ศบ.ทก. ย้ำไทยเปิด-ปิดด่านเข้ม แต่คำนึงด้านมนุษยธรรม

ทำเนียบ 26 มิ.ย.-ศบ.ทก. ย้ำไทยเปิด-ปิดด่านเข้ม แต่คำนึงถึงความจำเป็นด้านมนุษยธรรม เผยผลหารือนำชาวกัมพูชาข้ามกลับประเทศเรียบร้อย 722 คน พร้อมวางมาตรการเยียวยาประชาชนในพื้น-ผู้ประกอบการ หลังกัมพูชาระงับนำเข้าน้ำมันจากไทย

เมื่อเวลา 12.00 น. 26 มิ.ย.68 นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และพล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย แถลงภายหลังการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ประจำวัน พฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน 2568


โดยนางมาระตี กล่าวว่า ที่ประชุม ศบ.ทกรับรายงานหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ที่รับผิดชอบการบริหารจุดผ่านแดนต่างๆตามนโยบายของ ศบ.ทก. เพื่อติดตามการยกระดับความเข้มข้นการควบคุมด่าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และตามที่อาจเห็นในสื่อสังคมออนไลน์ว่าบางจุด(ด่านบ้านคลองลึก อ. อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ) มีชาวกัมพูชารอข้ามกลับประเทศ ฝ่ายไทยได้มีการหารือกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อสามารถขยายเวลาการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา โดยได้บริหารจัดการผ่านไปด้วยความเรียบร้อย และมีชาวกัมพูชาในจุดนั้นจำนวน 722 คน ข้ามแดนได้

นางมาระตี ยังกล่าวว่า แม้มาตรการต่างๆ จะเพิ่มความเข้มงวดขึ้นสำหรับผู้ผ่านแดนทั้ง 2 ประเทศรวมถึงชาวต่างชาติ อื่นๆ และมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด แต่ขอยืนยันว่าการผ่านแดนเพื่อความจำเป็นด้านมนุษยธรรมโดยเฉพาะกรณีผู้ป่วยเข้ามารักษาพยาบาล นักเรียน นักศึกษา เข้ามาเรียนหนังสือ และการจับจ่ายใช้สอยเพื่อชีวิตประจำวันของประชาชนทั้งสองฝ่ายยังคงดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง โดยขอให้สบายใจกรณี เจ็บป่วยฉุกเฉินฝ่ายไทยพร้อมอำนวยความสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง


ขอให้ทุกคนมั่นใจว่าการดำเนินการทุกอย่างของรัฐบาลไทยเป็นไปตามกระบวนการขั้นตอน มีการประสานข้อมูลที่ได้รับจากหน่วยงานทุกฝ่ายในพื้นที่ทุกวัน และยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก ตั้งอยู่บนพื้นฐานธรรมและสิทธิมนุษยชนตามที่ฝ่ายไทยปฏิบัติมาโดยตลอด ในขณะที่ไทยยังอยู่ในระหว่างการเป็นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน แห่งสหประชาชาติ ย่อมเพิ่มความรับผิดชอบของไทยในเรื่องดังกล่าว

ส่วนเรื่องมาตรการเยียวยาทางเศรษฐกิจที่ประชุม ศบ.ทก. ได้หารือถึงแนวทางบริหารผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการช่วยเหลือภาคเอกชนและผู้ประกอบการไทยในกัมพูชาที่ได้รับผลกระทบ จากการที่ฝ่ายกัมพูชาระงับการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงจากประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการให้ข้อมูลพิจารณาทางเลือกต่างๆ พร้อมเตรียมการรับมือค่าใช้จ่ายที่อาจจะเพิ่มขึ้น พื้นที่รองรับสินค้าและการบริหารสถานการณ์ ในส่วนของพื้นที่ชายแดนที่ประชุมรับฟังจากหน่วยงานต่างๆของศูนย์สั่งการชายแดนของแต่ละจังหวัด โดยการอำนวยการของผู้ว่าราชการจังหวัด ที่อำนวยความสะดวกเรื่องการจำหน่ายสินค้าและช่วยเหลือเกษตร ฝ่ายความมั่นคงจะมีการให้รายละเอียดในเรื่องนี้

ด้านพล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า ในส่วนของความมั่นคงขอเน้นย้ำเรื่องกลไกของประเทศไทยเป็นเอกภาพและเป็นขั้นเป็นตอน โดยมีมาตรการที่ไทยกำหนดมาจากมติของสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ซึ่งมีผู้แทนระดับสูงของหน่วยงานต่างๆ สั่งผ่านการปฎิบัติของ ศบ.ทก. การสั่งการจะถูกสั่งการไปยังกองทัพ ซึ่งมีหน่วยกองกำลังป้องกันตามแนวชายแดนในพื้นที่ ซึ่ง ศบ.ทก. มีหน้าที่ในการช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบใน รวมถึงผู้ประกอบการทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงการขนขนส่งสินค้าข้ามแดน


พล.ร.ต.สุรสันต์ ยังกล่าวว่า ที่ผ่านมามาตรการในการเปิด-ปิดด่านได้ถูกยกระดับให้เข้มข้นขึ้น ซึ่งไทยได้คำนึงถึงการดำเนินการตามหลักสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง ประชาชนในพื้นที่ทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชาสามารถเดินทางกลับประเทศได้ และสามารถเข้ามาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคได้ โดยหน่วยงานในพื้นที่ยังดำเนินการอย่างเข้มงวดในการกวดขันผู้ผ่านการเข้า ออกพื้นที่ และจากข่าวที่ปรากฏมีการจับกุมชาวกัมพูชา2 คน เป็นการดำเนินการต่อ ผู้กระทำผิดกฎหมายคนเข้าเมือง ซึ่งเป็นกฎหมายที่ยังมีผลบังคับใช้ตามปกติ โดยรายแรก ไม่มีใบอนุญาตเข้าเมือง อีกหนึ่งรายเป็นผู้ที่อยู่เกินช่วงเวลาที่อนุญาต หรือ โอเวอร์สเตย์

ส่วนมาตรการเยียวยา ประชาชนผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ นั้น ศบ.ทก. ได้ร่วมหารือกับผู้แทนหน่วยที่รับผิดชอบในการจัดส่งสินค้าตามช่องทางต่างๆ ทั้งศุลกากร กรมเจ้าท่า การท่าเรือแห่งประเทศไทย ซึ่งทุกหน่วยมีความพร้อมในการดำเนินมาตรการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ และจะมีรายละเอียดออกมาอีกครั้ง

นอกจากนี้กระทรวงมหาดไทย ยังได้สั่งการศูนย์สั่งการชายแดนเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบตามชายแดน โดยวันนี้(26 มิ.ย.) ศูนย์สั่งการฯ จังหวัดอุบลราชธานี ได้ชี้แจงช่องทางในการจำหน่ายเครื่องอุปโภคบริโภค การประสานงานกับห้างร้าน สถานที่จำหน่ายสินค้าการจัดงานในช่วงเทศกาลต่างๆรวมถึงเปิดช่องทางร้องเรียนให้กับประชาชน โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดได้มีการประสานงานกับเครือข่ายพาณิชย์จังหวัดในจังหวัดใกล้เคียง และจังหวัดชายแดนในการนำผลิตภัณฑ์ของจังหวัดต่างๆจำหน่ายด้วย

พล.ร.ต.สุรสันต์ ยืนยันว่า รัฐบาลไทยดำความเป็นเอกภาพในการดำเนินการ และวันนี้นายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว เพื่อติดตามสถานการณ์และรับฟังทุกข์สุขของประชาชนรวมถึงตรวจเยี่ยมให้ขวัญและกำลังใจกองกำลังป้องกันชายแดนและผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]