พิษณุโลก 2 ก.ย. – อัยการภาค 6 เดินทางเข้าสอบสวน “อดีตผู้กำกับโจ้” ในเรือนจำกลางพิษณุโลกอีกครั้ง เพื่อความโปร่งใสในการทำคดี
วันนี้ เวลา 10.00 น. นายสมพงษ์ เย็นแก้ว รองอธิบดีอัยการภาค 6 พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชน อินพิทักษ์ เลขานุการอัยการภาค 6, ตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ตำรวจกองปราบ และฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เดินทางเข้าสอบปากคำ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ ที่เรือนจำกลางพิษณุโลก ซึ่งเป็นการสอบสวนประกอบสำนวนใหม่เพื่อความโปร่งใส เพื่อทำให้กระบวนการสอบสวนให้ชอบธรรมตามกฎหมาย รวมถึงมีการถ่วงดุล ซึ่งในร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการสอบสวนฯ นั้นกำหนดประเด็นการตรวจสอบใหม่ คือ ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตรวจสอบให้รอบด้าน รวมถึงให้พนักงานอัยการเข้ามาร่วมการสอบสวนเพื่อให้เกิดความโปร่งใส
ทั้งนี้ หลังจากเข้าไปทำการสอบสวน “อดีตผู้กำกับโจ้” ในเรือนจำกลางแล้ว รองอธิบดีอัยการภาค 6 จะออกมาแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนอีกครั้ง
ส่วนความเคลื่อนไหวที่จังหวัดนครสวรรค์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีได้เข้าตรวจสอบบ้านพักของตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด หรือ “ชุด 05” ของอดีตผู้กำกับโจ้ หลังจากที่เมื่อวานเข้าตรวจค้นคอนโดมิเนียมของอดีตผู้กำกับโจ้ในตัวเมืองนครสวรรค์
รอง ผบ.ตร.ชี้แจง กมธ. คดี “อดีตผู้กำกับโจ้”
ขณะที่เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการการกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐเป็นประธาน ได้เชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาชี้แจงคดีอดีตผู้กำกับโจ้ หลังมีกระแสข่าวว่าคดีดังกล่าวอาจเป็นไปโดยมิชอบ โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมอบหมายให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาชี้แจงแทน
นอกจากนี้ยังมี นพ.ชนินทร์ จารุวัฒนมงคล ผอ.โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์, นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ ที่รับมอบอำนาจจากนายษิทรา เบี้ยบังเกิด และอัยการมาร่วมชี้แจง
นายสิระ เปิดเผยก่อนการประชุมว่าอนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปร่วมฟัง และไลฟ์ได้ เพราะอยากให้เห็นว่าทุกขั้นตอนมีความโปร่งใส ส่วนกรณีอดีตผู้กำกับโจ้อ้างว่ามีโรคบางอย่างที่อาจทำให้ความผิดลดน้อยลงหรือไม่ เบื้องต้นจะพูดคุยกันก่อน
จากนั้นเมื่อเริ่มการประชุมนายสิระ ได้ถามทางตำรวจว่าคดีดังกล่าวมีการช่วยเหลือผู้ต้องหาในระหว่างดำเนินการจับกุมหรือไม่
ด้าน พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ให้เจ้าหน้าที่ระดับผู้บังคับบัญชา เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนคดีนี้เพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรม และตนก็ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ พบว่าการกระทำของอดีต ผกก.โจ้ มีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่ากระทำผิดจริง 3 ข้อหาด้วยกัน และหากผลการสอบมีการกระทำผิดเพิ่มก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป ยืนยันไม่ได้มีการช่วยเหลือผู้กระทำผิด
จากนั้น พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบช.ภาค 6 กล่าวว่า ก่อนหน้านี่เคยเจอกับ ผกก.โจ้มาก่อนบ้าง ยอมรับว่ารู้จักแต่ไม่ได้สนิท ขณะที่คืนวันก่อนที่ ผกก.โจ้ จะมอบตัว ได้มีโทรศัพท์มาตอน 5 ทุ่ม ซึ่งตอนนั้นจับผู้กระทำผิดไปแล้ว 4 เหลืออีก 3 ราย หนึ่งในนั้นคือ ผกก.โจ้ จากนั้นมีการนัดเรื่องมอบตัว ตนได้ขอชุดพิเศษเอารถไป 4 คัน ตามในคลิป
ที่ประชุมยังได้ซักถามในประเด็นต่างๆ อีกหลายประเด็น เช่น เรื่องการซ้อมผู้ต้องหาด้วยการเอาถุงดำมาครอบหัวจนถึงแก่ความตาย คดีความเรื่องยาเสพติดของผู้ต้องหาที่เสียชีวิต การจัดแถลงข่าวการจับกุม ผกก.โจ้ รวมไปถึงกรณีใบรับรองสาเหตุการตายใบแรกที่ระบุว่าสาเหตุการตายของผู้ตายมาจากสารเสพติด เป็นต้น
ทั้งนี้ บรรยากาศในห้องประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย การซักถามและการชี้แจงไม่ได้มีการโต้เถียงกันแต่อย่างใด. – สำนักข่าวไทย