ผู้สมัครและว่าที่ ส.ส.เพื่อไทย ขอบคุณชาวเชียงใหม่

เชียงใหม่ 18 พ.ค. – ผู้สมัครและว่าที่ ส.ส.เพื่อไทย ขอบคุณชาวเชียงใหม่ พร้อมจับมือก้าวไกล เดินหน้าแก้ PM 2.5 ทันที


ผลการเลือกตั้งรอบนี้ที่ จ.เชียงใหม่ ปรากฏว่าพรรคเพื่อไทยเหลือที่นั่ ส.ส.เพียง 2 ที่นั่ง จากเดิมเคยชนะเกือบยกจังหวัด “จุลพันธ์” ว่าที่ ส.ส.เพื่อไทย ขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากประชาชน มองปรากฏการณ์ส้มสะท้อนความต้องการประชาธิปไตยของประชาชน ส่วน “จักรพล” ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พรรคเพื่อไทย ที่แพ้ บอกพร้อมจับมือก้าวไกลทำหน้าที่ต่อเพื่อชาวเชียงใหม่ โดยเฉพาะการแก้ปัญหา PM 2.5

หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ ประกาศผลผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล มีคะแนนสูงสุด ชนะ 7 เขต คือ เขต 1, 2, 3, 4, 6, 7 และเขต 8 จากทั้งหมด 10 เขต ซึ่งอดีตพรรคเพื่อไทยได้ ส.ส. เกือบยกจังหวัด แต่มารอบนี้พรรคเพื่อไทยได้เพียง 2 ที่นั่ง คือ เขต 5 และเขต 10 ส่วนเขต 9 พรรคพลังประชารัฐได้ 1 ที่นั่ง


นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 พรรคเพื่อไทย ในฐานะที่ดูแลการเลือกตั้งภาคเหนือ และชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ ขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่เลือกพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าเลือกเขตไหนก็ถือเป็นกำลังใจที่ดีให้เดินหน้าสู้ในอุดมการณ์ประชาธิปไตยที่สู้มาตลอด และขอบคุณทุกคนที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เพื่อเดินหน้าประชาธิปไตยต่อไป

นายจุลพันธ์ มองปรากฏการณ์สีส้มคือสิ่งที่ดี เพราะที่ประชาชนเลือกคือพรรคในแนวทางประชาธิปไตย แสดงว่าทุกคนต้องการเปลี่ยนรัฐบาลกลับเข้าสู่ประชาธิปไตย ที่หลายเขตเป็นของก้าวไกล ยอมรับในการตัดสินใจ มองว่าอาจเป็นเพราะความไม่ชัดเจนของพรรคเพื่อไทยเอง และกระแสที่มาในช่วงโค้งสุดท้ายที่เพื่อไทยตอบกลับไม่ทัน แม้แคนดิเดตจะชี้แจงในบางประเด็นแล้วก็ตาม ในมุมของผู้สมัครมองว่าประชาชนส่งสัญญาณมาทางพรรคว่าทุกคนไม่ได้ปฏิเสธพรรคเพื่อไทย เพียงแต่มีพรรคทางเลือกที่อยู่ในแนวทางประชาธิปไตยมาเพิ่ม จากนี้พรรคเพื่อไทยจะถอดบทเรียนเพื่อตอบโจทย์ให้ประชาชน คือ การแสดงความชัดเจนในเรื่องจุดยืนของพรรคเพื่อไทย ที่ขาดการสื่อสารกับประชาชนที่ดีพอ ต่อไปต้องแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน

ตอนนี้กับพรรคก้าวไกลยังไม่ได้คุยกัน รอทุกอย่างชัดเจน แต่ส่วน ส.ส. ของพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าเหลือกี่ที่ก็พร้อมทำหน้าที่ ยืนยันจะเดินหน้าในสิ่งที่ให้คำมั่นกับประชาชนต่อไป โดยเฉพาะเรื่อง PM 2.5 ขอบ คุณคนที่เลือกพรรคเพื่อไทย เป็นโจทย์ที่จะไปแก้ไขตัวเองเพื่อเป็นตัวเลือกให้ประชาชนต่อไป เราจะกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง เพราะการเลือกตั้งไม่ได้มีแค่รอบเดียว


ส่วนเรื่องการลงพื้นที่ทุกคนเต็มที่ และยุทธศาสตร์พรรคทำดีแล้ว เพราะอยากได้ที่นั่งมากที่สุด แต่การเป็น ส.ส. ต้องไปทำหน้าที่ส่วนกลาง ทำให้ลงพื้นที่อาจมีข้อจำกัด ทุกคนพยายามเต็มที่ ส่วนกระแสลมเริ่มเปลี่ยนทิศ กระแสมาจากส่วนกลาง ทำให้ผู้สมัครหลายคนต้านไม่อยู่ มั่นใจความจริงใจและการทำงานต่อเนื่องยังได้ผล เป็นสิ่งที่ ส.ส. หรือผู้พลาดหวังต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไป เพราะการเป็น ส.ส. คือการพิสูจน์ตัวตนกับประชาชน ส่วนผู้สมัครที่พลาดหวังก็เสียใจเป็นธรรมดา แต่ทุกคนต้องยอมรับผล เพราะเป็นกติกาและมารยาททางการเมือง ที่พรรคยึดไว้มาตลอด วิธีการคือใช้ความผิดหวังเสียใจขับเคลื่อนการทำงานต่อ 4 ปี ครบวาระ เพื่อไทยก็จะกลับมาหาประชาชนอีก และพิสูจน์ความตั้งใจ ความจริงใจอีกครั้ง ที่พรรคดำเนินการตอนนี้ถูกต้องแล้ว นาทีนี้ต้องให้พรรคอันดับ 1 ได้สิทธิในการจัดตั้งรัฐบาล ก็ให้เขาทำให้เต็มที่

ด้านนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 และอดีต ส.ส.เพื่อไทย ที่แพ้การเลือกตั้งให้กับคนรุ่นใหม่ไฟแรงอย่างพรรคก้าวไกล ยอมรับเซอร์ไพรส์เป็นคะแนนที่น่าตกใจ กระแสความนิยมพรรคและคนทำได้ดีถือเป็นนิวโมเดล อยากให้ส่งมาเป็นนโยบายที่แท้จริงได้ เป็นกำลังใจให้ก้าวไกลทุกคน ยินดีกับผู้ชนะที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้แทน ตนพร้อมจับมือทำงานเพื่อชาวเชียงใหม่ โดยเฉพาะการแก้ปัญหา PM 2.5 ที่ได้นำร่องมาแล้วในการผลักดัน พ.ร.บ.อากาศสะอาด

ตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยกันกับพรรคก้าวไกล แต่ถ้าเรื่องใดอยู่บนพื้นฐานของความเจริญและความสุขของชาวเชียงใหม่ ตนยินดีร่วมงาน เพราะมั่นใจว่าจะจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันได้ สำหรับผู้สมัครเขต 1 เชียงใหม่ ด้วยตำแหน่งและประสบการณ์ บวกกับเป็นชาวเชียงใหม่เหมือนกัน เชื่อว่าจะการผลิตนโยบายใหม่ๆ ดีๆ ให้ชาวเชียงใหม่ร่วมกันได้

“ตนเดินหน้าด้วยความรักชาวเชียงใหม่ ด้วยสารตั้งต้นนี้พร้อมจะใช้ชีวิตที่เหลือทำเพื่อชาวเชียงใหม่ หากคนไหนที่คิดว่าตนมีประโยชน์ และเห็นถึงความตั้งใจของตน ขอใช้คำนี้เลยว่าเอาท็อปไปใช้ได้เลย ไม่ว่าจะมิติไหนก็เรียกใช้ได้เลย” นายจักรพล กล่าว

นายจักรพล กล่าวขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้กับสีแดง พรรคเพื่อไทย และมอบให้ตนในฐานะผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ได้คะแนน 3 หมื่นกว่าเสียง ถือว่าเป็นกำลังใจที่เพียงพอ ล้นเหลือให้ทำงานต่อเพื่อชาวเชียงใหม่ตลอดทั้งชีวิตจากนี้ ส่วนประชาชนที่เลือกสีส้ม พรรคก้าวไกล ถือว่าประชาธิปไตยได้เบ่งบานแล้ว และอยากให้เป็นฟ้าสีทองผ่องอำไพ รอไว้ให้ชาวเชียงใหม่ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งอะไรก็ยินดีทำ รอพรรคประสาน ทำงานมาตลอด ทั้งพรรค ภาค และสภาฯ คิดว่าสำหรับผู้ที่ผิดหวังครั้งนี้ไม่ใช่สุดท้าย แต่กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้น ถ้าได้รวมพลังกับพรรคก้าวไกลได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน เชื่อว่าจะผลิตนโยบายดีๆ และทุกคนจะทำงานได้อย่างเต็มที่ การพ่ายแพ้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่กลับทำให้เราต้องเดินหน้าทำงานอย่างหนักหน่วงต่อไป

ส่วนเรื่องลงพื้นที่ที่ผ่านมามั่นใจทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนการสลับเขตมองว่าเป็นเรื่องยุทธศาสตร์ของพรรคที่ไม่มีถูกผิด เพราะเหมือนกับหวยที่ซื้อแล้วต้องมีทั้งถูกและไม่ถูก จึงอยากให้มองว่าที่ผ่านมาตนได้ลงพื้นที่และทำงานในสภาฯ เต็มที่ ไม่อยากให้เอาคำพูดแล้วมาทำให้การเดินหน้าทำงานสะดุด เป็นฉันทามติ ยอมรับความเสี่ยง หากถามว่าอยู่ที่เดิมชนะไหม ตนเชื่อเสมอว่าไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ไม่ได้คิดว่าจะแพ้ ยอมรับว่าผลคะแนนที่ออกมาน่าตกใจ แต่เคารพทุกเสียงโหวต หวังจะสามารถร่วมงานและผลิตสิ่งดีๆ ให้ชาวไทย พร้อมจับมือทำงานเพื่อชาวเชียงใหม่ โดยเฉพาะการแก้ปัญหา PM 2.5 ที่ได้นำร่องมาแล้วในการผลักดัน พ.ร.บ.อากาศสะอาด พร้อมทั้งมองความพ่ายแพ้รอบนี้ ว่าเป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่ทำให้ต้องทำงานอย่างหนักหน่วงต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

พล.อ.ณัฐพล เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.-พล.อ.ณัฐพล รมช.กห. เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session of Thailand […]

“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด จับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาส

กทม. 7 ส.ค.-“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด บุกจับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก๊วนกิ๊กเก่า “สีกากอล์ฟ” หลังพบทุจริตยักยอกเงินวัด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปาตแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาฯ ป.ป.ท. นำกำลังตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “กอล์ฟทีม EP.1” บุกค้นเป้าหมาย 3 จุด ใน จ.สุราษฎร์ธานี จ.พิจิตร และ จ.สมุทรสงคราม เพื่อจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ และ คนใกล้ชิด ที่เคยพัวพันสัมพันธ์ฉาวสีกากอล์ฟ หลังพบกระทำผิดทุจริตยักยอกเงินวัดมาใช้ดูแลสีกา เป้าหมายจุดแรกที่เข้าตรวจค้นเป็นสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทิวากร ดีไพร หรือ […]

มท.1 เด้งฟ้าผ่า ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี

เมืองทองธานี 7 ส.ค.-รมว.มหาดไทย สั่งเด้งฟ้าผ่า “ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี” ก่อนประชุมมอบนโยบายกระทรวงมหาดไทย เหตุมีปัญหาเบิกจ่ายงบประมาณดูแลประชาชนได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนการประชุมมอบนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ว่า ได้มีการสั่งย้าย ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้มาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย หลังมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีการเบิกงบทดรองราชการจ่ายเพียง 55,600 บาท จากที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ 100 ล้านบาท ส่วนจะย้ายชั่วคราว หรือถาวรน้้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน เมื่อถามว่า จะรอผลสอบก่อนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากันในรายละเอียด โดยคำสั่งจะออกในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ว่าได้เดินทางมาร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย​ แต่ปฏิเสธที่จะแสดง​ความเห็น​ และไม่ขอให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน.-315.-สำนักข่าวไทย

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]