วัวเคราะห์ร้ายเหยียบรถเบิดปริศนาขาฉีก

บุรีรัมย์ 1 ธ.ค. – วัวเคราะห์ร้าย เจ้าของจูงไปหลบแดดใต้ต้นไม้ เหยียบระเบิดปริศนาขาฉีก คาดเป็นของวัยรุ่นประดิษฐ์ไว้ปาใส่คู่อริ แต่ยังไม่ระเบิด ด้านตำรวจเร่งตรวจสอบหาที่มาของระเบิดปริศนา


ตำรวจ สภ.ชำนิ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังนางสำรวย อายุ 45 ปี เกษตรกรบ้านตาเหล็ง ต.หนองปล่อง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความว่าวัวที่เลี้ยงไว้เหยียบระเบิดปริศนาได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบพบว่าวัวที่เหยียบระเบิดมีแผลฉีกที่ขาและเท้าข้างขวาเลือดไหล ทำให้วัวไม่สามารถเดินได้ปกติ

นางสำรวย เจ้าของวัว เล่าว่า เมื่อวานนี้ (30 พ.ย.) ช่วงบ่าย จูงวัวเพศเมีย อายุ 1 ปี ไปหลบแดดใต้ต้นไม้ จังหวะที่นำวัวเข้าร่มเสร็จ เดินหันหลังจะกลับเข้าบ้าน ได้ยินเสียงดังตูมจนหูอื้อ ตกใจมากจึงหาที่หลบก่อน จนเสียงเงียบไปจึงเดินกลับไปดูวัว พบว่าที่ขาวัวกับเท้าข้างขวามีแผลฉีก เมื่อสำรวจดูพบวัตถุเหมือนระเบิดอยู่ใกล้กับเท้าวัว ถึงรู้ว่าวัวเหยียบระเบิด


หลังเกิดเหตุไปแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ เพราะวัวที่ถูกระเบิดบาดเจ็บเป็นวัวในโครงการหลวง เพื่อที่ผู้ใหญบ้านจะได้แจ้งให้ปศุสัตว์ทราบ จากนั้นปศุสัตว์มาตรวจสอบ พบว่าวัวมีแผลฉีกที่ขาและเท้าข้างขวาค่อนข้างเยอะ และตามหน้าท้องมีแผลจากสะเก็ดระเบิดด้วย ประเมินแล้วไม่สามารถรักษาได้ จึงอนุญาตให้เจ้าของขายได้ เพื่อลดผลกระทบ จึงขายต่อในราคา 9,500 บาท ยืนยันไม่เคยมีปัญหากับใคร ไม่รู้ว่าระเบิดมาได้อย่างไร

ด้านตำรวจเก็บหลักฐานที่เกิดเหตุ พร้อมจะเร่งหาที่มาของระเบิดปริศนา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป มีรายงานว่าระเบิดที่วัวเหยียบน่าจะเป็นของกลุ่มวัยรุ่นที่ประดิษฐ์ไว้ปาใส่คู่อริ ซึ่งในหมู่บ้านมีเหตุวิวาทกันบ่อย แต่อาจปาแล้วไม่ระเบิด เพราะจุดดังกล่าวเป็นหญ้า แต่วัวกลับเคราะห์ร้ายไปเหยียบเกิดระเบิดได้รับบาดเจ็บ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย