กาฬสินธุ์ 17 มี.ค.- เกิดเรื่องเศร้าเมื่อโรงเรียนจัดกิจกรรมเข้าค่ายฝึกลูกเสือสุดโหด บังคับนักเรียนชั้น ม.3 เข้าฐานมุดน้ำ แล้วหายตัวไปก่อนพบเป็นศพจมน้ำดับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.00 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา ร.ต.อ.อัศวิน หงส์โยธี ร้อยเวรสภ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ รับแจ้งมีเหตุนักเรียนหายตัวไประหว่างทำกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ คาดว่าน่าจะจมน้ำบริเวณหนองน้ำหลังวัดบ้านนาค้อ ต.กุดโดน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ หลังรับแจ้งจึงประสานหน่วยกู้ภัยลงพื้นที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านมุงดูเหตุการณ์จำนวนมากหน่วยกู้ภัยนำทีมประดาน้ำค้นหาในหนองน้ำที่ลึกประมาณ 3 เมตร ค้นหากว่า 4 ชั่วโมง จึงพบร่างของเด็กชายทองนพเก้า สีทา หรือน้องปอน อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนบ้านนาค้อ เสียชีวิตในสภาพใส่ชุดลูกเสือ
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุโรงเรียนได้จัดกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ กระทั่งเวลาประมาณ 14.00 น. เด็กชายทองนพเก้าได้หายตัวไปในระหว่างที่เข้าฐานทางน้ำหรือฐานหนีสงครามของทางโรงเรียนจัดไว้ จนเวลาเลิกเรียนยังไม่เห็นกลับบ้าน ผู้ปกครองจึงเข้าแจ้งความกับตำรวจและขอความช่วยเหลือเพื่อนบ้านและหน่วยกู้ภัยช่วยกันออกตามหากระทั่งมาพบว่าจมน้ำเสียชีวิตบริเวณดังกล่าว
จากการสอบถามเพื่อนเด็กชายทองนพเก้า ทราบว่าโรงเรียนได้จัดกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือแล้วพานักเรียนทำกิจกรรมเข้าฐาน โดยครูบังคับและฝึกนักเรียนทุกคนลงมุดน้ำหนองน้ำหลังวัดบ้านนาค้อ ใกล้เคียงกับโรงเรียน อ้างว่าฐานนี้เป็นฐานหนีสงคราม นักเรียนทุกคนที่เป็นลูกเสือต้องมุดน้ำที่มีความลึกกว่า 3 เมตรแล้วโยนก้อนหินสมมติเป็นระเบิดซึ่งไม่มีอุปกรณ์เตรียมไว้ช่วยเหลือ สำหรับเด็กชายทองนพเก้านั้นไม่อยากลงไปในน้ำ เนื่องจากว่ายน้ำไม่เป็น และพยามหลบเลี่ยงไม่เข้าทำกิจกรรมฐานนี้ ขณะเกิดเหตุคาดว่าครูน่าจะให้ลงไปฝึกมุดน้ำเหมือนคนอื่นๆ แต่ไม่มีใครเห็น จึงจมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว
ล่าสุดวันนี้เวลา 10.00 น. ร.ต.อ.อัศวิน หงษ์โยธี พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยเม็ก เจ้าของคดีได้เรียกกลุ่มเพื่อนนักเรียนของ ด.ช.ทองนพเก้า พร้อมด้วย พ่อและแม่ของด.ช.ทองนพเก้า เข้ามาสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องต้น รวมทั้งผู้บริหารและคณะครูของเรียนมาสอบปากคำเพื่อสาเหตุการเสียชีวิต โดยส่วนใหญ่เพื่อนของผู้เสียชีวิตระบุว่าการเข้าร่วมกิจกรรมค่ายลูกเสือ ทุกคนจะถูกสั่งให้เข้าฐานหนีสงครามหลบระเบิดมุดน้ำ โดยที่ไม่มีอุปกรณ์ป้องกันและช่วยเหลือจมน้ำ เช่น เสื้อชูชีพ หรือห่วงยาง รวมทั้งไม่มีการกั้นแนวเขตน้ำตื้นและน้ำลึก ส่วนทางด้านผู้อำนวยการและคณะครู เบื้องต้นยังไม่พร้อมที่จะให้ปากคำ เนื่องจากอยู่ในอาการเสียใจและช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่นายสุรเชษฐ์ พละเอ็น ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและเข้าตรวจสอบบริเวณหนองน้ำจุดเกิดเหตุ พร้อมเตรียมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง
ด้านนายสุนทรา กุลาสา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านนาค้อวิทยาคมกล่าวว่า วันเกิดเหตุทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ โดยใช้สถานที่สาธารณะหมู่บ้าน เป็นสถานที่ที่ใช้ในการจัดกิจกรรมค่ายลูกเสือทุกปีในการจัดกิจกรรมได้ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มกัน กลุ่มละ 13-15 คน เข้าร่วมกิจกรรมฐานต่างๆรวม 6 ฐาน ซึ่งฐานที่เกิดเหตุเด็กนักเรียนจมน้ำนั้นเป็นฐานที่ 6 ฐานสุดท้าย ได้ให้นักเรียนลงไปในน้ำ เพื่อล้างเนื้อล้างตัว ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุทางคณะครูได้มีการเฝ้าระวังและเช็คจำนวนนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมทุกฐาน ส่วนกรณี ด.ช.ทองนพเก้าจมน้ำเสียชีวิตนั้นคาดว่าไม่มีใครสังเกตเห็น เนื่องจากก่อนเกิดเหตุมีเด็กนักเรียนคนหนึ่งไม่ได้มาร่วมกิจกรรมในช่วงเช้า แต่กลับมาเข้าร่วมในช่วงบ่าย ซึ่งทางคณะครูผู้ควบคุมได้เช็กจำนวนนักเรียน หลังจากทุกคนขึ้นมาจากหนองน้ำก็พบว่าครบ จึงไม่ได้เอะใจกระทั่งมาทราบทีหลังว่าหายตัวไปและจมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งทางโรงเรียนและคณะครูก็รู้สึกเสียใจอย่างมากพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ และยืนยันว่าฐานค่ายลูกเสือที่ลงไปในน้ำไม่ได้บังคับให้ลงไปทุกคน.-สำนักข่าวไทย