ระยอง 9 มิ.ย. – สัตวแพทย์สาวผวา ชายนิรนามบุกป่วนคลินิกกลางดึก ใช้โซ่ฟาดกล้องวงจรปิดและขโมยของ ตกใจกลัวรีบโทรแจ้ง 191 งง! พ่ออยู่ไกลกว่า 20 กม. แต่มาถึงก่อนตำรวจ
ผู้เสียหาย คือ สัตวแพทย์สาว นำภาพวงจรปิดชายนิรนามที่ก่อเหตุโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุข้อความว่า “ไม่เคยกลัวตายเท่านี้มาก่อนเลย เรื่องเกิดเมื่อคืนตอนตี 4 กว่า เกือบตี 5 เรานอนอยู่ได้ยินเสียงเหมือนคนทำอะไรปังๆ นอกร้าน เปิดกล้องวงจรปิดดู เห็นผู้ชายกำลังเอาโซ่ยาวๆ ฟาดทำลายกล้องวงจรปิด ตอนนั้นกลัวมากถึงมากที่สุด รีบกดเบอร์ 191 ปรากฏสายไม่ว่าง ไม่มีคนรับ สักพักสายตัด ก่อนชายคนก่อเหตุจะเอาหน้ามาแนบประตู-หน้าต่างกระจก โชคดีที่โทรหาเพื่อนติด เพื่อนรีบส่งเบอร์ สน.ใกล้ๆ มาให้ ตำรวจรับสายด้วยความงัวเงีย บอกจะประสานงานให้ ประมาณตี 5 นิดๆ ไม่ได้รีบร้อนกับเรา โทรหาพ่อที่บ้านอยู่ไกลกว่าสถานีตำรวจมาก ปรากฏพ่อมาถึงก่อนตำรวจ ส่วนตำรวจมาเกือบ 6 โมง ความเสียหาย คือ กล้องวงจรปิด 1 ตัว ที่ถูกฟาดจนแหงนหน้าขึ้นฟ้า ไอติมในตู้เย็นหายไป 1 แท่ง ลิโพหายไป 1 ขวด”
เมื่อวานนี้ (8 มิ.ย.66) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่คลินิกรักษาสัตว์แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง พบสัตวแพทย์หญิงเจ้าของคลินิกรักษาสัตว์และเจ้าของโพสต์ พาดูสถานที่เกิดเหตุ พร้อมเล่าเหตุการณ์วินาทีชายปริศนาบุกบ้านว่า เมื่อเวลา 05.00 น. ของวันที่ 8 มิ.ย. มีชายอายุราว 25-30 ปี บุกเข้ามาที่บ้าน ซึ่งเปิดเป็นคลินิกรักษาสัตว์ด้วย และพยายามเอาโซ่มาฟาดที่กล้องวงจรปิด เอาหน้ามาแนบกับหน้าต่าง เพื่อส่องดูว่ามีคนอยู่ในบ้านหรือไม่ ช่วงนั้นตนตกใจมาก กลัวจนตัวสั่น จึงไปแอบอยู่หลังตู้เสื้อผ้าและไม่ส่งเสียง พร้อมทั้งพยายามกดเบอร์ 191 เพื่อแจ้งตำรวจขอความช่วยเหลือ แต่ปรากฏว่าสายไม่ว่าง ไม่มีคนรับสาย หลังจากนั้นได้โทรหาพ่อ ซึ่งบ้านพ่ออยู่ไกลจากที่พักตนประมาณ 20 กิโลเมตร แต่ปรากฏว่าพ่อมาถึงก่อนตำรวจ
จนเวลา 06.00 น. ตำรวจจึงมาถึงหน้าบ้าน และถามตนว่า ใช่คนที่เพิ่งสวนทางกันไปหรือไม่ ตนบอกว่าใช่ และถามว่าให้จับเลยได้ไหม ตำรวจบอกว่าจับไม่ได้ เพราะเป็นคนบ้า จับไปก็ต้องปล่อยออกมา ยอมรับกลัวมาก ไม่รู้จะทำอย่างไร กลัวชายคนนี้กลับมาอีก หากเป็นคนบ้าก็อยากให้จับไปบำบัด และไม่ต้องให้กลับมาอีก
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.วีพงษ์ กงแก้ว ผู้กำกับการ สภ.เมืองระยอง ลงพื้นที่ไปตรวจสอบด้วยตนเอง เบื้องต้นได้สั่งการให้ชุดสืบสวนและสายตรวจ สภ.เมืองระยอง ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อเร่งรัดหาตัวคนก่อเหตุ หากเป็นคนปกติจะนำตัวมารับโทษดำเนินคดี หากเป็นคนเร่ร่อน หรือคนบ้า จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มารับตัวและดำเนินการรักษาต่อไป ระหว่างนี้จะส่งสายตรวจมาตรวจเป็นระยะ ทั้งที่บ้านและที่คลินิก เพื่อให้สัตวแพทย์สาวสบายใจ รู้สึกปลอดภัยและคลายกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้น. – สำนักข่าวไทย