นนทบุรี 30 ส.ค. – ศาลจังหวัดนนทบุรี นัดพิพากษาคดีแม่และพ่อเลี้ยงโหดทำร้าย “น้องเจ้าขา-น้องพีพี” เมื่อเดือนกันยายนปี 2565 พ่อหวังศาลจะตัดสินประหารชีวิตทั้งสองคน ขณะที่ “น้องเจ้าขา” อาการดีขึ้น เริ่มเรียก ป๊ะป๋า เรียกย่าได้แล้ว
จากกรณีพ่อและย่า “น้องเจ้าขา” และ “น้องพีพี” เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565 เพื่อให้ช่วยติดตามคดี หลัง “น้องเจ้าขา” วัย 3 ขวบ ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส และแจ้งความตำรวจ สภ.บางบัวทอง แต่คดีไม่มีความคืบหน้า นอกจากนี้ยังพบว่า “น้องพีพี” วัย 2 ขวบ ก็เสียชีวิตปริศนาไปก่อนหน้านี้ จนตำรวจจับกุมและดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 2 คน คือ น.ส.ณัธรวิชณ์ อายุ 27 ปี แม่แท้ๆ ของน้องเจ้าขาและน้องพีพี กับนายทินกร อายุ 29 ปี พ่อเลี้ยง ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
เช้าวันนี้ (30 ส.ค.) ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี นายปิยณัฐ สุกยัง ทนายความเครือข่ายรณณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วยนายณัฐพล พ่อของน้องเจ้าขาและน้องพีพี มาร่วมฟังคำพิพากษาตัดสินในคดี โดยโจทก์พนักงานอัยการยื่นฟ้องแม่ของน้องเจ้าขา เป็นจำเลยที่ 1 และนายทินกร พ่อเลี้ยง เป็นจำเลยที่ 2 นอกจากพ่อแล้ว ยังมีญาติๆ ของเด็กน้อยทั้งสองมารอฟังคำตัดสินด้วย
พ่อน้องเจ้าขา บอกว่า อยากให้ตัดสินประหารชีวิต แต่จำเลยทั้งสองคนรับสารภาพ กังวลว่าเขาจะหลุดคดี หรือได้รับโทษน้อยไป กลัวว่าเมื่อพ้นโทษออกมาจะเป็นภัยกับสังคม ขนาดลูกตัวเองยังทำได้ขนาดนี้ ด้านน้องเจ้าขา ตอนนี้อาการดีขึ้น ค่อยๆ ตอบสนอง เริ่มเรียก ป๊ะป๋า เรียกย่าได้แล้ว พยายามทำกายภาพบำบัดให้น้อง ส่วนที่โดนทำร้ายที่ศีรษะ ต้องรอหมอนัดตรวจอีกครั้ง
ด้านทนายความกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ชั้นพนักงานสอบสวน จำเลยทั้ง 2 คน ให้การปฏิเสธมาตลอด จนมาถึงชั้นศาล ทั้งสองคนกลับคำให้การเป็นยอมรับสารภาพ โดยบอกว่าเพราะอยากกลับตัวกลับใจ แต่ในมุมของฝ่ายตนมองว่าเป็นการกระทำเพื่อให้ได้ลดโทษ เนื่องจากพยานหลักฐาน รวมทั้งจากแพทย์ที่รักษาเด็ก ค่อนข้างจะครบถ้วน คดีนี้ไม่กังวล เชื่อว่าศาลต้องตัดสินลงโทษอยู่แล้ว แต่จะหนักเบาแค่ไหนต้องรอฟังคำตัดสิน. – สำนักข่าวไทย