17 ต.ค. – แรงงานไทยในอิสราเอล เล่าเหตุการณ์ขณะถูกกลุ่มฮามาสยิงถล่มข้ามแคมป์ จนต้องหนีไปซ่อนตัวในท่อ 2 วัน ก่อนออกมาขอความช่วยเหลือจากทหาร หลังกลับเมืองไทยถึงบ้านเกิดบึงกาฬ ก้มกราบเท้าแม่โผกอด ผูกแขนรับขวัญ
ภาพเหตุการณ์ขณะกองกำลังติดอาวุธฮามาส ยิงต่อสู้กับทหารอิสราเอล ข้างแคมป์ที่พักแรงงานไทย ซึ่งนายสารัช คำปัญญา แรงงงานไทยในอิสราเอล ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายไว้ เป็นภาพการยิงถล่มต่อสู้กันด้วยปืนและระเบิดของทั้ง 2 ฝ่าย นานกว่า 4 นาที
นายสารัช เล่าว่า วันเกิดเหตุ เป็นวันหยุด ประมาณ 6-7 โมงเช้า มีเสียงระเบิดมาก่อน จึงพากันลุกมาดู พบว่ากลุ่มฮามาสบุกมาแล้ว มายิงกันกับทหารอยู่ในค่ายข้างแคมป์ ตอนนั้นไม่รู้จะทำยังไง พากันวิ่งหาที่หลบ คิดว่าจะเหมือนเหตุยิงกันที่ผ่านมาๆ แต่กลับไม่ใช่ เพราะมีคนบุกเข้ามาอย่างน้อย 200-300 คน ล้อมค่ายทหารเอาไว้ กว่ากำลังเสริมของทหารจะเข้ามาได้ก็เกือบค่ำ พวกตนต้องหนีเข้าไปหลบอยู่ในท่อ พอเสียงปะทะเงียบลง จึงออกมาหากินกล้วย กินมะม่วง พอประทังชีวิต ผ่านไป 2 วันโดยที่ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีแบตเตอร์รี่ จึงเข้าไปขอความช่วยเหลือจากทหารอิสราเอล แต่เกือบโดนยิงเพราะคิดว่าเป็นพวกอาหรับ ซึ่งเขาไม่รู้ว่าเรายังอยู่ในแคมป์
จากนั้นทหารอิสราเอลพาขึ้นรถหุ้มเกราะออกมานอกพื้นที่ พอนั่งรถออกมาถึงรู้ว่าตัวเองอยู่ในนรก ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร ไม่พบคน มีแต่ศพเกลื่อน 2 ข้างทาง ส่วนช่วงที่ไปอยู่ศูนย์อพยพ ก็ไม่น่าไว้ใจ เพราะเป็นหมู่บ้านอาหรับ มีแต่ชาวอาหรับทั้งหมด ที่ให้พักร่วมกันประมาณ 200 คน ไม่มีทหารเฝ้า ต้องอยู่แบบหวาดระแวง ประมาณ 4 วัน กว่าทางการไทยจะไปรับตัวออกมากลับไทย
สำหรับนายสารัช ได้รับการดูแลจากกระทรวงแรงงาน พากลับมาพบครอบครัวที่บึงกาฬ ทันทีที่พบหน้า นายสารัชได้ก้มลงกราบเท้าแม่ โผกอดกัน ก่อนกลับไปผูกข้อต่อแขนรับขวัญกลับบ้าน และเดินทางกลับมาที่บ้านเกิด บ.ดอนยม ต.ไคสี อ.เมืองบึง ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นของญาติพี่น้องและครอบครัว พร้อมยืนยันว่าจะไม่กลับไปทำงานที่อิสราเอลอีก เพราะสิ่งที่เจอโหดร้ายเกินไป. – สำนักข่าวไทย
.