เลย 31 ธ.ค.-แม่พาลูกสาว วัย 11 ปี ร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเลย หลังถูกภารโรงอายุ 53 ปี โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ปากชม ลวนลาม ล่วงละเมิดทางเพศ และยังถูกข่มขู่เอาชีวิต
นางเดือน(นามสมมุติ) นำ ด.ญ.ดาว (นามสมมุติ) อายุ 11 ปี พร้อมด้วยญาติ เดินทางมาร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเลย หลังถูกภารโรงอายุ 53 ปี โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอปากชมลวนลาม ล่วงละเมิดทางเพศ และยังถูกข่มขู่เอาชีวิต
นางเดือนเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 และ 21 ตุลาคม 2563 ตนเห็นว่าลูกสาวนำเงินมาฝากพี่สาวไว้ 2 ครั้ง ครั้งละ 340 บาท ตนก็ถามลูกจนได้คำตอบว่า ภารโรงที่โรงเรียนเอาให้ เมื่อถามต่อว่าเหตุผลใดที่ให้เงิน ลูกสาวเล่าว่าถูกภารโรงพาเข้าไปห้องพยาบาลแล้วทำอนาจาร แล้วให้เงิน พร้อมกำชับว่าไม่ให้บอกใคร ถ้าบอกจะฆ่าให้หมด หลังจากได้ทราบเรื่องจากลูกแล้ว ตนก็ยังไม่เชื่อ จึงพาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ก็พบว่าถูกกระทำเช่นนั้นจริง แล้วก็ไปแจ้งความกับตำรวจให้ดำเนินคดีกับภารโรงรายนี้ ตนรู้สึกสงสารลูกมาก นอนทุกคืนก็ยังมีอาการผวา หลังเกิดเหตุ ผู้อำนวยการโรงเรียนก็สั่งพักงานภารโรงรายนี้ทันที
นางเดือนเล่าอีกว่า หลังจากที่ตำรวจรับแจ้งความ ก็นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขัง และได้รับการประกันออกมา ตนก็ถูกข่มขู่ เรื่อยมา ทั้งจากตัวผู้ต้องหาเองและญาติของเขา ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กัน ตนอยู่บ้านกับลูกสาวเพียงสองคน รู้สึกหวาดกลัวมาก เวลาไปกรีดยางต้องให้พ่อหรือแม่ไปด้วย รู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนนับถือภารโรงคนนี้เหมือนญาติผู้ใหญ่ ไม่คิดว่าจะมาทำกับเด็กแบบนี้ ตนกลัวจะได้รับอันตราย จึงมาขอความช่วยเหลือจากศูนย์ดำรงธรรม
ด้าน ด.ญ.ดาว ผู้เสียหายเล่าว่า ในวันเกิดเหตุครั้งแรก เป็นช่วงเช้า ที่ห้องพยาบาล ตนกลัวมาก เพราะเขาขู่ว่าจะฆ่าให้หมด ถ้านำเรื่องไปบอกตำรวจ ทั้งนี้ ระหว่างการร้องเรียน นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้ลงมาพบกับผู้เสียหายและครอบครัว หลังทราบเรื่องได้โทรศัทพ์ถึงผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเชียงกลมทันที ให้เร่งรัดดำเนินคดีกับภารโรงรายนี้ และส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลความปลอดภัยของผู้เสียหายด้วย.-สำนักข่าวไทย