รวบแล้ว 2 โจ๋ร่วมแก๊งปล้นเงินพระในวัด

พระนครศรีอยุธยา 23 ก.ย.-รวบแล้ว 2 วัยรุ่นบุกปล้นพระในวัด ทั้งคู่รับสารภาพ แต่ข้อมูลยังไม่ตรงกับคำให้การของผู้เสียหายที่บอกว่าคนร้ายได้เงินไป 1.3 แสนบาท แต่คนร้ายอ้างได้เงินไป 1 หมื่นบาท

รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงพื้นที่เร่งรัดคดีคนร้ายบุกปล้นพระได้เงินไปกว่า 130,000 บาท ล่าสุดชุดสืบสวนคุมตัวผู้ต้องสงสัย 2 คนมาสอบปากคำ และทั้งคู่รับสารภาพแล้ว แต่ข้อมูลยังไม่ตรงกับคำให้การของผู้เสียหาย


พลตำรวจตรีธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เดินทางไปที่ สภ.บางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อประชุมเร่งรัดติดตามคดีที่มีคนร้าย 4 คน เข้าไปปล้นทรัพย์พระเกียรติคุณ ชีพพานิช เมื่อวันที่ 21 กันยายน ภายในวัดดอกไม้ ตำบลหันสัง อำเภอบางปะหัน ได้เงินไปกว่า 130,000 บาท เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์และผู้ก่อเหตุไม่เกรงกลัวกฎหมาย พร้อมกันนี้ได้เน้นย้ำตำรวจทุกโรงพักให้เพิ่มสายตรวจตู้เหลืองเพิ่มความถี่สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนและพระ

ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คุมตัวเยาวชนชาย 2 คนอายุ 17 ปี ชาวอยุธยา ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยในคดี พร้อมรถจักรยานยนต์ 2 คัน เงินสดจำนวนหนึ่ง และเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุมาสอบปากคำอย่างละเอียด


ผู้ต้องสงสัย อ้างว่าได้ร่วมกับเพื่อนเยาวชนอายุ 17 ปี รวม 4 คนชักชวนไปปล้นเงินพระที่วัดดอกไม้ โดยใช้รถจักรยานยนต์ 2 คัน ทั้งหมดสวมหมวกไหมพรมและหมวกกันน็อก ใช้ปืนปลอมกับมีดบุกเข้าไปในวัด จากนั้นได้เคาะหน้าต่างกุฏิพระผู้เสียหาย และเมื่อพระเปิดประตูออกมา จึงช่วยกันจับดันตัวเข้าไปในกุฏิ ก่อนขู่บังคับให้ส่งเงิน 5,000 บาทมา แต่พระผู้เสียหายล้วงเอาเงินออกมาจากอังสะ 10,000 บาท และระหว่างนั้นมีพระอีกรูปออกมาจากกุฏิ จึงหลบหนีออกไปจากวัด ก่อนแบ่งเงินกันคนละ 2,500 บาทแยกย้ายกันไป

อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนจะสอบปากคำพยานและผู้ต้องหาอย่างละเอียดอีกครั้ง เพราะจำนวนเงินที่คนร้ายได้ไปยังไม่ตรงกับคำให้การของพระผู้เสียหาย คือ จำนวน 130,000 บาท นอกจากนี้มีรายงานว่า เยาวชนรายที่ 3 กำลังประสานเข้ามอบตัวแต่ยังไม่ทราบเวลาที่แน่ชัด ส่วนรายที่ 4 ยังไม่ได้ประสานมา แต่ตำรวจทราบแล้วว่าเป็นใคร.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง