เด้ง ผอ.หวงเก้าอี้-สั่งสอบรู้ผลใน 7 วัน

ร้อยเอ็ด 16 มี.ค. – สพฐ. สั่งสอบข้อเท็จจริง-ย้าย ผอ.โรงเรียน แชทตำหนิครูสาวนั่งเก้าอี้ตัวเอง บอกเสียใจมากที่ครูทำพฤติกรรมแบบนี้ ด้านครูสาวเปิดใจเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


กรณีครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดร้อยเอ็ด โพสต์ภาพข้อความแชท ที่ครูพูดคุยกับ ผอ.โรงเรียน โดยเขียนจั่วหัวว่า วันนี้ประเมินเงินเดือน ที่ห้องประกัน แล้วเผลอนั่งเก้าอี้ ผอ. เพราะยกไปให้แกนั่งแล้วแกไม่นั่ง แกไปนั่งเก้าอี้ธรรมดา

ไฮไลท์ของเรื่องนี้ อยู่ที่ว่า ผอ. บอกรู้สึกเสียใจจนแขนขาอ่อนแรง และตรงที่ครูขอโทษ พร้อมขอแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการซื้อเก้าอี้ตัวใหม่ให้ แต่ ผอ.กลับตอบกลับมาว่า ไม่เป็นไรค่ะ ทางโรงเรียนจะซื้อเองค่ะ


ภายหลังโพสต์นี้ออกแชร์ออกไป หลายคนก็สงสัย เก้าอี้ตัวไหน ยังไง ครูสาวก็ออกมาชี้แจงว่า เก้าอี้ที่หนูได้นั่งจนเป็นประเด็น คือเก้าอี้ที่อยู่ในห้องประกันคุณภาพการศึกษา ห้องนี้มีไว้ประชุม หรือต้อนรับแขกที่มาติดต่อราชการค่ะ (จะมีเก้าอี้ดำ เป็นประธานค่ะ) ที่ได้ไปนั่งเพราะเป็นคนคอยอำนวยความสะดวกเปิด VTR ให้คณะครูฉายออกทีวีค่ะ แล้วที่อยู่ด้านหน้าค่ะ หนูไม่ได้นั่งเก้าอี้ส่วนตัวท่าน ผอ. ในห้องท่าน ผอ.ค่ะ รวมถึงโพสต์อีกข้อความ พร้อมกับรูปภาพของเก้าอี้สีดำเจ้าปัญหาว่า เก้าอี้สีดำตัวนี้ค่ะ พอถึงเวลานัดหมายที่จะประเมินเงินเดือน ผอ. ก็จะเดินเข้ามาค่ะ หนูก็รีบลุกและยกเก้าอี้ไปให้ท่านนั่ง ท่านก็บอกว่าไม่นั่งค่ะ

ล่าสุดเหตุการณ์นี้ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานยืนยันว่า สพฐ. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ล่าสุดได้ประสานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ร้อยเอ็ด เขต 1 และได้สั่งให้ ผอ.กลุ่มกฎหมายและคดี ตั้งคณะกรรมการสืบสวนหาข้อเท็จจริง รวมถึงมีคำสั่งให้ ผอ.โรงเรียน มาปฏิบัติราชการที่เขตพื้นที่ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการสืบสวน รวมถึงให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ส่วนการสืบสวนข้อเท็จจริง ย้ำว่าต้องให้ได้ข้อสรุป ภายใน 7 วัน

ขณะที่นักข่าวไปลองสอดส่องที่โรงเรียนที่เป็นข่าวฉาว ซึ่งวันนี้โรงเรียนปิดการเรียนการสอนเพราะเป็นวันหยุด แต่ด้วยความที่มีคนอยู่ในโรงเรียน ก็ได้พานักข่าวไปดูอาคารประกันสุขภาพการศึกษาที่มีเก้าอี้ของ ผอ.วางอยู่ที่นี่ พร้อมกับชี้บอร์ดที่ติดชื่อผู้บริหาร ผอ.โรงเรียน และคณะครูที่อยู่ในโรงเรียน และเล่าว่า ครูที่โพสต์ชื่อครูเหมียว สอนอยู่อนุบาล 1 และอนุบาล 2 เพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ยังไม่ถึง 4 เดือน


ส่วนชาวบ้านแถวนั้นให้ข้อมูลว่า เห็นการทำงานของ ผอ.ก็เรียกว่ายอมรับได้ แต่ที่ไม่ค่อยเหมือน ผอ.คนอื่นๆ คือ ตั้งแต่ ผอ.คนนี้ย้ายมา ก็มักมีการเรี่ยไรเงิน เรี่ยไรข้าว เพื่อเอาไปใช้ในกิจกรรมบางอย่างของโรงเรียน ซึ่งชาวบ้านแม้ไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะลูกหลานก็เรียนอยู่ในโรงเรียน รวมถึงบอกด้วยว่าไม่รู้ว่าเรื่องที่เป็นดราม่าอยู่ในตอนนี้ เป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่พอเห็นแล้วก็ไม่สบายใจ เพราะมันเป็นแค่เรื่องเก้าอี้ เป็นเหตุเล็กๆ ที่ไม่น่าจะต้องจริงจัง หรือบานปลายไปขนาดนี้

อย่างไรก็ตาม นักข่าวได้พยายามติดต่อไปยัง ผอ.โรงเรียน เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริง แต่โทรไปหลายครั้ง ผอ.ก็ไม่รับสาย ส่วนครูเหมียวรับสาย แล้วเล่าว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ เมื่อวานนี้ (15 มี.ค.) โดย ผอ.ให้คณะครูทำ VTR ผลงานมาคนละ 1 คลิป เพื่อนำมาประเมินเงินเดือน แล้ว VTR นี้ก็ให้เอามาเปิดในห้องประกันคุณภาพการศึกษา ซึ่งเป็นห้องที่เอาไว้รับแขกของโรงเรียน โดยภายในจะมีโต๊ะยาว และเก้าอี้หลายตัว รวมถึงมีเก้าอี้นวมสีดำ สำหรับประธาน ตั้งอยู่หัวโต๊ะ

ครูเหมียว มีหน้าที่รวบรวมไฟล์ของทุกคนมาเปิด โดยเชื่อมโน้ตบุ๊กไปยังจอทีวี จึงได้ไปนั่งที่เก้าอี้นวมสีดำหัวโต๊ะ เพื่อเช็กไฟล์ภาพและเสียงว่าเปิดได้หรือไม่ ในขณะนั้น ผอ.ได้ขึ้นไปที่ห้องของตนเองที่อยู่ชั้น 2 ครูเหมียวเลยนั่งเช็กไฟล์รอ และเมื่อ ผอ.ลงมา ครูเหมียวก็ลุก แล้วยกเก้าอี้สีดำเจ้าปัญหาไปให้ ผอ.นั่ง แต่ ผอ.บอกว่า “ไม่นั่ง” ก่อนที่จะเดินไปนั่งเก้าอี้ธรรมดาในห้อง

ครูเหมียว ก็ไม่ได้คิดอะไร และฉาย VTR ของทุกคนจนครบ และแยกย้ายกันไป แต่ปรากฏว่า ช่วง 17.00 น. ที่กำลังจะกลับบ้าน ครูเหมียวได้ยิน ผอ.พูดกับครูคนหนึ่งว่า ครูเหมียว มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ไปนั่งที่เก้าอี้ของ ผอ. แต่ตอนนั้นครูเหมียวก็คิดว่า คงไม่มีอะไร ก็กลับบ้าน กระทั่งมาเห็นไลน์ ผอ. เด้งมาในกลุ่มโรงเรียน ตำหนิครูเหมียวที่ไปนั่งเก้าอี้ ผอ. ครูเหมียวเห็นก็พิมพ์ไปขอโทษตามแชทที่ปรากฏในโซเชียล ซึ่งมีจังหวะนึงที่ ผอ. แชท บอกให้ครูอีกคนไปซื้อ หรือไม่ก็ยืมเก้าอี้ตัวใหม่มาให้วันจันทร์ ครูเหมียวเห็นว่าเรื่องราวเกิดขึ้นจากตัวเองเป็นต้นเหตุ และเห็นว่าโรงเรียนก็ไม่มีเงิน จึงเขียนแสดงความรับผิดชอบไปว่าจะออกเงินซื้อเก้าอี้ตัวใหม่มาให้ แต่ ผอ. ตอบว่าไม่เป็นไร และบอกว่าจะซื้อด้วยเงินตนเอง

ครูเหมียวบอกว่า คิดว่าเรื่องคงจบแล้ว จึงทักไลน์ส่วนตัวไปขอโทษ ผอ.อีกครั้ง ยอมรับว่า ทุกข์ใจมาก กดดัน ร้องไห้เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น สุดท้ายจึงได้แคปแชทในไลน์มาแชร์ ระบายความรู้สึกทางหน้าเฟซบุ๊กของตัวเอง พอแฟนมาเห็นว่าร้องไห้ ก็แคปข้อความไปโพสต์ต่อ ซึ่งเมื่อ ผอ. เห็นโพสต์ก็แชทมาหาบอกว่าว่า “ไม่เป็นไรค่ะเก้าอี้ตัวนี้เก่าชำรุดแล้วค่ะ”

หลังจากเห็นข้อความของ ผอ. ครูเหมียวก็ไม่ได้ตอบอะไรไปอีก กระทั่ง ผอ.นำข้อความไปลงไลน์กลุ่มโรงเรียน และโทรไลน์มาหา แต่ครูเหมียวก็ไม่ได้รับ เพราะตั้งใจว่าวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันเปิดเรียนจะไปขอโทษต่อหน้า ผอ. และจะถามว่าจะให้รับผิดชอบอย่างไร อย่างไรก็ตาม ครูเหมียวย้ำว่า เก้าอี้ตัวนี้ เป็นเพียงเก้าอี้รับรอง ไม่ใช่เก้าอี้ประจำตำแหน่งของ ผอ. ปกติไม่ว่าใครมา ก็มานั่ง ทำให้ไม่เข้าใจ ว่าทำไมการนั่งเก้าอี้ตัวนี้จึงเป็นเรื่องใหญ่โต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กัมพูชา ทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก

กัมพูชา 19 ก.ค.-กัมพูชาทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก ลั่นยึดมั่นอนุสัญญาออตตาวา ประณามคัดค้าน การผลิต และแสดงความเสียใจผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมผลักดันสู่กระบวนการพิสูจน์ เพื่อรักษามิตรภาพ ความปลอดภัย ไม่กล่าวหาซึ่งกัน เมื่อวันที่ 19 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชอาณาจักรกัมพูชา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ทำหนังสือ ถึงทางการไทย เรื่อง การปฏิเสธต่อการนําเสนอของสื่อมวลชนไทยจำนวนหนึ่ง กรณีทหารไทย 3 นาย ได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) สำานักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิคและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (สํานักงานทุ่นระเบิด) ขอแจ้งว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีสื่อมวลชนไทยจํานวนหนึ่งได้อ้างอิงแหล่งข้อมูลจากข้าราชการระดับสูงของไทย และเผยแพร่เกี่ยวกับทหารไทย 3 นายได้รับบาดเจ็บจากระเบิด เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 บริเวณพิกัด WA 220861 (ยืนยันโดยฝ่ายไทย) อยู่ในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) การเผยแพร่ดังกล่าว มีเจตนา กล่าวหาโดยไม่มีมูลความจริงและไม่มีการตรวจสอบที่ชัดเจนว่ากัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ ในการนี้สํานักงานทุ่นระเบิด ขอชี้แจงดังนี้ 1.สํานักงานทุ่นระเบิดขอปฏิเสธและปัดตกทั้งหมดต่อเนื้อหาข่าวที่เผยแพร่โดยมีเจตนากล่าวหาว่า กัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ 2.กัมพูชา […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย