ชายเมาขับรถขวางรถพยาบาล สุดท้ายผู้ป่วยเสียชีวิต

สมุทรปราการ 22 ธ.ค.-ชายเมาแล้วซ่า ขับรถปาดหน้ารถพยาบาลที่กำลังไปรับผู้ป่วย โบกให้จอด หาว่าเปิดสัญญาณฉุกเฉินแต่ไม่มีคนป่วย จนเจ้าหน้าที่ต้องบอกให้ขับตามไปดูว่าไปรับผู้ป่วยจริง แต่สุดท้ายผู้ป่วยเสียชีวิตหลังถึงโรงพยาบาลไม่กี่นาที


เหตุเกิดประมาณ 23.00 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา (21 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลสมุทรปราการ บันทึกด้วยโทรศัพท์มือถือไว้ ขณะขับอยู่บนถนนสุขุมวิท ใกล้กับทางเข้าฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ ก็มีรถโตโยต้า อัลติส สีขาว ขับปาดไปมาและโบกให้รถพยาบาลจอด เมื่อรถพยาบาลจอด ชายที่ขับรถเก๋งสีขาวได้ลงมาต่อว่าเจ้าหน้าที่ที่อยู่บนรถพยาบาลว่าเปิดสัญญาณฉุกเฉินวิ่งทำไม มีคนเจ็บอยู่บนรถจริงไหม และพยายามที่จะเปิดท้ายรถพยาบาล จนเจ้าหน้าที่ที่อยู่บนรถต้องบอกให้ชายคนดังกล่าวขับตามไปดู เพื่อจะได้รู้ว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอยู่จริงหรือไม่ แล้วชายคนดังกล่าวก็ขับรถตามไปด้วยจริงๆ

เมื่อรถพยาบาลวิ่งเข้าไปในซอยวิทยุการบิน ไปถึงบ้านผู้ป่วยที่มีเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการพยายามปั๊มหัวช่วยชีวิตผู้ป่วยอยู่ เจ้าหน้าที่ได้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที และที่น่าเสียใจ คือ ผู้ป่วยรายนี้ได้เสียชีวิตลงหลังจากถึงโรงพยาบาลได้ไม่กี่นาที


ส่วนชายคนที่ขับรถเก๋งสีขาวนี้ เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่อยู่เยอะ จึงขับรถกลับเข้าบ้านตัวเอง ซึ่งเป็นซอยเดียวกับบ้านผู้ป่วย ทางอาสาสะกดรอยตามไปที่บ้านของชายคนดังกล่าว ก่อนโทรเรียกตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ให้มาช่วยควบคุมตัว นอกจากนี้ ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปถึงบ้าน ยังพบว่าชายคนนี้ได้โทรศัพท์ไปที่เบอร์สายด่วน 1669 ที่ใช้สำหรับเหตุที่มีเหตุผู้ป่วยป่วยฉุกเฉิน อ้างว่าจะร้องเรียนรถพยาบาลขับช้าแต่เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน และพูดจาวกวน วนไปวนมา

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวชายคนดังกล่าวไปสอบสวนต่อที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ซึ่งมีอาการคล้ายเมาสุรา และเป่าปริมาณแอลกอฮอล์ได้ 190 มิลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และตั้งข้อหาขับรถยนต์ขณะเมาสุรา และต่อมาทางเจ้าหน้าที่พยาบาลของโรงพยาบาลสมุทรปราการ ได้เดินทางมาแจ้งความข้อหาพยายามขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของรถพยาบาล เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังมีญาติของผู้เสียชีวิตเข้าแจ้งความด้วย ขณะที่เจ้าตัว ไหว้ขอโทษ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง