รวบนางนกต่อ พร้อมพวกรวม 3 คน สังหารนักธุรกิจจีน

ตรัง 17 พ.ค. – รวบแล้ว 3 คนร้ายก่อเหตุแทงนักธุรกิจชาวจีน 20 แผล ดับคารีสอร์ตใน จ.ตรัง หนึ่งในนั้นเป็นนางนกต่อ ที่มาเปิดห้องกับผู้ตาย ตำรวจแกะรอยจากรถของผู้ตายที่คนร้ายขโมยไป จนรวบตัวได้


วงจรปิดของรีสอร์ตหรู ในพื้นที่ ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง จับภาพรถเก๋งสีขาว กำลังขับออกจากรีสอร์ต ในช่วงเวลา 02.23 น. ของวันที่ 15 พ.ค.66 รถคันนี้เป็นของนายซีรุย ลี (Mr.Zhirui Li) อายุ 43 ปี สัญชาติจีน อาชีพนักธุรกิจส่งออกไม้ยางพารา ในพื้นที่ จ.ตรัง จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.สงขลา แต่คนที่ขับออกไปเป็นกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุสังหารนายซีรุย ลี แล้วขโมยรถขับหลบหนี ซึ่งหลักฐานนี้กลายเป็นเบาะแสสำคัญในการติดตามจับกุมกลุ่มคนร้าย

จากวงจรปิดพบว่า วันเกิดเหตุ ผู้ตายมาเปิดห้องช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. แวะซื้อเบียร์ 3 ขวด โดยที่ไม่ทราบว่าใครอยู่ภายในรถบ้าง เนื่องจากรถติดฟิล์มดำสนิท ก่อนจะออกมาซื้อเบียร์อีก 4-5 ครั้ง รวมทั้งหมด 7 ขวด 1 กระป๋อง กระทั่งวงจรปิดจับภาพรถผู้ตายครั้งสุดท้ายในช่วงเวลา 02.23 น. ที่กลุ่มคนร้ายขับออกไป


จากข้อมูลทราบว่า ผู้ตายขับรถมาเปิดห้องพักค้างคืน 790 บาท จ่ายด้วยเงินสด โดยมาพร้อมเพื่อนสาวชาวไทย วันถัดมา แม่บ้านโทรศัพท์ไปหาผู้ตาย ซึ่งได้ให้เบอร์ไว้กับทางรีสอร์ต เนื่องจากยังไม่มีการเช็กเอาต์ หรือต่อเวลา ปรากฏว่าไม่รับสาย จึงไปเคาะประตู เพื่อเข้าไปทำความสะอาด เมื่อเปิดประตูเข้าไป พบมีเลือดหน้าห้องพัก จึงตามเพื่อนมาดู ก็พบร่างผู้ตาย เวลาประมาณ 12.00 น. จึงรีบแจ้งตำรวจ

ตำรวจ สภ.เมืองตรัง เข้าตรวจสอบ พบสภาพศพนอนคว่ำหน้า นุ่งผ้าขนหนูเพียงผืนเดียว มีกองเลือดกระจัดกระจายอยู่ทั่วห้องน้ำ มีบาดแผลเหวอะหวะทั่วร่างกาย เข้าบริเวณด้านหน้าประมาณ 9 แผล บริเวณหลัง 11 แผล รวมกว่า 20 แผล ซึ่งจุดที่ทำให้เสียชีวิตเป็นบาดแผลที่แทงเข้าบริเวณหัวใจ โดยเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง คาดว่าอาวุธน่าจะเป็นมีดปอกผลไม้ ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบภายในห้องพัก พบมีรอยเท้าของผู้หญิง และรอยเท้าของผู้ตาย ซึ่งคาดว่าผู้หญิงน่าจะเป็นคนลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว

จากนั้น ภรรยาชาวไทยที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมด้วยบรรดาญาติพี่น้องและพนักงานบริษัทฯ ของผู้ตาย เดินทางมายังที่เกิดเหตุ โดยภรรยาร่ำไห้ปริ่มจะขาดใจ และเป็นลมล้มพับไปหลายรอบ ทำให้บรรดาญาติพี่น้องต้องช่วยกันปลอบใจอยู่ตลอดเวลา


ภรรยาบอกว่า สามีเข้ากับทุกคนได้ดี เป็นคนใจเย็น มีลูกด้วยกันทั้งหมด 3 คน ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายบอกกับภรรยาว่ามาเคลียร์งานที่ จ.ตรัง ประกอบกับบ้านของภรรยาอยู่ที่ จ.ตรัง ด้วย แต่ส่วนใหญ่ผู้ตายจะไม่ค่อยนอนที่บ้านภรรยา จะมาเปิดรีสอร์ตแห่งนี้นอนเป็นประจำ ส่วนเรื่องผู้หญิงนั้น ที่ผ่านมาที่มีการคบหาแบบจริงจังไม่เคยมี และตนไม่เคยรู้

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ซึ่งลงมาติดตามสั่งการด้วยตัวเอง เปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นชาวจีนที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย ธุรกิจที่ตรังก็มี ที่สุราษฎร์ฯ ก็มี ส่วนการลงมือก่อเหตุ จากการตรวจสอบน่าจะเป็นการก่อเหตุจากทางด้านหลังของผู้ตาย และอาจจะเป็นแผลแรกที่ทำให้เสียชีวิตเลย ส่วนจะมีการวางยาหรือไม่ ให้ตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ก่อน จากการตรวจสอบขวดเบียร์ที่อยู่ในห้อง อาจจะถูกสังหารตอนเมา จึงไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ คาดว่าทั้งเมาและถูกทำร้ายอาจเป็นไปได้ พร้อมตรวจสอบเส้นทางการเงินและบัญชีของผู้ตาย ว่ามีเงินในบัญชีเคลื่อนไหวเข้าออกก่อนที่จะเสียชีวิต หรือหลังเสียชีวิตด้วยหรือไม่ เบื้องต้นตั้งปมฆ่าชิงทรัพย์ และขัดแย้งทางธุรกิจ

หลังเกิดเหตุ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 สั่งระดมกำลังทั้ง สภ.เมืองตรัง สืบสวนตำรวจภูธรตรัง สืบสวนภาค 9 ตำรวจกองปราบฯ และหลายจังหวัด ช่วยกันแกะรอยติดตามรถของผู้ตายที่ถูกคนร้ายขโมยไป ซึ่งมุ่งหน้าออกจาก จ.ตรัง ไปยัง จ.พัทลุง เข้าสู่ จ.สงขลา พบว่า คนในรถไปกินเที่ยวที่ จ.สงขลา จากนั้นขับรถต่อไปที่ อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล และล่าสุดสามารถจับกุมคนร้ายได้ 3 คน เป็นหญิง 1 คน ซึ่งเป็นคนที่ไปเปิดห้องพักกับผู้ตาย และมีชายอีก 2 คน เป็นเยาวชน 1 คน ทั้งหมดถูกควบคุมตัวไปสอบปากคำที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 คาดว่าช่วงบ่ายวันนี้ (17 พ.ค.66) จะคุมตัวกลับมาที่ จ.ตรัง เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

เบื้องต้นตำรวจยังไม่เปิดเผยรายละเอียดมากนัก คาดว่าคนร้ายทั้งหมดหวังชิงทรัพย์ โดยมีหญิงสาวที่ผู้ตายติดต่อมาค้างคืนด้วยเป็นนางนกต่อ เพราะก่อนหน้านั้นทราบว่า มีชายวัยรุ่นติดต่อขอเช่าห้องพัก รวม 4 ห้อง แต่หลังเกิดเหตุได้หายตัวไปด้วย เชื่อว่าคงเป็นผู้ร่วมแก๊ง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก