หนุ่มเพิ่งพ้นโทษ เมาคลั่งมีดแทง อส.ดับ ถูกยิงสวนบาดเจ็บ

ตรัง 10 ม.ค.- หนุ่มเพิ่งพ้นโทษไม่ถึงปี นั่งกินเหล้าขาว พอเมาได้ที่ มีเรื่องกับเจ้าของร้าน หลังแยกย้าย ยังกลับมาพร้อมขวานจะเอามาฟัน พ่อตัวเองเข้าช่วยเคลียร์ ยิ่งทำให้ไม่พอใจ จะใช้มีดแทงพ่อ อส.เข้าห้าม ถูกแทงแทน แข็งใจคว้าปืนยิงสวน หนุ่มคลั่งบาดเจ็บ ส่วน อส.เสียชีวิต


เมื่อช่วงเที่ยงคืนครึ่งที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.หาดสำราญ จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทในร้านขายของชำริมถนนทางเข้าศูนย์ราชการฯ ห่าง สภ.หาดสำราญ เพียง 400 เมตร มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 2 คน เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบกองเลือดจำนวนมากเปรอะเปื้อนทั้งบนพื้น เก้าอี้ และหน้าร้าน รวมถึงพบซองใส่ปืน หัวกระสุนขนาด .38 มีดพกพับด้าม เหล้าขาว 2 ขวด ส่วนผู้เสียชีวิต คือนายเขียน จันฝาก อายุ 57 ปี อส. ถูกแทงด้วยมีดพกที่เหนือสีข้าง 1 แผล, ไหล่ขวา 1 แผล, หูซ้าย (ติ่งหูขาด) 1 แผล และหลังใบหูซ้ายอีก 1 แผล

ขณะที่คนเจ็บ 2 คน คือ นายยุทธนา หรือย้อย อายุ 39 ปี และนายเหมือน เจ้าของร้านของชำ โดยนายยุทธนา บาดเจ็บเพราะถูก อส.ใช้ปืน .38 ยิงสวน ขณะลงมือแทง อส. ส่วนนายเหมือนถูกกระแทกด้วยของแข็ง มีแผลที่หน้าผาก และแขน


สอบสวนทราบว่า ช่วงเที่ยงเมื่อวานนี้ นายย้อย กินเหล้า และขี่รถจักรยานยนต์มากินเหล้าขาวต่อที่ร้านขายของชำ และพอเจอคนรู้จักก็ชวนกันนั่งกินเหล้า แต่ด้วยความเมา ทำให้นายย้อย พูดจาเสียงดัง เจ้าของร้านเข้าเตือนก็ไม่พอใจ ลงมือชกต่อยกับเจ้าของร้าน ทำให้ อส.และพ่อของนายย้อย รวมถึงคนที่เห็นเหตุการณ์ต้องเข้าห้าม ทำให้นายย้อย ยิ่งไม่พอใจ บุกไปโรงพักแจ้งความเจ้าของร้านขายของชำ ส่วนเจ้าของร้านก็ไม่พอใจ ไปแจ้งความกลับว่าถูกนายย้อยทำร้าย แต่ตำรวจยังไม่รับแจ้งความ เพราะเห็นว่าน่าจะเคลียร์กันได้

แต่เรื่องไม่จบ เพราะหลังจากทั้งคู่แยกย้ายกันกลับบ้าน นายย้อย ย่องมาที่ร้านขายของชำ พร้อมกับถือขวานมาด้วย แต่ปรากฏว่าเจ้าของร้านไม่อยู่ มีเพียง อส. และพ่อของตัวเองนั่งอยู่ และหวังว่าจะช่วยเคลียร์ปัญหาให้ได้ ยิ่งทำให้นายย้อย ไม่พอใจ อาละวาดทำลายข้าวของในร้าน พ่อพยายามเข้าห้าม แย่งขวาน นายย้อย ก็ว่าพ่อว่า จุ้นจ้าน จากนั้นชักมีดพกที่เอาติดตัวมาด้วยเตรียมแทงพ่อ อส.เห็นก็รีบห้าม แต่กลับถูกแทง จังหวะนั้น อส.จึงแข็งใจใช้ปืนประจำกายยิงสวนไป และมีการกอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน สุดท้าย อส.ถูกแทงเสียชีวิต ส่วนนายย้อย บาดเจ็บเพราะถูกยิง

เหตุการณ์นี้ ลูกชายเจ้าของร้านขายของชำ และลูกบุญธรรมของ อส. ต่างพูดว่า เรื่องไม่น่าเกิดขึ้น โดยเฉพาะลูกบุญธรรมของ อส.ยอมรับว่าเสียใจ พ่อเป็นคนดี ช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด ไม่น่ามาถูกแทงเสียชีวิต


สำหรับนายย้อย มือมีด ตำรวจเปิดประวัติคดีอาญา พบว่าตอนเป็นเยาวชนเคยต้องคดีใช้มีดแทงคนเสียชีวิต 1 คน จากนั้นปี 2555 ต้องคดีฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่นด้วยอาวุธมีด โดยคดีนี้ผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บสาหัส 1 คน ทำให้ถูกจับติดคุก เพิ่งพ้นโทษมาเมื่อปีที่แล้ว แต่พ้นโทษยังไมทันครบ 1 ปี ครั้งนี้ก็มาก่อเหตุแทง อส.เสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง