แจ้ง 4 ข้อหาหนัก ตัด 4 คะแนน คนขับรถเทรลเลอร์เมาชน 16 คัน

นครราชสีมา 30 ม.ค. – ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหาหนักคนขับรถเทรลเลอร์ 22 ล้อ ชน 16 คัน บริเวณมอกลางดง พบปริมาณแอลกอฮอล์ 300 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถูกตัด 4 คะแนน ตามกฎหมายใหม่


กรณีรถเทรลเลอร์ 22 ล้อบรรทุกหินแม่น้ำโขงสำหรับแต่งสวน ชนรวมทั้งหมด 16 คัน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บริเวณมอกลางดง จ.นครราชสีมา วานนี้ (29 ม.ค.) ภายหลังตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ขึ้น 300 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกินกว่ากฎหมายกำหนด

พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า ได้สั่งการตำรวจในพื้นที่ดำเนินคดีกับคนขับรถพ่วงเทรลเลอร์คันต้นเหตุในฐานความผิด 4 ข้อหา คือ เมาสุราแล้วขับ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และขับรถประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต เบื้องต้นมีโทษข้อหาเมาแล้วขับถูกตัดแต้ม 4 คะแนน ตามกฎหมายใหม่ ปรับ 5,000-20,000 บาท และจำคุก 1 ปี ส่วนการชดเชยความเสียหายของคู่กรณี รถพ่วงเทรลเลอร์คันต้นเหตุมีประกันอุบัติเหตุภาคสมัครใจ ประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองตามเงื่อนไข


ขณะที่มาตรการป้องกันอุบัติเหตุถนนมิตรภาพ ช่วงทางลงเนินเขาลาดชันต่อเนื่องหลายกิโลเมตร ต้องประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้งสัญญาณไฟ รวมถึงป้ายแจ้งเตือนให้ชะลอความเร็ว ใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ทางลงเขา เพิ่มจำนวนป้ายแจ้งเตือนหรือไฟให้ครอบคลุมตลอดช่วงทางลงเขา รวมถึงมาตรการเพิ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่อำนวยความสะดวกการจราจรในช่วงเวลาที่มีปริมาณรถแออัด กวดขันจับกุมเมาแล้วขับ หรือขับรถประมาทหวาดเสียว นอกจากนี้จะประสานวิศวกรขนส่ง และผู้ประกอบการ ให้เข้มขวดการตรวจสภาพรถบรรทุกตามระยะเวลาที่กำหนด หรือตรวจสภาพรถก่อนเดินทางไกลทุกครั้ง เนื่องจากกรณีนี้คนขับให้การว่า รถมีปัญหาลมเบรกหมด จึงเบรกไม่อยู่ ทำให้เกิดอุบัติเหตุใหญ่ ที่สำคัญต้องขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของผู้ขับขี่ ต้องตระหนักอยู่เสมอ “ดื่มสุราอย่าขับรถ” หรือขับรถต้องปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 0% .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย