บุรีรัมย์ 21 ก.ย. – สามีภรรยาบุกสาดน้ำกรดนักเรียนหญิง ม.6 ที่บุรีรัมย์ แม้ผู้ก่อเหตุจะถูกจับแล้ว แต่ทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ ทำให้แม่ผู้เสียหายกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงขอความช่วยเหลือจากทนายอั๋นบุรีรัมย์ ลูกสาวตอนนี้สภาพจิตใจย่ำแย่มาก เหมือนตายทั้งเป็น
คดีนี้เกิดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา มีรถยนต์เก๋งสีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองนางรอง จ.บุรีรัมย์ จากนั้นผู้ก่อเหตุ 2 คน สวมชุดดำและไอ้โม่งปิดบังใบหน้า ถือถังใส่น้ำกรดบุกเข้าไปสาดใส่นักเรียนหญิง ม.6 อายุ 18 ปี ชั้น ม.6 ขณะนั่งกินข้าวอยู่กับยาย และน้าชาย ถูกน้ำกรดสาดทั้งที่ใบหน้า ดวงตา หน้าอก ลำตัว บาดเจ็บสาหัส ส่วนยายและน้าชายก็ถูกน้ำกรดกระเด็นใส่เช่นกัน แต่อาการไม่หนักเท่านักเรียนหญิง
หลังเกิดเหตุ ตำรวจไล่ดูกล้องวงจรปิด จนกระทั่งตามผู้ก่อเหตุได้ที่ จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา คือ นายเจษฎาภรณ์ อายุ 21 ปี และ น.ส.อังคณา อายุ 25 ปี เป็นสามีภรรยากัน ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส เบื้องต้น ทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ แต่ตำรวจยืนยันมีหลักฐานมัดแน่น และตอนนี้ถูกฝากขังอยู่ที่เรือนจำนางรอง
จากข้อมูลพบว่า นายเจษฎาภรณ์ เป็นแฟนเก่านักเรียนหญิงคนดังกล่าว ส่วน น.ส.อังคณา เป็นภรรยาใหม่ของนายเจษฎาภรณ์ ทั้งคู่เคยถูกครอบครัวของนักเรียนหญิงแจ้งความกล่าวหาฐานพรากผู้เยาว์ และทำให้เสียทรัพย์จนถึงขั้นขึ้นศาล แต่คดีจบไปแล้ว ส่วนการก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าน่าจะแก้แค้นเรื่องคดีเก่า หรืออาจมีเหตุจูงใจอื่นด้วย แต่ทั้งคู่ยังไม่ยอมปริปาก
วันนี้ (21 ก.ย.66) นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋นบุรีรัมย์ ไปเยี่ยมผู้เสียหายที่ รพ.บุรีรัมย์ หลังจากแม่ของน้องได้ติดต่อขอความช่วยเหลือ เพราะเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากผู้ก่อเหตุให้การภาคเสธ แม่บอกว่าลูกสาวเหมือนตายทั้งเป็น เพราะถูกน้ำกรดใบหน้าเสียโฉม ดวงตาก็ไม่รู้ว่าจะกลับมามองเห็นได้เหมือนเดิมหรือไม่ ตามร่างกายก็มีแต่รอยไหม้และแผลเป็นจากฤทธิ์น้ำกรด ต้องนอนรักษาตัวตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงตอนนี้เกือบเดือนแล้ว สภาพจิตใจย่ำแย่ สงสารลูกสาวมาก สิ่งที่กังวลคือเรื่องคดี เพราะครอบครัวคู่กรณีค่อนข้างมีฐานะและมีการตั้งทนายสู้ ตนเองไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร
ทนายอั๋นบุรีรัมย์ บอกว่า สงสารน้องมาก โดยเฉพาะดวงตาที่ไม่รู้จะมองเห็นปกติหรือไม่ รวมทั้งใบหน้าก็เสี่ยงเสียโฉม ตนเองพร้อมเข้ามาดูแลเรื่องคดีและเดินเรื่องเรียกร้องเงินเยียวยาให้กับน้อง ยืนยันจะช่วยเหลือให้น้องและครอบครัวได้รับความเป็นธรรมอย่างเต็มที่. – สำนักข่าวไทย