ฆ่าโหด ด.ต. พร้อมเมียท้องแก่ ศพซุกรถทิ้งป่า

ปราจีนบุรี 13 พ.ค. – ฆ่าโหด ดาบตำรวจถูกยิงพรุน ดับพร้อมเมียท้องแก่ ก่อนนำศพซุกรถทิ้งป่า ตำรวจเร่งล่าตัวคนร้าย ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง


ตำรวจ สภ.ระเบาะไผ่ จ.ปราจีนบุรี ขอกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ช่วยออกติดตามค้นหาบุคคลสูญหาย คือ ด.ต.สกล บรรลุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.อำนาจเจริญ พร้อมภรรยาที่ตั้งครรภ์ ประมาณ 6 เดือน หลังเดินทางมาจาก จ.อุบลราชธานี เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 11 พฤษภาคม เพื่อมาเที่ยว และพักค้างแรม ที่ตู้ยามตำรวจกรอกสมบูรณ์ จ.ปราจีนบุรี เนื่องจากเคยรับราชการอยู่ที่ สภ.ระเบาะไผ่ แต่ได้ย้ายไปอยู่ที่จังหวัดอำนาจเจริญ หลายปีที่ผ่านมา จึงได้มาเที่ยวหาญาติ พี่น้อง คนที่รู้จัก ในพื้นที่ สภ.ระเบาะไผ่

ต่อมา ฝ่ายภรรยาได้ส่งข้อความไปหาตำรวจที่อยู่ตู้กรอกสมบูรณ์ บอกว่า นายดาบได้พบกับผู้ร้าย หรือคนรู้จักหรืออย่างไร ยังไม่ทราบ แล้วสามีได้วิ่งตามไป ก่อนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ด้วยความตกใจจึงส่งพิกัดไปให้ตำรวจที่เป็นเพื่อนกัน อยู่ที่ตู้กรอกสมบูรณ์ ตำรวจประจำตู้กรอกสมบูรณ์จึงได้ขับรถตาม GPS จุดสุดท้ายก็ไม่พบนายดาบและภรรยา ไม่สามารถติดต่อได้ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย จึงได้ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมลองลงค้นหาในบ่อน้ำใกล้กับจุดที่หายไปเพื่อหาผู้สูญหาย


ต่อมาเวลา 19.00 น. วันที่ 12 พ.ค. ชุดสืบสวนไปพบรถปิกอัพอีซูซุ สีบอร์น 4 ประตู ของ ด.ต.สกล พร้อมภรรยา อยู่ห่างจากถนนสาย 3079 ประมาณ 4 กม. ที่บริเวณข้างบ่อน้ำแถวป่ามันสำปะหลัง ต.กรอกสมบูรณ์ ในเบื้องต้นพบว่า ด.ต.สกล เสียชีวิตที่บริเวณเบาะด้านหน้ารถยิงตามตัว 9 นัด ส่วนภรรยาชาวลาว อายุ 24 ปี ซึ่งตั้งครรภ์ได้ประมาณ 6 เดือน ถูกงยิง 7 นัด สภาพนอนเสียชีวิตที่เบาะหลังรถ

จากนั้น พนักงานสอบสวน ได้ให้เจ้าหน้าที่กันบริเวณที่เกิดเหตุ ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานปราจีนบุรี เข้าตรวจสอบ ก่อนส่งร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรและมอบให้ญาติไปบำเพ็ญกุศลศพตามศาสนา

นอกจากนี้ ตำรวจได้ภาพจากกล้องวงจรปิด เมื่อวันที่ 11 พ.ค.67 เวลา 12.19 น. บริเวณป้อมตำรวจจุดตรวจกรอกสมบูรณ์ พบผู้เสียชีวิตขับรถกระบะคันเกิดเหตุมาพร้อมภรรยาสาวท้อง 6 เดือน มาจอดบริเวณป้อมตำรวจเพื่อมาหาเพื่อนที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยกัน เวลาตามกล้องวงจรปิด 11.28 น. ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ได้ขับรถกระบะย้อนศรออกไปทางบ้านวังคู ซึ่งเป็นการบอกเล่าของร้อยตำรวจโทสันตพงษ์ เพื่อนผู้เสียชีวิต


ด้านพันตำรวจเอกสุรพร เทพเสน ผู้กำกับ สภ.ระเบาะไผ่ ลงพื้นที่เกิดเหตุ สั่งให้ชุดสืบสวนเร่งหาเบาะแสล่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุฆาตกรรม ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”