อุบลราชธานี 7 ก.ย. – คดี ตชด.หนุ่มอุบลฯ มีเรื่องทะเลาะกับกลุ่มวัยรุ่น พิสูจน์หลักฐานตรวจหาวิถีกระสุนเพิ่ม หลังพบปืนต้องสงสัยขนาด .45 ไม่ทราบเจ้าของ ด้าน ตชด.หนุ่มยอมรับยิงใส่คู่กรณีจริงแต่ไม่เจตนา หลังให้การใช้หลักทรัพย์ประกันตัวสู้คดี
ความคืบหน้าคดี ตชด.หนุ่มที่อุบลราชธานีพาสาวเที่ยว เกิดมีเรื่องกับกลุ่มวัยรุ่น เริ่มจากในร้านมาจบที่ลานจอดรถ ชักปืนยิงตาย 1 คน เจ็บ 2 คน นำปืนไปทิ้งก่อนย้อนเข้ามอบตัวนั้น
วันนี้ พ.ต.อ.ภัทรพล โพธิอะ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดอุบลราชธานี และนางสาวอภิญญา โพธิ์ชัย อายุ 23 ปี แฟนสาวนของนายอธิป แจ้งสว่าง อายุ 27 ปี เหยื่อกระสุนปืน ส.ต.ท.พุฒิสรรค์ จำปี อายุ 26 ปี ตำรวจตระเวนชายแดน สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 22 จ.อุบลราชธานี ร่วมกันตรวจสอบแนววิถีกระสุนบนรถยนต์รถกระบะโตโยต้าสีขาว ของ ส.ต.ท.พุฒิสรรค์ และอีซูซุสีดำ ของนายอธิป เหยื่อกระสุนปืน
ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้นำ ส.ต.ท.พุฒิสรรค์ ไปชี้จุดเกิดเหตุ พบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. เพิ่มอีก 1 ปลอก รวมเป็น 3 ปลอก ปลอกกระสุนขนาด .45 จำนวน 6 ปลอก ก่อนจะนำตัวมาสอบปากคำนานกว่า 6 ชั่วโมง และให้ใช้หลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินประกันตัวออกไป จากการสอบสวน ส.ต.ท.พุฒิสรรค์ ให้การยอมรับว่าเป็นผู้ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงเข้าไปในกลุ่มของผู้ตายจริง แต่เป็นการป้องกันตัว ไม่ได้มีเจตนาจะฆ่า เพราะยิงขึ้นฟ้าเตือนก่อน 1 นัด แต่กลุ่มของผู้ตายไม่ยอมหยุดวิ่งเข้ามาจะทำร้าย จึงต้องยิงสวนออกไป เพราะกลุ่มของผู้ตายมีจำนวนมาก หลังเกิดเหตุด้วยความตกใจ ตนได้วิ่งหลบหนีไปทางป่าหลังร้าน โดยเอาวุธปืนเหน็บหลังไว้ มาทราบอีกทีปืนหล่นหายไปแล้ว หลังจากนั้นจึงโทรหาพ่อเพื่อให้พาเข้ามอบตัวในเวลาต่อมา
ด้าน พ.ต.อ.ภัทรพล เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ทั้ง 2 กลุ่มได้เข้าไปใช้บริการที่ร้านอาหารดังกล่าว หลังปิดร้านทั้ง 2 กลุ่มกลับออกมาที่ลานจอดรถและเกิดการทะเลาะวิวาทจนมีการยิงกัน ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หลังจากเกิดเหตุ ส.ต.ท.พุฒิสรรค์ ได้ติดต่อเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน พร้อมทั้งให้ความร่วมมือสอบสวนเป็นอย่างดี หลังสอบสวนเสร็จได้แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่า ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร พกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งทาง ส.ต.ท.พุฒิสรรค์ ได้รับทราบข้อกล่าวหาและใช้หลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินมาประกันตัวชั่วคราว
ด้านคดีขณะนี้ยังมีประเด็นที่ต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เนื่องจากที่เกิดเหตุพบอาวุธปืนขนาด .45 มม. อีก 1 กระบอก ที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นปืนของผู้ใด เนื่องจาก ส.ต.ท.พุฒิสรรค์ ยืนยันว่าใช้ปืนพกขนาด 9 มม. ในการก่อเหตุ ขณะนี้อยู่ระหว่างส่งตรวจดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝง ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นตำรวจนั้น ขอให้ญาติสบายใจได้ว่าจะไม่มีการลำเอียงหรือช่วยเหลือแต่อย่างใด
นางสาวปนัดดา ชนีวงษ์ อายุ 45 ปี น้าสาวของนายปรีชา อภิชล อายุ 18 ปี หนึ่งในผู้บาดเจ็บอาการสาหัส เปิดเผยว่า นายปรีชาถูกกระสุนยิงเข้าที่ท้องและสะโพก กระสุนทะลุม้ามและลำไส้ ล่าสุดแพทย์ได้ผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว พักฟื้นในห้องไอซียู รู้สึกตัวแต่ยังพูดไม่ได้ แพทย์ให้รอดูอาการวันต่อวัน
นางสาวปนัดดา เล่าว่า นายปรีชาเป็นเสาหลักที่หาเงินมาช่วยเหลือครอบครัว โดยการเลี้ยงปลานิลกระชังกับนายอธิปที่ถูกยิงเสียชีวิต ตอนนี้ครอบครัวลำบาก เพราะขาดเสาหลักในการดูแลครอบครัว อยากจะขอความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในการทำคดีให้เป็นธรรม.-สำนักข่าวไทย