ศบ.ทก. ย้ำไทยเปิด-ปิดด่านเข้ม แต่คำนึงด้านมนุษยธรรม

ทำเนียบ 26 มิ.ย.-ศบ.ทก. ย้ำไทยเปิด-ปิดด่านเข้ม แต่คำนึงถึงความจำเป็นด้านมนุษยธรรม เผยผลหารือนำชาวกัมพูชาข้ามกลับประเทศเรียบร้อย 722 คน พร้อมวางมาตรการเยียวยาประชาชนในพื้น-ผู้ประกอบการ หลังกัมพูชาระงับนำเข้าน้ำมันจากไทย

เมื่อเวลา 12.00 น. 26 มิ.ย.68 นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และพล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย แถลงภายหลังการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ประจำวัน พฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน 2568


โดยนางมาระตี กล่าวว่า ที่ประชุม ศบ.ทกรับรายงานหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ที่รับผิดชอบการบริหารจุดผ่านแดนต่างๆตามนโยบายของ ศบ.ทก. เพื่อติดตามการยกระดับความเข้มข้นการควบคุมด่าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และตามที่อาจเห็นในสื่อสังคมออนไลน์ว่าบางจุด(ด่านบ้านคลองลึก อ. อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ) มีชาวกัมพูชารอข้ามกลับประเทศ ฝ่ายไทยได้มีการหารือกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อสามารถขยายเวลาการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา โดยได้บริหารจัดการผ่านไปด้วยความเรียบร้อย และมีชาวกัมพูชาในจุดนั้นจำนวน 722 คน ข้ามแดนได้

นางมาระตี ยังกล่าวว่า แม้มาตรการต่างๆ จะเพิ่มความเข้มงวดขึ้นสำหรับผู้ผ่านแดนทั้ง 2 ประเทศรวมถึงชาวต่างชาติ อื่นๆ และมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด แต่ขอยืนยันว่าการผ่านแดนเพื่อความจำเป็นด้านมนุษยธรรมโดยเฉพาะกรณีผู้ป่วยเข้ามารักษาพยาบาล นักเรียน นักศึกษา เข้ามาเรียนหนังสือ และการจับจ่ายใช้สอยเพื่อชีวิตประจำวันของประชาชนทั้งสองฝ่ายยังคงดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง โดยขอให้สบายใจกรณี เจ็บป่วยฉุกเฉินฝ่ายไทยพร้อมอำนวยความสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง


ขอให้ทุกคนมั่นใจว่าการดำเนินการทุกอย่างของรัฐบาลไทยเป็นไปตามกระบวนการขั้นตอน มีการประสานข้อมูลที่ได้รับจากหน่วยงานทุกฝ่ายในพื้นที่ทุกวัน และยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก ตั้งอยู่บนพื้นฐานธรรมและสิทธิมนุษยชนตามที่ฝ่ายไทยปฏิบัติมาโดยตลอด ในขณะที่ไทยยังอยู่ในระหว่างการเป็นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน แห่งสหประชาชาติ ย่อมเพิ่มความรับผิดชอบของไทยในเรื่องดังกล่าว

ส่วนเรื่องมาตรการเยียวยาทางเศรษฐกิจที่ประชุม ศบ.ทก. ได้หารือถึงแนวทางบริหารผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการช่วยเหลือภาคเอกชนและผู้ประกอบการไทยในกัมพูชาที่ได้รับผลกระทบ จากการที่ฝ่ายกัมพูชาระงับการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงจากประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการให้ข้อมูลพิจารณาทางเลือกต่างๆ พร้อมเตรียมการรับมือค่าใช้จ่ายที่อาจจะเพิ่มขึ้น พื้นที่รองรับสินค้าและการบริหารสถานการณ์ ในส่วนของพื้นที่ชายแดนที่ประชุมรับฟังจากหน่วยงานต่างๆของศูนย์สั่งการชายแดนของแต่ละจังหวัด โดยการอำนวยการของผู้ว่าราชการจังหวัด ที่อำนวยความสะดวกเรื่องการจำหน่ายสินค้าและช่วยเหลือเกษตร ฝ่ายความมั่นคงจะมีการให้รายละเอียดในเรื่องนี้

ด้านพล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า ในส่วนของความมั่นคงขอเน้นย้ำเรื่องกลไกของประเทศไทยเป็นเอกภาพและเป็นขั้นเป็นตอน โดยมีมาตรการที่ไทยกำหนดมาจากมติของสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ซึ่งมีผู้แทนระดับสูงของหน่วยงานต่างๆ สั่งผ่านการปฎิบัติของ ศบ.ทก. การสั่งการจะถูกสั่งการไปยังกองทัพ ซึ่งมีหน่วยกองกำลังป้องกันตามแนวชายแดนในพื้นที่ ซึ่ง ศบ.ทก. มีหน้าที่ในการช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบใน รวมถึงผู้ประกอบการทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงการขนขนส่งสินค้าข้ามแดน


พล.ร.ต.สุรสันต์ ยังกล่าวว่า ที่ผ่านมามาตรการในการเปิด-ปิดด่านได้ถูกยกระดับให้เข้มข้นขึ้น ซึ่งไทยได้คำนึงถึงการดำเนินการตามหลักสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง ประชาชนในพื้นที่ทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชาสามารถเดินทางกลับประเทศได้ และสามารถเข้ามาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคได้ โดยหน่วยงานในพื้นที่ยังดำเนินการอย่างเข้มงวดในการกวดขันผู้ผ่านการเข้า ออกพื้นที่ และจากข่าวที่ปรากฏมีการจับกุมชาวกัมพูชา2 คน เป็นการดำเนินการต่อ ผู้กระทำผิดกฎหมายคนเข้าเมือง ซึ่งเป็นกฎหมายที่ยังมีผลบังคับใช้ตามปกติ โดยรายแรก ไม่มีใบอนุญาตเข้าเมือง อีกหนึ่งรายเป็นผู้ที่อยู่เกินช่วงเวลาที่อนุญาต หรือ โอเวอร์สเตย์

ส่วนมาตรการเยียวยา ประชาชนผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ นั้น ศบ.ทก. ได้ร่วมหารือกับผู้แทนหน่วยที่รับผิดชอบในการจัดส่งสินค้าตามช่องทางต่างๆ ทั้งศุลกากร กรมเจ้าท่า การท่าเรือแห่งประเทศไทย ซึ่งทุกหน่วยมีความพร้อมในการดำเนินมาตรการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ และจะมีรายละเอียดออกมาอีกครั้ง

นอกจากนี้กระทรวงมหาดไทย ยังได้สั่งการศูนย์สั่งการชายแดนเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบตามชายแดน โดยวันนี้(26 มิ.ย.) ศูนย์สั่งการฯ จังหวัดอุบลราชธานี ได้ชี้แจงช่องทางในการจำหน่ายเครื่องอุปโภคบริโภค การประสานงานกับห้างร้าน สถานที่จำหน่ายสินค้าการจัดงานในช่วงเทศกาลต่างๆรวมถึงเปิดช่องทางร้องเรียนให้กับประชาชน โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดได้มีการประสานงานกับเครือข่ายพาณิชย์จังหวัดในจังหวัดใกล้เคียง และจังหวัดชายแดนในการนำผลิตภัณฑ์ของจังหวัดต่างๆจำหน่ายด้วย

พล.ร.ต.สุรสันต์ ยืนยันว่า รัฐบาลไทยดำความเป็นเอกภาพในการดำเนินการ และวันนี้นายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว เพื่อติดตามสถานการณ์และรับฟังทุกข์สุขของประชาชนรวมถึงตรวจเยี่ยมให้ขวัญและกำลังใจกองกำลังป้องกันชายแดนและผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

เปิด 13 ข้อตกลงหยุดยิง ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องรักษาสันติภาพ

มาเลเซีย 7 ส.ค.-เสร็จสิ้นแล้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ 2 ชาติ เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้1.ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี2.รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย3.ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา4.ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่ 28 ก.ค.68 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน5.ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกกรณี6.การปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา: การปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว การขอส่งตัวผู้บาดเจ็บมารักษาในสถานพยาบาลของอีกฝ่าย โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการรองรับของสถานพยาบาลแล้วแต่กรณี สำหรับทหารที่อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศ หลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติโดยเร็ว และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและด้วยความเคารพ7.กรณีมีความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการขยายตัวของสถานการณ์8.เห็นชอบให้เพิ่มในเรื่องของการปฏิบัติดังนี้8.1 ดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่8.2 จัดการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์ นับจากการประชุม […]

แม่ทัพภาค 2 เชื่อผลประชุม GBC เป็นทิศทางที่ดี

7 ส.ค. – มทภ.2 ขอรอผลอย่างเป็นทางการหลังประชุม GBC เชื่อจะไปในทิศทางที่ดี เมิน “ฮุนเซน” ขอไทยงดใช้ F-16 ร้องนานาชาติ หยุดขายเครื่องบินรบให้ไทย ส่วนกรณีสายลับเขมร รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบอุปกรณ์โดรนโลเคเตอร์ เครื่องจับพิกัดตัวโดรน รวม 30 เครื่อง มูลกว่า 8 ล้านบาท เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงของใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปมอบให้ทหารแนวหน้า จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะได้ข้อสรุปในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พลโท บุญสิน บอกว่ารอการชี้แจงอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะดีขึ้น ย้ำว่า ในข้อเสนอ 8 เรื่อง 6 ประเด็น ตนให้ความสำคัญ ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก เน้นย้ำให้ทหารหน้าแนวตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และตรึงกำลังไว้ตลอด เรื่องแผ่นดินไม่สามารถคุมได้ด้วยเครื่องมือ ต้องใช้คนเฝ้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของกัมพูชาแล้ว เราจะต้องประกบไว้แบบนี้ […]

พล.อ.ณัฐพล เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.-พล.อ.ณัฐพล รมช.กห. เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session of Thailand […]

“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด จับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาส

กทม. 7 ส.ค.-“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด บุกจับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก๊วนกิ๊กเก่า “สีกากอล์ฟ” หลังพบทุจริตยักยอกเงินวัด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปาตแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาฯ ป.ป.ท. นำกำลังตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “กอล์ฟทีม EP.1” บุกค้นเป้าหมาย 3 จุด ใน จ.สุราษฎร์ธานี จ.พิจิตร และ จ.สมุทรสงคราม เพื่อจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ และ คนใกล้ชิด ที่เคยพัวพันสัมพันธ์ฉาวสีกากอล์ฟ หลังพบกระทำผิดทุจริตยักยอกเงินวัดมาใช้ดูแลสีกา เป้าหมายจุดแรกที่เข้าตรวจค้นเป็นสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทิวากร ดีไพร หรือ […]