บุกจับคนร้ายยิงอริดับอ้างรุมโทรมเมีย

สงขลา 27 ต.ค.-ตำรวจสงขลา บุกจับคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนยิงคู่อริ 6 นัดเสียชีวิต อ้างผู้ตายรุมโทรมภรรยา แต่พบประวัติติดยาเสพติดจนเริ่มหลอนและหึงหวงภรรยา เคยติดคุกมา 3 ปี คดีครอบครองอาวุธปืนสงคราม

เมื่อเวลา 14.30น. เมื่อวานนี้ (26ต.ค.) พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผู้บังคับสืบสวนตำรวจภูธรภาค9 พร้อมกำลังชุดสืบสวนภาค 9 ชุดสืบสวนภูธร จ.สงขลา และชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ และชุดสืบสวน สภ.นาโยง บุกจับกุม นายศุทธวีร์ ทิพย์ชื่น อายุ 28 ปี ชาวอ.กงหรา จ.พัทลุง ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืน 11 มม.กระหน่ำยิง นายอาคม นาเลื่อน อายุ 51 ปี จำนวน 6 นัด ขณะขี่รถจักรยานยนต์ไปกรีดยาง เหตุเกิดช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่หมู่ 11 ต.โคกสะบ้า อ.นาโยง จ.ตรัง และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล


หลังก่อเหตุ นายศุทธวีร์ ได้ขับรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีดำ ทะเบียน ขษ 6351 สงขลา หนีไปกบดานที่บ้านเพื่อนใน อ.หาดใหญ่ และถูกเจ้าหน้าที่ตามแกะรอยและจับกุมตัวได้บริเวณถนนคลองเรียน 1 ย่านโรงพยาบาลกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ ขณะที่ขับรถออกมากินข้าว และกำลังเดินไปขึ้นรถเก๋ง โดยจับกุมได้พร้อมอาวุธปืน 11มม. ที่ใช้ก่อเหตุ พร้อมกระสุนในรังเพลิง 1 นัด แมกกาซีน 7 นัด และในกระเป๋า 12 นัด รวม 20 นัด

นายศุทธวีร์ อ้างว่าสาเหตุที่ยิง นายอาคม เนื่องจาก นายอาคม รุมโทรมภรรยาของตนเองอย่างทารุณ ด้วยความโกรธแค้นจึงได้ใช้อาวุธปืนไปดักยิง และขับรถเก๋งของภรรยาหลบหนีมาเรื่อยๆ จนมาถึง อ.หาดใหญ่


ด้าน พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผู้บังคับการสืบสวนภาค9 เปิดเผยว่า สาเหตุทางผู้ต้องหาอ้างว่า มาจากความโกรธแค้นเรื่องชู้สาวที่ผู้ตายไปมีสัมพันธ์กับภรรยาผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นเพียงคำให้การของผู้ต้องหาเท่านั้น เนื่องจากในทางการสืบสวนพบว่า นายศุทธวีร์ มีพฤติกรรมเสพยาเสพติดอย่างหนักจนเริ่มมีอาการหลอนยา และหึงหวงภรรยาซึ่งเคยทำงานโรงแรม นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติพบว่า เคยถูกจับกุมและต้องโทษ 3 ปี ในข้อหามีอาวุธปืนสงครามไว้ในครอบครอง ในพื้นที่ สภ.กงหรา จ.พัทลุง และเพิ่งพ้นโทษมาได้ปีกว่าๆ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง