fbpx

“ลุงพล-ป้าแต๋น” นำทีมถวายต้นเงินกว่า 2 แสน เป็นพุทธบูชาองค์พระธาตุพนม

นครพนม 4 ก.พ. – “ลุงพล-ป้าแต๋น” นำทีมถวายต้นเงินกว่า 2 แสนบาท เพื่อเป็นพุทธบูชาองค์พระธาตุพนม ในงานบุญใหญ่ประจำปี เจ้าตัวลั่นทำด้วยความบริสุทธิ์ใจจากพลังศรัทธา เชื่อมั่นทำความดีต้องได้ดี


บรรยากาศวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ลุงพล หรือนายไชย์พล วิภา พร้อมป้าแต๋น หรือนางสมพร หลาบโพธิ์ นำทีมงานสายบุญมาถึงวัด พร้อมประกอบพิธีเวียนเทียนสักการะบูชาองค์พระธาตุพนม ตามประเพณีและความเชื่อความศรัทธา

นอกจากนี้ทั้งคู่และทีมงานสายบุญยังร่วมกันถวายต้นเงินตามประเพณีโบราณ โดยต้นเงินนี้ ลุงพลและป้าแต๋นเปิดให้ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคทำบุญตามกำลังศรัทธา ทำให้ยอดปัจจัยในวันนี้สูงถึง 207,779 บาท


“ลุงพล” ลั่นไม่ได้บังคับใครบริจาค มั่นใจทำดีต้องได้ดี
ลุงพลเล่าว่า เส้นทางบุญนี้เริ่มขึ้นด้วยการเดินจากบ้านเกิด บ้านจำปาดง ต.กุดเรือคำ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม จนมาถึงที่วัดแห่งนี้ รวมเวลาเดินทาง 4 วัน ระยะทางเกือบ 200 กิโลเมตร และการเดินทางมาแบบนี้เป็นการแสดงออกถึงความศรัทธาต่อองค์พระธาตุพนม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ที่ภายในบรรจุพระอุรังคธาตุ กระดูกส่วนหน้าอกของพระพุทธเจ้า หวังว่าผลบุญจะส่งผลต่อครอบครัว เพราะที่ผ่านมาก็ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจขายอาหารเสริม เครื่องสำอาง ส่วนเงินบริจาคย้ำว่าไม่ได้บังคับ ให้บริจาคตามกำลังศรัทธา และทำบุญด้วยความบริสุทธิ์ใจ แม้จะมีกระแสดราม่าก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค ไม่เกิดความท้อแท้ เพราะยังยึดมั่นว่าทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ และคนทำดีต้องได้ดี

กรณีลุงพลบอกว่ามีดราม่าเนื่องจากช่วงต้นเดือน ทนายสมเกียรติ โรจนวรกมล ทนายที่เคยรับว่าความให้ลุงพล แต่แตกคอกันในตอนหลัง ออกมาเรียกร้องให้วัดพระธาตุพนม และตำรวจ ตรวจสอบลุงพล เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมเดินแสวงบุญในครั้งนี้ว่าเป็นการฉวยโอกาสแอบแฝงสร้างคอนเทนต์ และอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย พ.ร.บ.จราจร และ พ.ร.บ.เรี่ยไรเงิน

ด้านทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ออกมาซัดกลับทนายสมเกียรติ บอกว่าในฐานะที่ตนเองเป็นไวยาวัจกรของวัดพระธาตุพนม ต้องปกป้องพระพุทธศาสนาไม่ให้ใครมาแอบแฝงหาผลประโยชน์ใส่ตัว ที่ผ่านมาตนเองจัดระเบียบดูแลเรื่องต่างๆ ร่วมกับกรรมการวัดมาตลอด ทนายสมเกียรติออกมาเรียกร้องให้ตรวจสอบกิจกรรมแสวงบุญของลุงพล ขออย่าเอาวัดไปเกี่ยวข้อง เพราะการทำบุญถือว่าเป็นเรื่องของศรัทธา ร่วมบริจาคทำบุญ ยืนยันว่าวัดพระธาตุพนมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและความขัดแย้งส่วนตัว ไม่ควรเอามาปนกับความเชื่อความศรัทธา.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้