กระบี่ 30 ก.ย.-เหตุสุนัข 2 ตัว วิ่งไล่หนุ่มคนหนึ่งไปกลางถนน จนถูก จยย.พุ่งชน บาดเจ็บ 2 ราย ล่าสุดพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ยืนยันเจ้าของสุนัขรับผิดชอบ อยู่ระหว่างนัดเจรจาตกลงค่าเสียหาย
จากกรณีปรากฏคลิปในโลกโซเชียลมีสุนัข 2 ตัว ออกมาจากโชว์รูมรถยนต์แห่งหนึ่งในตัวเมืองกระบี่ วิ่งไล่ชายวัยรุ่นตกใจจนวิ่งหนีออกไปบนถนน ก่อนถูกรถจักรยานยนต์ชน ทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย ก่อนเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะนำคนเจ็บส่ง รพ.กระบี่ เหตุเกิดบนถนนอุตรกิจ ในเขตเทศบาลเมืองกระบี่ เมื่อเวลา 22.00 น. คืนวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยผู้บาดเจ็บ 2 ราย อาการวันเกิดเหตุนั้นค่อนข้างสาหัส โดยนายอนุวัฒน์ สัมพันธ์ อายุ 45 ปี คนขี่รถจักรยานยนต์ ศีรษะกระแทกพื้นมีเลือดไหลออกทางจมูก ส่วนคนเจ็บที่วิ่งหนีสุนัข ทราบชื่อ คือ นายเอกพงศ์ บ้านนบ อายุ 22 ปี เป็นทหารเกณฑ์ บ้านอยู่ อ.อ่าวลึก ได้รับบาดเจ็บที่ขาขวา แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วทั้งคู่ ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนานา ว่ายังไม่มีผู้ใดออกมารับผิดชอบ กรณีสุนัขออกมาไล่กัดจนเป็นเหตุให้ถูกรถชนบาดเจ็บ
โดยนายเอกพงศ์ คนที่ถูกรถชนเล่าว่าวันเกิดเหตุตนนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มากับเพื่อน มาถึงจุดเกิดเหตุรถจักรยานยนต์มีอาการคล้ายกับยางรั่ว จึงจอดรถเพื่อลงมาดู ระหว่างนั้นสุนัขตามในคลิปทั้ง 2 ตัว วิ่งไล่ตนออกมาจากรั้วของหน้าบริษัทจำหน่ายรถยนต์ดังกล่าว ตนตกใจจึงพยายามวิ่งหนี โดยไม่ได้ดูว่าวิ่งออกไปบนถนน เพราะตามัวแต่มองสุนัขทั้ง 2 ตัว กระทั่งมาโดนรถชนดังกล่าว จากนั้นก็ไม่ได้สติอีกเลย
ขณะที่นายอนุวัฒน์คนขับจักรยานยนต์ชน เล่าว่าก่อนเกิดเหตุตนกำลังขี่รถจะกลับบ้าน ระหว่างทางมาเจอชายคนดังกล่าววิ่งออกมาบนถนนในระยะกระชั้นชิด จึงชนเข้าอย่างจัง จากนั้นตนล้มลงศีรษะกระแทกพื้นสลบไป มารู้อีกทีว่าต้นเหตุเกิดจากสุนัขไล่ชายคนดังกล่าวออกมา ขณะนี้ต้องหยุดงานรักษาอาการบาดเจ็บ เสียค่ารักษาไปประมาณ 20,000 บาท
ขณะที่ ร.ต.อ.วิโชติ มีภาพ รองสว.สอบสวน เจ้าของคดี เปิดเผยว่าตามที่ปรากฏข่าวว่าไม่มีผู้รับผิดชอบนั้นไม่เป็นความจริง ทั้งนี้วันรุ่งขึ้นหลังเกิดเหตุตนได้ประสานไปยังผู้จัดการโชว์รูมรถยนต์ที่มีสุนัข 2 ตัว ออกมาไล่กัดตามในคลิปดังกล่าวแล้ว รวมทั้งประสานผู้เสียหายทั้งสองราย โดยเบื้องต้นทาง ผจก.บริษัทรถยนต์ ยอมรับว่าเป็นสุนัขที่อยู่ในโชว์รูมและยอมชดใช้ค่าเสียหาย แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างรอให้ผู้บาดเจ็บอาการดีขึ้น จะนัดวันเจรจาตกลงค่าเสียหายอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย