รวบโจ๋ปาระเบิดปิงปองใส่อริ เจ็บสาหัสต้องตัดขาทิ้ง

ฉะเชิงเทรา 28 มิ.ย. – รวบโจ๋ 2 กลุ่ม ปาระเบิดปิงปองใส่กันกลางเมืองฉะเชิงเทรา จนมีผู้บาดเจ็บถึงขึ้นต้องตัดขาทิ้ง ต่างฝ่ายต่างอ้างถูกยั่วยุก่อน ตำรวจดำเนินคดีทั้ง 2 ฝ่าย


เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเย็น เมื่อวานนี้ (27 มิ.ย.) ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา วัยรุ่นกลุ่มแรก มีกัน 4 คน ขี่รถจักรยานยนต์ มา 2 คัน ส่วนคู่กรณีมากัน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาเหมือนกัน จากนั้นก็ปาระเบิดใส่กัน จนมีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 คน ถูกระเบิดบริเวณขาขวาเละจนเกือบขาด เพื่อนๆ รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่ตำรวจได้ติดตามตัวคนที่ปาระเบิด และสามารถจับตัวได้ทันควัน นอกจากนี้ยังติดตามตัวผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ครบทั้ง 2 ฝ่าย รวมทั้งหมด 6 คน

สำหรับผู้บาดเจ็บสาหัส อายุ 19 ปี อยู่ในกลุ่มวัยรุ่น 4 คน ทั้งหมดเป็นนักเรียน กศน. โดยผู้บาดเจ็บนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่มีชายอายุ 17 ปี เป็นคนขี่ และได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยบริเวณแขน ส่วนรถจักรยานยนต์อีกคันที่มาด้วยกัน คือ ชายอายุ 17 ปี 2 คน ส่วนคู่กรณีที่ปาระเบิดใส่ผู้บาดเจ็บ คือ เยาวชน อายุ 16 ปี เป็นนักเรียนอาชีวะแห่งหนึ่งในบางปะกง เป็นคนซ้อนท้าย โดยมี ด.ช. อายุ 14 ปี เป็นผู้ขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งเด็ก 14 ปีคนนี้ไม่ได้เรียนหนังสือ


พ.ต.อ.สาธิต มิตรรัก ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา บอกว่า จากการสอบสวนคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน แต่ขี่รถจักรยายนต์มาเจอหน้ากัน จากนั้นมีการยั่วยุท้าทายกัน ทำให้กลุ่มของเยาวชน 16 ปี และ 14 ปี กลับไปเอาระเบิดปิงปองประดิษฐ์เองจากที่บ้าน แล้วกลับมาหากลุ่มคู่กรณีอีกครั้ง เมื่อขี่รถจักรยานยนต์มาเจอกันอีกครั้ง ทางกลุ่มผู้บาดเจ็บเป็นฝ่ายปาระเบิดปิงปองใส่ก่อน จากนั้นเยาวชน 16 ปี ได้ปาระเบิดสวนกลับไป จนทำให้ชายวัย 19 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ตำรวจตั้งข้อหาทั้ง 2 ฝ่าย โดยฝ่ายกลุ่มผู้บาดเจ็บ ตั้งข้อหาร่วมกันพยายามทำร้ายร่างกายผู้อื่น ร่วมกันพาอาวุธมีดฯ ร่วมกันมีวัตถุระเบิดฯ ร่วมกันทำให้เกิดระเบิดจนเป็นอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ของผู้อื่น และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ส่วนฝ่ายของผู้ก่อเหตุ ตั้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายแก่กายสาหัส ร่วมกันมีวัตถุระเบิดฯ ร่วมกันทำให้เกิดระเบิดจนเป็นอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ของผู้อื่น และ ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์

ส่วนอาการของผู้บาดเจ็บ แพทย์ต้องตัดขาขวาช่วงหน้าแข้งทิ้ง เพราะกระดูกแตก ไม่สามารถต่อกลับคืนมาได้ หลังจากอาการดีขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามกฎหมาย และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ทางตำรวจและศึกษาธิการจังหวัดฉะเชิงเทรา นัดหมายประชุมร่วมกับวิทยาลัยในพื้นที่ เพื่อวางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม