นครศรีธรรมราช 1 พ.ย. – ผ่านมา 10 วัน ยังไร้วี่แวว “เสี่ยแป้ง” หลังหนีออกจากโรงพยาบาล ขณะที่ “หนอน” ปฏิเสธทุกข้อหาช่วยหลบหนี ด้านตำรวจเร่งสอบปมจดหมายขู่เอาชีวิตอัยการ
ผ่านมา 10 วันแล้ว ที่ “เสี่ยแป้ง” ผู้ต้องหาคนสำคัญ หลบหนีออกจากโรงพยาบาลที่จังหวัดนครศรีธรรมราชถึงตอนนี้ ก็ยังไร้วี่แววเสี่ยแป้งขณะที่จับกุมผู้ช่วยเหลือได้แล้ว 7 คน คนล่าสุดที่จับกุมได้ คือ นายสุทิวัส หรือ “หนอน ทุ่งลาน” อายุ 28 ปี ถูกจับที่จังหวัดราชบุรี เมื่อวานนี้ (31 ต.ค.66) ตามหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ข้อหาร่วมกันกระทำการใดให้ผู้ถูกคุมขังตามอำนาจศาล ซึ่งเป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุกตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป หลุดพ้นจากการถูกคุมขังไป หลังตำรวจได้เบาะแสว่า นายหนอนขับรถปิกอัพสีขาว หมายเลขทะเบียนนครศรีธรรมราช มาที่ราชบุรี เมื่อ 4 วันก่อน จากการตรวจค้นห้องพัก ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย
เบื้องต้น ภรรยาของนายหนอน ยอมรับว่า นายหนอนขับรถไปส่งเสี่ยแป้งที่ชายแดนจริง ก่อนจะเดินทางมากบดานที่ จ.ราชบุรี แต่นายหนอน ไม่ใช่ลูกน้องคนสนิท และเงินที่โอนเข้าบัญชีไม่ใช่เงินค่าจ้าง แต่เป็นเงินส่วนตัวของนายหนอน
ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ตำรวจได้คุมตัวนายหนอน จากจังหวัดราชบุรี มาที่ สภ. เมืองนครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเกี่ยวกับคดีกับนายหนอน แต่เจ้าตัว ไม่ตอบ และตวาดใส่ผู้สื่อข่าว บอกว่า แสบตาเพราะไฟหน้ากล้องส่องมา และพูดว่าถามอะไรนักหนา ถามกันตั้งแต่เมื่อวานจนรำคาญ ซึ่งก่อนที่นายหนอนจะมาถึง มีแม่ เมีย และ ลูกสาววัย 4 เดือน ของนายหนอนมารอ ที่สภ. เมืองนครศรีธรรมราช โดยแม่ของนายหนอน บอกว่า แม่ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น แต่เท่าที่รู้ คือ ลูกไม่ค่อยถูกกับเสี่ยแป้ง ส่วนเรื่องรถเก๋งคันสีดำ ที่เป็นข่าวว่านายหนอนขับนำรถเสี่ยแป้งนั้น ลูกไม่เคยมีรถเก๋งลูก มีแต่รถกระบะ ส่วนการสอบปากคำนายหนอน เบื้องต้น เจ้าตัว ยังคงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยืนยัน ไม่เกี่ยวข้องและไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น
ส่วนประเด็นที่มีจดหมายข่มขู่เอาชีวิตอัยการท่านหนึ่ง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นอัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการภาค 9 รักษาการในตำแหน่งอัยการจังหวัดคดีศาลแขวงสงขลา และทวงเงินคืน โดยอ้างว่ามีการรวมหัวหักหลังเสี่ยแป้ง วันนี้ (1 พ.ย.66) พ.ต.อ.ดุสิต พรหมสิน ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา เรียกประชุมเร่งสืบสวนเรื่องนี้ ตอนนี้ ทราบแล้วว่า จดหมายถูกนำไปวางไว้ที่หน้าห้องทำงานของอัยการท่านนี้เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งจากการสอบสวนพยานแวดล้อม ต่างบอกว่า วันนั้นมีผู้คนเข้าออกภายในสำนักงานอัยการภาค 9 ค่อนข้างมาก จึงไม่มีใครทันสังเกตว่ามีใครนำจดหมายไปวางไว้หน้าห้องอัยการท่านนี้ ตำรวจเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด และได้เรียกอัยการท่านนี้มาสอบถามรายละเอียดแล้ว.-สำนักข่าวไทย