ฮือฮา ทั้งโรงเรียนมีครูคนเดียว-สอนทุกชั้น

นครพนม 26 ม.ค. – ฮือฮา โรงเรียนแห่งหนึ่งที่นครพนม เปิดสอนระดับชั้นประถมฯ ทั้งโรงเรียนมีครูสอนคนเดียว-สอนทุกชั้น ด้าน สพฐ. แจงจัดสรรตำแหน่งพนักงานราชการตำแหน่งครู 2 อัตรา


กลายเป็นที่ฮือฮาอีกครั้งสำหรับแวดวงการศึกษาไทย หลังมีการเปิดเผยข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลว่ามีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครพนม คือ รร.บ้านดงโชค อ.เมือง เป็นโรงเรียนชุมชนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 1 นครพนม มีครูผู้สอนเพียงคนเดียว ทั้งโรงเรียน แต่ยังเปิดทำการเรียนการสอน พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ยอมส่งลูกหลานไปเรียนที่อื่นทั้งที่มีนักเรียนแค่ 19 คน

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ พบเป็นโรงเรียนขนาดเล็กมีเนื้อที่ราว 15 ไร่ เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล 2 ถึง ชั้น ป.6 ปัจจุบันมีนักเรียน 19 คน อาคารเรียน มี 2 อาคาร แบบปูนสองชั้นยกสูง และ อาคารอเนกประสงค์ 1 อาคาร มีนายศุภมาศ หรือ ผอ.บอยอายุ 49 ปี เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน มีครูผู้ช่วย 1 คน คือ น.ส.ธัญลักษณ์ หรือครูฟิน อายุ 23 ปี พนักงานราชการอีก 2 คน และพนักงานธุรการ 1 คน


ผอ.โรงเรียน กล่าวว่า ปัญหาสำคัญของโรงเรียนคือต้องใช้วิธีสอนรวม เนื่องจากตามเกณฑ์อัตรากำลัง กระทรวงศึกษาฯ สามารถมีตำแหน่งครูได้ 1 คน ต่อนักเรียน 20 คน นอกจากนี้งบประมาณต่อหัวนักเรียนได้ปีละ 3 หมื่นบาทไม่มีสวัสดิการเพิ่มสำหรับครูผู้ช่วย ทำให้ทั้งครูและตัวแทนชาวบ้านเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาฯ ทบทวนดูแลเพิ่มอัตรากำลัง เนื่องจากไม่สามารถยุบรวมได้ เพราะเป็นโอกาสทางการศึกษาของลูกหลาน ที่ครอบครัวฐานะยากจนได้ศึกษาโรงเรียนในชุมชน

ด้านชาวบ้านให้ข้อมูลว่า โรงเรียนแห่งนี้ชาวบ้านร่วมกันบริจาคที่ดินก่อสร้าง เริ่มจากปี 2484-2548 มีครูใหญ่ 6 คน จากนั้นเปลี่ยนผู้บริหารมาเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน นักเรียนส่วนใหญ่เป็นลูกหลานที่พ่อแม่มาฝากปู่ย่าตายายเลี้ยงหรือมาจากครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ ฐานะยากจน มีอาชีพเป็นเกษตรกร ผู้ปกครองจึงนำลูกหลานมาฝากครูขณะออกไปทำงานรับจ้าง ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชน ไม่ต้องการให้ยุบรวม ทุกปีหากงบฯ ไม่เพียงพอ โรงเรียนกับชาวบ้านจะจัดผ้าป่าทำบุญสมทบทุน วอนรัฐบาลหาทางดูแลช่วยเหลือ

ขณะที่ น.ส.ธัญลักษณ์ ซึ่งทำหน้าที่ตำแหน่งครูผู้ช่วย สอบบรรจุเข้ามาทำงานเมื่อปลายปี 2566 ระบุว่าจะตั้งใจทำหน้าที่สอนให้ดีที่สุดเพื่อแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง


ล่าสุด นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า โรงเรียนดังกล่าว มีนักเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึง ป. 6 จำนวน 19 คน มีบุคลากร ทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วยผู้อำนวยการสถานศึกษา 1 คน ข้าราชการครูตำแหน่งผู้ช่วย 1 คน พนักงานราชการตำแหน่งครู 2 คน และพนักงานธุรการ 1 คน ซึ่งตามเกณฑ์อัตรากำลังของกระทรวงศึกษาธิการ สำหรับสถานศึกษาที่มีนักเรียนไม่เกิน 40 คน สามารถมีตำแหน่งครูได้ 1-4 คน

ที่ผ่านมาทางเขตพื้นที่ได้พูดคุยกับทางโรงเรียนและชุมชนในการจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพสำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก อาทิ การยุบหรือควบรวม หรือเรียนรวมกับโรงเรียนขนาดใหญ่อื่นๆ แต่ทางชุมชนไม่ต้องการให้ยุบรวมต้องการให้ยังคงอยู่เป็นสถานศึกษาต่อไป ทางเขตพื้นที่จึงได้สนับสนุน จัดสรรพนักงานราชการตำแหน่งพนักงานราชการครูผู้สอนจำนวน 2 อัตรา เข้ามาช่วยสอนนักเรียนด้วย และมีการใช้ระบบการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมช่วยการเรียนการสอน ซึ่งไม่ใช่เพียงโรงเรียนที่ปรากฏในข่าวเท่านั้นแต่ได้ให้การสนับสนุนทุกโรงเรียนในพื้นที่ด้วยเช่นกัน

ส่วนกรณีที่บอกว่าโรงเรียนได้รับงบประมาณจำนวน 30,000 บาทต่อปีนั้น ขอชี้แจงว่าในการจัดสรรงบประมาณอุดหนุนรายหัวนักเรียนมีเกณฑ์การจัดสรรงบประมาณที่รัฐจัดสรรให้เหมือนกันหมดทุกแห่งโดยเพิ่มขึ้นทุกปี โดยในระดับประถมศึกษาจากเดิมหัวละ 3,130 บาท ในปี 66 ปรับเพิ่มเป็น 3,410 บาท ในปี 67 ซึ่งเมื่อคูณกับจำนวนนักเรียน 19 คน จะต้องได้ 60,000 กว่าบาทต่อปี ไม่ใช่จำนวน 30,000 บาท .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง