หนุ่มซิ่งรถส่งน้ำแข็งแหกโค้งฟาดเสาไฟฟ้า ตายยกคัน 3 ศพ

25 มิ.ย. – สลด! หนุ่มซิ่งรถส่งน้ำแข็งเสียหลักพลิกคว่ำชนเสาไฟข้างทาง เสียชีวิตยกคัน 3 ศพ ส่วนที่ สุรินทร์ หนุ่มวัย 43 ปี ขับกระบะพุ่งชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ จอดอยู่ริมทาง เสียชีวิตคาพวงมาลัย


ภาพเหตุการณ์รถ 6 ล้อ ส่งน้ำแข็งวิ่งมาด้วยความเร็ว ก่อนเสียหลักแหกโค้งพลิกตะแคง ก่อนไถลฟาดกับเสาไฟ เหตุเกิดบริเวณโค้งหน้าวัดทุ่งหลวง หมู่ 2 ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุรถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถบรรทุก 6 ล้อตู้ทึบ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว สภาพรถพลิกตะแคงข้างอยู่ริมถนน สภาพพังยับเยิน ตรวจสอบภายในซากรถพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 3 ราย ทราบชื่อคือ นายคมสันต์ อายุ 39 ปี เป็นคนขับรถ, นายลิน ชาวเมียนมา อายุ 20 ปี และอีก 1 ราย ไม่ทราบชื่อ เป็นชาวเมียนมา ทั้ง 3 คน

ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน กำลังจะนำน้ำแข็งจากโรงงานน้ำแข็งใน ต.ห้วยไผ่ อ.เมือง เพื่อไปส่งตามร้านค้าต่างๆ ใน ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง ด้วยความเร็วจึงทำให้รถเสียหลักพลิกตะแคงฟาดกับเสาไฟส่องสว่างข้างทาง เป็นเหตุให้ทั้ง 3 คนเสียชีวิตคาที่


อีกหนึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ จ.สุรินทร์ หนุ่มวัย 43 ปี ขับรถยนต์กระบะพุ่งชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ที่จอดอยู่ริมทางอย่างแรง หน้ารถยุบพังยับเยิน คนขับเสียชีวิตคาพวงมาลัย เจ้าหน้าที่กู้ภัยสุรินทร์ต้องนำอุปกรณ์ตัดถ่างนำร่างออกจากตัวรถ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายอาคม อายุ 43 ปี ส่วนคนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ คือ นายทองเทียน ยืนรอให้การกับตำรวจ พร้อมเล่าว่า ตนเองขับรถบรรทุกพ่วงไม้สับจากโรงไม้สับ อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จะไปส่งไม้สับที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ พอมาถึงที่เกิดเหตุจอดชิดริมไหล่ทางเพื่อลงไปทำธุระส่วนตัว ขณะกำลังจะเดินไปขึ้นรถได้ยินเสียงดังโครม พบว่ามีรถกระบะชนท้ายรถตน ตนจึงรีบวิ่งไปดูพบว่ามีคนเจ็บนอนหมดสติอยู่ภายในรถ จึงรีบโทรศัพท์เรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยเหลือ

ฝนพรำทำอุบัติเหตุบนถนน ตาย 3 เจ็บ 2
ที่ จ.นครปฐม เช้ามืดที่ผ่านมา ขณะฝนกำลังตก ทำให้เกิดอุบัติเหตุกับรถกระบะถึง 2 คัน ที่ตกลงไปบริเวณทางระบายน้ำกลางถนนเพชรเกษม ใกล้จุดกลับรถปากทางวัดลาดปลาเค้า คันแรกเป็นรถอีซูซุ 4 ประตู สีบรอนซ์ มีผู้โดยสารมาภายในรถ 5 คน พบเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 3 คน ทราบชื่อ 1.นางสาวอาภากร อายุ 50 ปี 2.นางสวาสดิ์ อายุ 54 ปี 3.นางสาวจำเนียร อายุ 56 ปี และผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน มูลนิธิช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลนครปฐม ทั้งหมดกำลังเดินทางไปทำงานที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล แผนกโภชนาการ

ส่วนอีกหนึ่งเหตุในพื้นที่ใกล้กัน รถกระบะตู้ทึบ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว พลิกตะแคงอยู่บริเวณในร่องระบายน้ำ ถนนเพชรเกษม คนขับให้การว่าขับรถมาบนถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ขณะนั้นมีฝนตกลง บริเวณดังกล่าวเป็นช่วงโค้ง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเห็นตะกร้าขนาดใหญ่อยู่กลางถนนจึงหักหลบ ทำให้รถเสียหลักพลิกตะแคงลงไปในร่องน้ำ


สอบถามผู้พบเห็นเหตุการณ์ทราบว่าขณะเกิดเหตุมีฝนตก และบริเวณดังกล่าวเป็นทางโค้ง อาจทำให้รถเสียหลักเบียดเกาะกลาง และพลิกหงายท้องลงทางระบายน้ำกลางถนน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

สว.ยื่นถอดถอนรัฐมนตรี

สว. จ่อยื่นถอดถอน​ “รมต.” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร

สว. ประกาศสงคราม​ เตรียมยื่นถอดถอน​ “รัฐมนตรี” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร พ่วง​ยื่นอภิปราย-แจ้งความ​-เชิญสอบใน​กมธ.​

ส่งกลับเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนอีก 300 คน

วันที่สองของปฏิบัติการขนเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนจากเมียวดี ข้ามชายแดนไทย ส่งกลับประเทศอีก 300 คน รวม 2 วัน ส่งกลับแล้ว 500 คน เหลือพรุ่งนี้อีก 1 วัน

บุกทลายบ่อนทุนจีนเทากลางเมืองภูเก็ต

ตำรวจภูเก็ตบุกทลายบ่อน ‘กลุ่มจีนเทา’ กลางเมืองภูเก็ต รวบนักพนันชาวจีน 13 ราย พร้อมของกลางกว่า 30 รายการ พบเงินหมุนสัปดาห์เดียวกว่า 5 ล้านบาท