด้านหน้าพังยับ ห่างไปเล็กน้อยพบรถ จักรยานยนต์อีกคันสภาพด้านท้ายถูกชนพังยับทั้งคัน


สอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์ เผยว่าขณะกำลังนั่งกินหมูกระทะ 2 คนสามี-ภรรยาขี่รถจักรยานยนต์ขี่รถไปซื้อหมูกระทะแล้วกำลังจะกลับบ้าน โดยได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปบนถนนแล้ว หลังจากนั้นได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์เสียงดังมาก เบรกแล้วแต่หยุดไม่หยุด ชนท้ายรถจักรยานยนต์ของ 2 สามี-ภรรยากระเด็น

อีกเหตุการณ์หนึ่งกรณีรถเก๋ง สีดำ ทะเบียนมหาสารคาม ชนกับรถจักรยานยนต์บนถนนเลี่ยงเมืองตัดใหม่ สายกาฬสินธุ์ – มุกดาหาร บริเวณบ้านเหล่าค้อ ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 คนเป็นพ่อ แม่ และลูกวัย 8 เดือนเหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา

ล่าสุดบ่ายวันนี้ (12 ก.ย.) ที่บ้านของนายวิจิตร บิดานายพงษ์นเรศ วงค์ตาผา ผู้เสียชีวิตพร้อมภรรยาและลูก มีญาติพี่น้องเดินทางไปไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายศพ ไปทำการฌาปนกิจตามประเพณี โดยการเผาบนเชิงตะกอนที่วัดประจำหมู่บ้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ส่วนศพของน.ส.ธิดารัตน์ วงจันทร์เรือง และลูกสาววัย 8 เดือน ญาติได้นำศพไปประกอบพิธีที่บ้านเกิดใน ต.นาจำปา อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์


นายวิจิตร วงค์ตาผา บิดานายพงษ์นเรศ ผู้เสียชีวิตกล่าวว่า หลังเกิดเหตุเมื่อคืนนี้ทางฝ่ายคู่กรณีที่เป็นคนขับรถเก๋ง ได้ส่งตัวแทนมาแสดงความเสียใจ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือจัดงานศพเป็นการเบื้องต้นให้จำนวนหนึ่ง ส่วนรายละเอียดอื่นๆ จะพุดคุยกันในลำดับต่อไป ซึ่งคงจะเป็นหลังจากจัดงานฌาปนกิจศพลูกชาย รวมทั้งลูกสะใภ้และหลานสาวเสร็จเรียบร้อยก่อน 

ด้านนายสมพร ภารสำราญ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 บ้านแกเปะ กล่าวว่าจุดที่เกิดอุบัติเหตุถือเป็นจุดเสี่ยงอันตราย เนื่องจากเป็นถนนเลี่ยงเมือง รถวิ่งระหว่างจังหวัดตลอดทั้งวันและส่วนมากใช้ความเร็วสูง ที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ซึ่งครั้งนี้นับว่าว่ารุนแรงที่สุด เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตพร้อมกันทั้ง 3 ศพ จึงอยากจะฝากเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนที่ใช้เส้นทางนี้ โดยเฉพาะชาวบ้านที่ขับขี่ผ่านจุดยูเทิร์น หรือข้ามตามจุดต่างๆ ได้เพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น ขณะเดียวกันจะได้ปรึกษาคณะสงฆ์และชาวบ้านในการจัดตั้งศาลพระภูมิหรือศาลเพียงตา เป็นการขอขมาและบอกกล่าวเจ้าที่เพื่อให้ความปลอดภัยกับผู้เดินทาง

ขณะที่ร.ต.อ.ภาคภูมิ ภูสมนึก รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เจ้าของคดีกล่าวว่าขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหากับใคร เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งยังรอการสอบปากคำนายสุธี อายุ 66 ปี เจ้าของรถเก๋ง ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล คาดว่าจะนัดสอบปากคำได้ในวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่ามีร่องรอยการเฉี่ยวชนที่เลนขวา สภาพรถทั้งสองคันพังเสียหาย โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องสอบพยานแวดล้อมต่างๆ และผู้เห็นเหตุการณ์อย่างละเอียด ซึ่งจะต้องดำเนินการไปตามพยานหลักฐานและต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]