นครศรีธรรมราช 27 ก.ย. – พบซากโบราณวัตถุอายุกว่าพันปี ถูกขนนำมาทิ้งกองขยะ ด้านหลังองค์พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช
ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พบกองหินเก่าถูกนำไปทิ้งไว้ที่จุดทิ้งขยะหลังวิหาร ด้านหลังองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ที่รอเจ้าหน้าที่เก็บขยะของเทศบาลนครนครศรีธรรมราชมาเก็บไปทิ้ง โดยกองหินดังกล่าวมีนายสุรเชษฐ์ แก้วสกุล นักวิชาการประวัติศาสตร์ศิลป์ บันทึกภาพเผยแพร่ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า “หินแกรนิตนี้จะใช้ในส่วนกรอบประตูกับทับหลังประตู นิยมมากในสมัยตามพรลิงค์ช่วงหลัง ในราว พ.ศ.1,700-1,800” เป็นช่วงเดียวกับองค์พระบรมธาตุที่เห็นในปัจจุบัน และสันนิษฐานน่าจะเป็นโครงสร้างของวิหารสักหลังในเขตวัดเมื่อ 700 ปีก่อน ที่มีรูปแบบสัมพันธ์กับสถาปัตย์ลังกา แม้ว่าจะดูไม่มีลวดลายอะไร แต่มีคุณค่าสูงมากในทางประวัติศาสตร์
พร้อมกันนั้นยังส่งข่าวให้ช่วยแจ้งผู้ที่รื้อนำมากองทิ้งให้ทราบ เพื่อช่วยกันเคลื่อนย้ายกลับไปวางให้ถูกที่ถูกทาง โดยชิ้นหินแกรนิตนี้พบว่าบางชิ้นมีการแกะสลักคล้ายลักษณะ “สลักเดือย” ยึดกับฐานหรือสิ่งปลูกสร้าง สอดคล้องกับข้อคิดเห็นของนักวิชาการ ขณะเดียวกันบางชิ้นยังมีร่องรอยของการแกะสลักลวดลายบางอย่าง แต่ลางเลือนไปมากแล้ว และผู้พบเห็นหลายคนยืนยันว่าเคยวางอยู่บริเวณมุมองค์เจดีย์ราย ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งแต่เดิมจุดนั้นเคยมีสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่ แต่ปรักหักพังไปนานมากแล้ว สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นโครงสร้างในจุดดังกล่าว
ขณะที่ นายเฉลิม จิตรามาศ ประชาสัมพันธ์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ระบุว่า การเข้าไปเคลื่อนย้ายชุดหินโบราณนี้ออกมาเข้าใจว่าเป็นการดำเนินการของผู้ที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มจิตอาสามรดกโลก ที่เข้ามาปรับปรุงในบริเวณวัด สำหรับปัญหาในขณะนี้คือต้องนำเรียนให้พระธรรมวชิรากร เจ้าอาวาส ทราบ เพื่อพิจารณาสั่งการ อย่างไรก็ตาม นายเฉลิม ยังมองว่าความเป็นมรดกโลกนั้นเกี่ยวข้องกับทุกส่วน ควรจัดให้อยู่ในที่ที่เหมาะสม.-สำนักข่าวไทย