ชลบุรี 24 ม.ค.- ไล่ระทึก! เรือประมงเล็ก คราดลูกหอยแครง หลายสิบลำ พร้อมลูกเรือกว่า 100 คน ขัดขวางการตรวจค้นจับกุม ปิดล้อม พุ่งชนเรือเจ้าหน้าที่เสียหาย บาดเจ็บ 3 คน
เรื่องนี้ได้ถูกเปิดเผย เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2564 เจ้าหน้าที่กรมประมง ได้รับการร้องเรียนว่า มีเรือประมงจำนวนมาก เข้าทำประมงผิดกฎหมาย บริเวณปากน้ำบางปะกง เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปราม กองตรวจประมง จว.ชลบุรี และสมุทรปราการ ได้สนธิกำลัง เรือตรวจประมง จำนวน 3 ลำ พร้อมเรือยางตรวจการณ์ เข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว บริเวณร่องน้ำบางปะมงด้าน จว.ชลบุรี พบเรือประมงคาดลูกหอยแคลง ประมาณ 20 ลำ กำลังทำการประมงบริเวณเขตทะเลชายฝั่ง จึงแสดงตนให้เรือหยุดทำการประมง ปรากฏว่าเรือประมงขัดขืน ไม่ยอมหยุด ได้ขับเรือพุ่งชนเรือเจ้าหน้าที่อย่างรุนแรง ทำให้เรือตรวจประมง หมายเลข 106 ได้รับความเสียหาย น้ำรั่วเข้าภายในตัวเรือ และมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย จึงล่าถอยออกจากพื้นที่ พร้อมไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.เมืองชลบุรี
ต่อมา ศูนย์ประสานการปฎิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 1 (ศรชล.ภาค 1) อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้ส่งเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง หมายเลข 268 พร้อมเจ้าหน้าที่ ศรชล.จว.ชลบุรี และ จว.ฉะเชิงเทรา เข้าร่วมการปฏิบัติกับกองตรวจการประมง เรือป้องกัน และปราบปรามประมง จว.สมุทรปราการ และ จว.ระยอง จำนวน 3 ลำ พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้พบกลุ่มเรือประมงดังกล่าว ประมาณ 40-50 ลำ ขับไล่ และล้อมเรือเจ้าหน้าที่ ในที่สุดกลุ่มเรือประมงได้เข้ามาขอเจรจาเพื่อขอประมง แต่เจ้าหน้าที่ขอให้หยุดทำการประมงในลักษณะผิดกฎหมาย ทำให้การเจรจาไม่เป็นผลสำเร็จ จึงทำการนัดหมายกับตัวแทนกลุ่มผู้ทำการประมงผิดกฎหมายเหล่านี้ มาทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่ สนง.ประมง จว.ชลบุรี ในวันจันทร์ ที่ 25 มกราคม 2564 เวลาประมาณ 09.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับกลุ่มเรือประมงได้เดินทางมาจากหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจาก ปากน้ำ จว.สมุทรปราการ, มหาชัย จว.สมุทรสาคร ,คลองตำหรุ จว.ชลบุรี, แสมขาว จว.ฉะเชิงเทรา, และคลองโคลน จว.สมุทรสงคราม เรือทั้งหมดนี้ทำการประมงด้วยเครื่องมือผิดกฎหมาย โดยใช้เครื่องมือ คราดลูกหอยแครง , อวนรุน, ลอบพับ โดยมีพฤติกรรมย้ายพื้นที่ทำการประมง บริเวณปากแม่น้ำของอ่าวไทยตอนบน ครอบคลุมพื้นที่ จ.ชลบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม สร้างความเดือดร้อนให้กับประมงพื้นบ้าน และประมงชายฝั่งอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย