เชื่อปมหึงหวง สองผัวเมียนายทหารยิงกันตายในรถ

นนทบุรี 10 ม.ค. – ครอบครัวพันโทหญิง ที่ถูกสามีนายทหาร ยิงเสียชีวิตก่อนยิงตัวตาย เตรียมรับศพไปบำเพ็ญกุศล ด้านพ่อฝ่ายหญิง เผยมีลางสังหรณ์ว่าลูกสาวจะถูกแฟนหนุ่มฆ่า เพราะนิสัยฝ่ายชายชอบหึงหวง


เมื่อวานนี้ช่วงเย็น เกิดเหตุสลด เหตุยิงกันในรถ เสียชีวิต 2 ราย ภายในชุมชนประชานิเวศน์ 2 จ.นนทบุรี พอเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถกระบะสีบรอนซ์ทอง จอดเกยฟุตบาทเบียดชิดอยู่ข้างกำแพง ภายในรถ ฝั่งคนขับ พบศพพันโทหญิงปาลิตา อายุ 43 ปี สังกัดกระทรวงกลาโหม ใส่ชุดยูนิฟอร์มข้าราชการทหาร มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าบริเวณลำคอ ใต้คางข้างขวา 1 นัด ส่วนบริเวณด้านผู้โดยสาร พบศพ นาวาอากาศตรี สุรเดช อายุ 57 ปี สังกัดกระทรวงกลาโหม ใส่ชุดยูนิฟอร์มทหาร มีบาดแผลถูกยิงที่บริเวณขมับข้างซ้าย 1 นัด ทะลุขมับขวา

แม่ของพันโทหญิงที่เสียชีวิต บอกว่า ขณะที่ลูกสาว และลูกเขย กำลังจะถอยเข้าบ้าน ได้เกิดการทะเลาะกันบนรถ ก่อนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จากนั้น รถก็เสียหลักไปชนกำแพงข้างบ้าน ก่อนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด พอเดินไปดู พบว่าเสียชีวิตทั้งคู่ ตกใจมาก รีบโทรแจ้งตำรวจ


ต่อมา พ่อของฝ่ายหญิง ได้ออกมาเปิดใจว่า ลูกสาวกับตนเองไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน โดยปกติแล้วไม่ค่อยโทรคุยกัน จะพูดคุยกันผ่านไลน์เป็นส่วนมาก ที่ผ่านมา ทราบว่าลูกสาว และลูกเขย ทะเลาะกันบ้าง แต่ไม่ทราบเรื่องอะไร แต่เท่าที่รู้จักกับลูกเขย พบว่ามีนิสัยเป็นคนขี้หึงหวง เพราะก่อนหน้านี้ ทางฝ่ายชาย เคยมีครอบครัวมาก่อนแล้ว แต่ได้เลิกกันไป ก่อนมาอยู่กับลูกสาวของตน นอกจากนี้ พ่อของฝ่ายหญิง ยังเปิดเผยอีกว่า “คิดแล้วว่าวันหนึ่งจะต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่ไม่กล้าเตือนลูกสาว เพราะคนเราเลี้ยงได้แต่ตัว ส่วนหัวใจเลี้ยงไม่ได้” ส่วนสาเหตุ เชื่อว่ามาจากความหึงหวงแน่นอน

ด้าน พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ฝ่ายชายเป็นคนก่อเหตุ ยิงฝ่ายหญิงก่อน จากนั้นก็ยิงตัวเองตายตาม ขณะเดียวกันทราบว่า ทั้งคู่คบหากันนานกว่า 6 ปีแล้ว ซึ่งก่อนเกิดเหตุช่วงกลางวัน ทั้งคู่ได้โทรมาหาแม่ ว่าเกิดทะเลาะกับฝ่ายชายรุนแรง จนกระทั่งเวลาใกล้เลิกงาน แม่ฝ่ายหญิง จึงรีบมาหาที่บ้าน เพื่อจะมาช่วยพูดคุย แต่ปรากฏว่า พอทั้งคู่ถึงบ้าน ไม่ยอมลงจากรถ ก่อนเกิดเหตุสลดขึ้น

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พิสูจหลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบอาวุธสังหารเป็นปืน ขนาด 9 มม. อยู่บริเวณเกียร์รถยนต์ มีกระสุนบรรจุคาอยู่ในรังเพลิง 1 นัด และในแม็กกาซีนจำนวน 4 นัด โดยมีการใช้ก่อเหตุจำนวน 2 นัด รวมทั้งหมด 7 นัด ใกล้เคียง พบกระเป๋าสะพายสีดำภายในกระเป๋า พบลูกปืนขนาด 9 มม. ใส่อยู่ในแม็กกาซีนจำนวน 5 นัด อีก 1 แม็ก พร้อมกระสุนปืนที่อยู่ในกระเป๋าสีดำดังกล่าว มากกว่า 10 นัด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูนำศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย มอบให้กับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป


ด้านยายบ้านฝั่งตรงข้าม ที่ถูกรถสองสามสามีภรรยาชนกำแพงรั้วบ้าน เล่าว่า ตนรู้แค่ว่าเมื่อก่อนผู้ตายไม่ได้อยู่ที่นี่ เพิ่งจะย้ายเข้ามาอยู่ได้ 2-3 ปี อยู่กัน 2 คนผัว-เมีย ก็ไม่เคยเห็นทะเลาะกัน ตนรู้เรื่องยังตกใจ ส่วนใหญ่ผู้หญิงจะเป็นคนขับรถ เสาร์-อาทิตย์ ก็จะมีเพื่อนมาสังสรรค์กันบ้าง ตี 5 เขาก็ออกไปทำงานด้วยกันทุกวัน ส่วนกำแพงบ้านตนคงต้องซ่อมเอง ขณะที่แม่ของพันโทปาลิดา ได้เตรียมเอกสาร เพื่อเดินทางไปรับศพที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และจะนำมาสวดบำเพ็ญกุศลที่วัดชลประทานปากเกร็ด .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้